พ่อแม่จูงลูกสาววัย 13 ร้องกองปราบ ช่วยเร่งรัดคดีถูกเภสัชกร รพ.ดังเชียงใหม่ หลอกขืนใจในรถถึง 2 ครั้ง จนโรคซึมเศร้ากำเริบ แจ้งความแล้วไม่คืบ ซ้ำถูกข่มขู่อ้างรู้จักตำรวจใหญ่
วันนี้ ( 27 ก.ย.) ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายธมนันท์ แตงทิม หรือจ่าคิงส์ สะพานใหม่ พา ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี พร้อมพ่อและแม่ และอาของผู้เสียหาย เข้าพบ พ.ต.ท.ธนากร จาวรุ่งวณิชสกุล สว.(สอบสวน ) กก.1บก.ป.เพื่อขอให้ช่วยเร่งรัดคดีกรณี ด.ญ.เอ ถูก นายวิน (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี เภสัชกร โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ ขืนใจในรถ 2 ครั้ง เข้าแจ้งความแล้วคดีไม่คืบ ซ้ำถูกข่มขู่อ้างรู้จักตำรวจชั้นผู้ใหญ่
อาของ ด.ญ.เอ เปิดเผยว่า หลานสาวรู้จักกับ นายวิน ผ่านทางแอปพลิเคชันหาคู่ หลังคุยกันมานานร่วมปีแต่ไม่เคยพบกัน กระทั่งเมื่อวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมาครอบครัวของตนพาหลานสาวไปเที่ยวที่ จ.เชียงใหม่ เป็นเวลา 3 วัน ระหว่างนั้น ด.ญ.เอ ได้แอบนัดเจอกับนายวิน ซึ่งขับรถยนต์มารับที่โรงแรม ก่อนจะขับพาออกไปที่บริเวณ ถ.มณีนพรัตน์ ต.ศรีภูมิ อ.เมืองเชียงใหม่ ห่างจากที่พักไปแค่ 200 เมตร แล้วก็ลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ และปล่อยให้เดินกลับโรงแรมเอง
อาของ ด.ญ.เอ กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นอีก 2 วันต่อมา นายวินก็มาหลอกล่อหลานสาวไปอีก อ้างว่าขอเจออีกครั้งก่อนจะกลับ จากนั้นก็ขับรถมารับหลานพาไปข่มขืนตรงจุดเดิม และปล่อยให้เดินกลับโรงแรมเองอีกครั้ง หลังจากกลับมาบ้านที่สมุทรปราการแล้ว ด.ญ.เอพยายามจะติดต่อกับ นายวิน แต่ก็ถูกปฏิเสธ จึงมาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ครอบครัวทราบ ทุกคนก็รู้สึกตกใจ และตกลงกันว่าจะไปเจรจากับ นายวิน ที่เชียงใหม่ เมื่อไปถึงก็ถูกคนในบ้านข่มขู่ว่าจะฟ้องเอาผิดข้อหาบุกรุก อ้างด้วยว่ารู้จักกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ด้วย จนเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงเข้าแจ้งความที่ สภ.ช้างเผือกเมื่อวันที่ 28 ก.ค.แต่ผ่านมา แต่เวลานานกว่า 2 เดือน คดียังไม่คืบหน้า จึงตัดสินใจมาร้องเรียนที่ บชก.ให้ช่วยเร่งรัดคดีด้วย
"หลังเกิดเรื่องสภาพจิตใจของหลานสาวค่อนข้างน่าเป็นห่วง เพราะเดิมทีก็ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าอยู่แล้ว ต้องกินยาทุกวัน ซ้ำต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ ทำให้มาบ่นอยู่บ่อยครั้งว่าไม่อยากที่จะมีชีวิตอยู่แล้ว" อา ของ ด.ญ. เอ กล่าว
เบื้องต้น พ.ต.ท.ธนากร ได้สอบปากคำผู้เสียหายไว้เป็นหลักฐาน ก่อนประสานไปยัง สภ.ช้างเผือก เพื่อเร่งรัดดำเนินการตามกฎหมายต่อไป