MGR Online - "กรมคุก" ชี้แจงหนุ่มร้องมูลนิธิดังฯ สอบติดราชทัณฑ์-ลาออกที่ทำงานเก่า แต่สุดท้ายคุณสมบัติไม่ตรงเกณฑ์ ย้ำเคยขอให้ยื่นหลักฐานเพิ่มเติม
วันนี้ (23 ก.ย.) สืบเนื่องจากตามที่มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ได้แถลงข่าวกรณี นายสุรินทร์ (ขอสงวนนามสกุล) ได้เข้าร้องเรียนกับมูลนิธิฯ กรณีที่สอบผ่านการคัดเลือกเป็นข้าราชการกรมราชทัณฑ์ทั้งหมดแล้ว แต่ภายหลังกลับมีเจ้าหน้าที่แจ้งมาว่า คุณสมบัติวุฒิการศึกษาไม่ตรงตามหลักเกณฑ์ นั้น
กรมราชทัณฑ์ ขอชี้แจงข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าวว่า จากประกาศฯ ลงวันที่ 10 พ.ย.66 รับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการในตำแหน่งเจ้าพนักงานราชทัณฑ์ปฏิบัติงาน (งานควบคุมผู้ต้องขังชายและอื่นๆ) ได้กำหนดวุฒิการศึกษาของผู้สมัครสอบแข่งขันฯ ต้องเป็นผู้ได้รับ “ประกาศนียบัตรวิชาชีพเทคนิค (ปวท.) หรืออนุปริญญาหลักสูตร 2 ปี หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) หรืออนุปริญญาหลักสูตร 3 ปี ในทุกสาขาวิชาเท่านั้น” โดยมิได้เปิดรับสมัครคุณวุฒิอย่างอื่นที่เทียบได้ในระดับเดียวกัน พร้อมกันนี้ ยังได้ระบุเงื่อนไขการสมัครสอบแข่งขันฯ ว่า ผู้สมัครสอบจะต้องรับผิดชอบในการตรวจสอบและรับรองตนเองว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติตามประกาศรับสมัครฯ และจะต้องกรอกรายละเอียดต่างๆ ในใบสมัครให้ถูกต้องครบถ้วนตามความเป็นจริง
นอกจากนี้ ในกรณีที่มีการผิดพลาดอันเกิดจากผู้สมัครสอบแข่งขัน หรือตรวจพบว่าเอกสารหลักฐานต่างๆ หรือคุณวุฒิ ซึ่งผู้สมัครสอบนำมายื่นไม่ตรงหรือไม่เป็นไปตามประกาศรับสมัครสอบ กรมราชทัณฑ์จะถือว่าผู้สมัครสอบ เป็นผู้ขาดคุณสมบัติในการสมัครสอบแข่งขันครั้งนี้มาตั้งแต่ต้น รวมทั้งหากปรากฏภายหลังว่า ผู้สมัครสอบรายใดมีคุณสมบัติทั่วไปหรือคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งไม่ตรงตามประกาศรับสมัครสอบก็จะไม่มีสิทธิได้รับการบรรจุและแต่งตั้งให้เข้ารับราชการในตำแหน่งที่สอบแข่งขันดังกล่าว
กรณีของ นายสุรินทร์ โดยทาง กรมราชทัณฑ์ ได้มีหนังสือแจ้งให้มารายงานตัวในวันที่ 6 พ.ค.67 เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้ารับราชการ ด้วยความเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่าผู้สมัครสอบรายดังกล่าวได้ตรวจสอบคุณสมบัติและวุฒิการศึกษาของตนเองถูกต้องแล้ว ประกอบกับกรมราชทัณฑ์มีความต้องการบุคลากรเพื่อเสริมอัตรากำลังให้กับเรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศเป็นจำนวนมาก แต่กรมฯ ก็ยังมีหน้าที่ในการตรวจสอบคุณสมบัติเพื่อความถูกต้องก่อนออกคำสั่งแต่งตั้งฯ
และจากการตรวจสอบพบว่า นายสุรินทร์ ใช้คุณวุฒิ “ประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาชั้นสูง (ป.กศ.สูง)” ซึ่งไม่เป็นไปตามประกาศรับสมัครฯ เจ้าหน้าที่จึงได้โทรศัพท์ประสานในวันที่ 16 พ.ค.67 เพื่อขอเอกสารคุณวุฒิเพิ่มเติม อันเป็นการพิทักษ์สิทธิ์ให้กับนายสุรินทร์ อย่างเต็มที่แล้ว และกรมฯ ได้มีหนังสือลงวันที่ 24 พ.ค.67 แจ้งให้ นายสุรินทร์ ทราบถึงสาเหตุที่ไม่สามารถบรรจุได้ เนื่องจากขาดคุณสมบัติ โดยมิได้เพิกเฉยหรือเงียบหาย ไม่ได้ติดต่อกลับดังที่กล่าวอ้าง จากนั้นกรมฯ จึงได้มีคำสั่งบรรจุแต่งตั้งข้าราชการไปแล้วเมื่อวันที่ 27 พ.ค.67 ซึ่งไม่มีชื่อ นายสุรินทร์ เนื่องจากขาดคุณสมบัติตามประกาศรับสมัครสอบดังกล่าว อย่างไรก็ดี นายสุรินทร์ ยังคงมีสิทธิ์ในการยื่นเอกสารเพื่อขออุทธรณ์การพิจารณาบรรจุแต่งตั้งในครั้งนี้ได้
ต่อมา นายสุรินทร์ ได้ดำเนินการจัดส่งหนังสือจากสถาบันการศึกษา เพื่อเป็นการอุทธรณ์ตามสิทธิ์ที่พึ่งได้ ในวันที่ 30 พ.ค.67 ที่ระบุว่าเป็นผู้สำเร็จการศึกษา ตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาชั้นสูง สาขาวิชาพลศึกษา หลักสูตร 2 ปีเป็นระดับอนุปริญญา ซึ่งกรมราชทัณฑ์ ได้ตรวจสอบ วุฒิการศึกษาจากเว็บไซต์ของสำนักงาน ก.พ. แล้วพบว่า ขัดกับการรับรองคุณวุฒิของ สำนักงาน ก.พ. ที่มิได้ระบุว่าประกาศนียบัตรดังกล่าว คือ อนุปริญญา ที่สำคัญกรมราชทัณฑ์ มิได้เปิดรับสมัครคุณวุฒิอย่างอื่นที่เทียบได้ในระดับเดียวกัน จึงถือได้ว่าผู้สมัครสอบแข่งขันฯ เป็นผู้ขาดคุณสมบัติและไม่มีสิทธิเข้ารับการสอบแข่งขันฯ การใดที่ได้ดำเนินการไปแล้ว สำหรับผู้ขาดคุณสมบัติให้ถือเป็นโมฆะ
นอกจากนี้ การที่ผู้สอบแข่งขันได้ฯ จะลาออกจากหน่วยงาน หรือ สถานที่ทำงานเดิมเมื่อใดนั้น สามารถกระทำได้ตามสิทธิ์ของผู้สอบแข่งขันได้ฯ โดยการที่กรมราชทัณฑ์ ได้มีการประกาศรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้ฯ หรือมีหนังสือแจ้งระยะเวลาการดำเนินการ เป็นเพียงการแจ้งห้วงระยะเวลาให้ทราบขั้นตอนและเตรียมความพร้อมสำหรับการบรรจุแต่งตั้ง โดยกรมราชทัณฑ์จะมีกระบวนการตรวจสอบคุณสมบัติให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 แม้ได้รับการบรรจุแต่งตั้งไปแล้วก็ตาม ก็จะมีกระบวนการตรวจสอบวุฒิการศึกษาและอื่นๆ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง หากตรวจสอบภายหลังแล้วพบว่าผู้สอบแข่งขันได้ฯ รายใด เป็นผู้ขาดคุณสมบัติกรมราชทัณฑ์จักต้องดำเนินการให้ข้าราชการผู้นั้นออกจากราชการ
ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์ขอยืนยันว่า ได้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขตามที่ สำนักงาน ก.พ. กำหนด ทุกประการด้วยความถูกต้อง จึงชี้แจงมาเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง