ผอ.โรงเรียนนัดเคลียร์ครูสาวถูก ผู้ปกครองบุกตบหน้าในห้องพักครู หลังลูกสาววัย 14 ฟ้องถูกด่าหยาบคาย แต่ไม่ลงตัว สองฝ่ายแจ้งความเอาผิด
จากกรณีที่เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 67 น.ส.ภคพร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี ร้องผ่านสื่อหลังลูกสาว คือน้องใบบัว อายุ 14 ปี นักเรียนชั้นม.2 ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ต.เกาะเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ถูกครูประจำชั้นด่าทอต่อหน้าเพื่อน ว่าไม่เข้าร่วมกิจกรรมทำให้อับอาย วันนี้จึงเข้าไปหาที่โรงเรียนก่อนจะมีการด่าทอ ทำให้ตนทนไม่ไหวตบครูสาวคู่กรณี ก่อนจะเดินทางมาแจ้งความที่สภ.ปากเกร็ด โดยทางครูสาวก็ได้เดินทางมาแจ้งความด้วยเช่นเดียวกัน
วันนี้( 26 ก.ย.)เมื่อเวลา 09.00น. ที่โรงเรียนวัดปรมัยยิกาวาส ต.เกาะเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ทางด้าน นายพรชัย หมื่นสุข ผู้อำนวยการโรงเรียน ร่วมกับกรมการปกครองอำเภอปากเกร็ด กระทรวงศึกษาธิการ บุคลากรคุณครูภายในโรงเรียน ผู้ใหญ่บ้านและคณะกรรมการชุมชน ได้มีการประชุมร่วมกันกับ น.ส.ภคพร อายุ 41 ปี และน้องใบบัว เพื่อหาทางออกในเรื่องดังกล่าว ซึ่งทางคุณครูคู่กรณีหรือ คุณครูเฉลิมศรี ครูประจำชั้นของน้องใบบัวอายุ 14 ปี ได้เข้าร่วมประชุมด้วย จึงได้แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปเนื่องจากยังหาทางแก้ไขไม่ได้ เพราะทั้งสองฝ่ายมีการแจ้งความดำเนินคดี
น.ส.ภคพร แม่ของน้องใบบัว กล่าวว่า วันนี้มาที่โรงเรียนเพื่ออยากหาคำตอบในเรื่องดังกล่าว ไม่พอใจที่คุณครูพูดคำหยาบกับลูกตน ซึ่งตนและสามียังไม่เคยด่าลูกด้วยคำหยาบเลยสักครั้ง ตนจึงอยากได้ข้อสรุปในเรื่องนี้ว่าจะต้องทำยังไงต่อกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนตนจะให้ลูกเรียนที่นี่ต่อ แต่ยังไม่ทราบว่าทางโรงเรียนจะให้ลูกตนทำยังไงต่อ แต่วันนี้รู้สึกเสียเวลาที่มาคุยเพราะยังไม่ได้ข้อสรุป ตนยอมรับผิดที่เข้าไปตบคุณครู แต่คุณครูก็ผิดที่พูดจาไม่ดีกับลูกตน
น้องใบบัว อายุ 14 ปี ลูกสาว เล่าว่า คุณครูมีอคติกับตนตลอดเวลา เวลาตนจะทำอะไรจะโดนตะคอกโดนดุตลอดเวลา ซึ่งกลุ่มเพื่อนก็โดนเช่นกัน ตนจึงอยากรู้ว่าคุณครูมีอะไรกับตนหรือไม่ เพราะตนไม่เคยทะเลาะกับคุณครูคนไหนมาก่อน ตนรู้สึกเหมือนโดนหลั่นแกล้ง เพราะโดนทุกอย่าง ตอนนี้อยากจบ ต่างคนต่างจบ
ทางด้านผู้อำนวยการ กล่าวว่า วันนี้ได้ทำการเรียกทั้งสองฝั่งมาประชุมร่วมกันซึ่งมี กระทรวงศึกษา กรมปกครอง หน่วยงานภายในโรงเรียน อยากให้ทั้งสองฝ่ายตกลงร่วมกัน เพื่อจบปัญหาดังกล่าว แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป เพราะทุกอย่างจะต้องทำตามกฎ ส่วนของเด็กถ้าผิดระเบียบทางโรงเรียนก็มีมีโทษอยู่ ส่วนทางด้านคุณครู ตนได้ทำเอกสารตรวจสอบวินัยไปที่หน่วยงานแล้วแต่จะต้องรอเวลาในการตรวจสอบ เพราะต้องมีหลักฐานและพยานหลักฐานร่วมด้วยว่าจะเข้าวินัยร้ายแรงหรือไม่ ซึ่งตัวคุณครูยอมรับว่าเป็นคนผิดที่พูดจาและคำหยาบ ตอนนี้ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบเท่านั้นทางโรงเรียนก็ไม่ได้ไล่เด็กออกแต่เกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำจึงจะต้องประชุมกันอีกครั้งเพื่อหาทางออกให้ได้ในวันนี้