แม่ค้าอาหารอีสาน วัย 62 ปี ร้องขอความช่วยเหลือทีมงานเพจสายไหมต้องรอด ถูกกลุ่มสาววัยรุ่นบุกพังประตูห้อง ลากตัวออกมารุมทำร้ายเจ็บสาหัส แจ้งความที่ สน.บางพลัด ผ่านมา 3 เดือนคดียังไม่คืบหน้า
วันนี้ (17 ก.ย.) นางบุญมี คล้ายสวัสดิ์ อายุ 62 ปี แม่ค้าอาหารอีสาน เข้าขอความช่วยเหลือกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังถูกกลุ่มวัยรุ่นหญิง 3 คน อายุระหว่าง 22-23 ปี บุกพังประตูห้องพักภายในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ย่านซอยจรัญสนิทวงศ์ 57 และลากตัวนางบุญมีออกมารุมทำร้ายนอกห้องจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา แจ้งความไว้กับตำรวจ สน.บางพลัด แต่ผ่านมา 3 เดือน คดีไม่คืบหน้า
นางบุญมี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณตี 3 เพิ่งกลับมาจากขายอาหาร และกำลังขนของขึ้นห้องพัก โดยได้เดินผ่านกลุ่มวัยรุ่นคู่กรณี 3 คนที่นั่งอยู่ทางเข้าลิฟต์ ซึ่งตอนนั้นทุกอย่างปกติ ตนเองจึงขนของขึ้นไปที่ชั้น 7 โดยหนึ่งในนั้นเป็นทอม เข้าลิฟต์มาด้วยแต่ลงที่ชั้น 3 แต่ระหว่างที่กำลังจะขนของเข้าห้อง เพื่อนของคนที่เป็นทอม ซึ่งมีท่าทางมึนเมา หนีบขวดเหล้าอยู่ใต้วงแขน ก็ขึ้นมาหาเรื่อง หาว่าตนเองไปด่าทอสาวทอมขณะอยู่ในลิฟต์ ตนเองก็ปฏิเสธว่าไม่ได้ด่า ไม่รู้จักกัน แต่อีกฝ่ายยังผลักตนเอง 1 ครั้ง จากนั้นอีกฝ่ายก็ลงลิฟต์ไป
ส่วนตนเองขนของเข้าห้อง จากนั้นสามีของตนเองก็พาตนเองลงไปเคลียร์ใจกับกลุ่มคู่กรณีที่อยู่ด้านล่าง โดยพูดดีๆ ยืนยันไม่ได้ด่า และจำผิดคนหรือเปล่า แต่อีกฝ่ายกลับบอกว่าด่าหลายรอบแล้ว และเพื่อนของทอมก็ไปเอาของบางอย่างลักษณะคล้ายอาวุธใต้เบาะรถจักรยานยนต์ แต่ถูกทอมและเพื่อนอีกคนห้ามไว้ และอีกฝ่ายก็ยังโทรศัพท์ตามเพื่อนๆ แก๊งวัยรุ่นอีกหลายคนมาสมทบ เมื่อมาถึงก็ผลักตนเองอีก 1 ครั้ง พอดีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้ามาห้าม และบอกให้ตนเองขึ้นห้องพัก แต่ไม่นานกลุ่มวัยรุ่นคู่กรณี 3 คนก็ตามตนเองขึ้นมาที่ชั้น 7 ทุบพังประตูเข้ามา ตนเองพยายามบอกให้สามีช่วยเรียกตำรวจ แต่อีกฝ่ายบอกว่า เก่งนักเหรอเรียกตำรวจ ไปเรียกมาเลย ก่อนจะจิกผมกระชากศีรษะจนตนเองล้มศีรษะฟาดพื้นแตก และรุมตีรุมกระทืบตนเองอยู่หน้าห้อง ก่อนจะลงลิฟต์ไป ส่วนตัวเองนอกจากศีรษะแตก ยังมีแขนบวมช้ำ ขยับไม่ได้ และยังฟกช้ำตามร่างกายอีกหลายแห่ง
หลังเกิดเหตุก็ได้ไปแจ้งความกับตำรวจ สน.บางพลัด แต่ผ่านมา 3 เดือนแล้ว ยังไม่มีความคืบหน้า ตำรวจบอกว่า รอสอบปากคำเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในที่เกิดเหตุอยู่ และขอเวลาทำงานต่อ แต่โทรศัพท์ไปทีไรก็ไม่เห็นมีความคืบหน้า ตนเองกลัวจะไม่ได้รับความเป็นธรรม อีกทั้งทุกวันนี้กลุ่มคู่กรณีก็ยังนั่งอยู่ที่ชั้นล่างของคอนโดมิเนียม เจอหน้ากันทุกวัน ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เมื่อตนเองเดินผ่านก็มักจะสะกิดเพื่อนให้มองตนเอง และแสดงสีหน้าทำนองเยาะเย้ย จึงยังกังวลเรื่องความปลอดภัยกลัวอีกฝ่ายจะยกพวกมาทำร้ายอีก จึงมาร้องต่อเพจสายไหมต้องรอด ทั้งนี้คนในชุมชนบอกว่าแก๊งวัยรุ่นแก๊งนี้กิตติศัพท์ร่ำลือ ชอบมาตั้งวงดื่มสุราเมามายใต้คอนโดฯ และมีเรื่องทะเลาะวิวาท ไล่แทงกับคนอื่นเป็นประจำ
ขณะที่นายเอกภพ เปิดเผยว่า สำหรับเคสนี้มีการแจ้งความไว้แล้วที่ สน.บางพลัด ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าผลแพทย์น่าจะออกตั้งแต่เดือนแรกแล้ว เรื่องนี้ค่อนข้างอุกอาจ บุกขึ้นไปบนห้องทำร้ายยายและมีพฤติกรรมที่ผิดกฎหมายหลายข้อมาก เช่น ทำลายสิ่งกีดขวาง ทำร้ายร่างกาย บุกรุกยามวิกาล หรือทำร้ายให้เสียทรัพย์ เหตุการณ์เกิดขึ้นหลายเดือนแล้วแต่ทำไมยังช้าอยู่ ซึ่งพฤติกรรมที่บุกรุกยามวิกาลและทำลายเครื่องกีดขวางเข้าไปควรจะดำเนินคดีได้เลยเพราะยิ่งทำให้ผู้ก่อเหตุย่ามใจ และคิดว่าก่อเหตุไปแล้วใครจะทำอะไรได้ จากเหตุการณ์นี้ลูกสาวก็เป็นห่วง ต้องให้กฎหมายดำเนินการอย่างจริงจัง ไม่มีอะไรซับซ้อนเพราะมีคลิปวิดีโอเป็นหลักฐานทั้งหมด คนพวกนี้ต้องให้ไปอยู่ในคุกถึงจะหลาบจำ เชื่อว่า 1-2 วันนี้ จะดำเนินคดีได้ทั้งหมด ขอให้ผู้กำกับเร่งรัด คนทั่วประเทศก็มาร้องกับสายไหมหมดเพราะคดีไม่คืบหน้า