“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APPสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูปNEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจNEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันพุธที่ 11 กันยายน 2567 ตอน ภารกิจไม่ลับ 'ธีรรัตน์ มท.4' กู้ชีพ 'เพื่อไทย' ใน กทม.
วันแรกของการเข้าที่กระทรวงมหาดไทยพร้อมกันของรัฐมนตรีทั้ง 4 คน ปรากฏว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ออกลีลาหยอดลูกหวานไปถึงนางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ และ นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยหญิงทั้งสองคนว่า เป็นคนคุณภาพที่จะสามารถทำงานได้เป็นอย่างดี
มองภาพรวมของกระทรวงมหาดไทยนั้นถือเป็นอีกหนึ่งกระทรวงที่มีรัฐมนตรีจากต่างพรรคเข้ามาร่วมรัฐบาล ซึ่งโครงสร้างของผู้บริหารกระทรวงลักษณะนี้ถ้าทำงานร่วมกันได้ดีก็จะดีไปเลย ตรงกันข้ามหากแย่ก็จะแย่แบบสุดขั้วเช่นกัน
ตัวอย่างมีให้เห็นจากกรณีของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์สมัยรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งปรากฎว่ารัฐมนตรีเจ้ากระทรวงจากพรรคพลังประชารัฐและรัฐมนตรีช่วยจากพรรคเพื่อไทย มีคอนเทนต์ดราม่าเกือบทุกวัน จนกลายเป็นข่าวความขัดแย้งตามหน้าสื่อ ซึ่งมาจากการแบ่งงานภายในกระทรวงไม่ลงตัว
กรณีของกระทรวงมหาดไทยน่าคิดเหมือนกันว่าจะไปกันรอดหรือไม่ เพราะเป็นลักษณะของ 3 ต่อ 1 กล่าวคือ มีรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทย 3 คน จากพรรคเพื่อไทย 1 คน หรือถ้าจะเรียกว่า 3 รุม 1 ก็คงไม่ผิดนัก
โดยปัจจัยชี้ขาดว่าจะไปรอดไม่หรือไม่รอดขึ้นอยู่กับการแบ่งงานภายในกระทรวงมหาดไทย โดยเมื่อครั้งสมัย 'เกรียง กัลป์ตินันท์' ของพรรคเพื่อไทยไปทำหน้าที่เป็นมท.4 ถือว่าได้กำกับดูแลงานที่เป็นเนื้อเป็นหนังพอสมควร ประกอบด้วย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร และกำกับดูแลองค์การตลาด และองค์การจัดการน้ำเสีย
เมื่อดูแล้ว 'รมต. ธีรรัตน์' ก็น่าจะได้ดูแลหน่วยงานในกลุ่มนี้เป็นหลักไม่ต่างกัน เหลือเพียงว่าจะมีการยื่นหมูยื่นแมว เพื่อขอกรมพัฒนาชุมชนหรือไม่ เนื่องจากเป็นหน่วยงานที่บริหารจัดการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ซึ่งเป็นวาระเรื่องการส่งเสริมความหลากหลายทางเพศ เป็นเรื่องสำคัญที่นายกฯแพทองธาร อยากให้ออกดอกออกผลในรัฐบาลชุดนี้เช่นกัน เพื่อโกยคะแนนจากคนกลุ่มนี้ให้เพิ่้มมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม หากมองภารกิจหลักของรัฐมนตรีหญิงป้ายแดงจากเมืองหลวงครั้งนี้ โฟกัสสำคัญอยู่ที่การกำกับดูแลกิจการของ 'กรุงเทพมหานคร' มากกว่าหน่วยงานใด หลังจากพรรคเพื่อไทยแพ้การเลือกตั้งสนามเมืองหลวงแบบหมดรูปให้กับพรรคก้าวไกล มีเพียง 'ธีรรัตน์' เพียงคนเดียวที่สามารถเข้าสภามาได้ ซึ่งก็เข้ามาได้ด้วยคะแนนที่ชนะพรรคก้าวไกลที่วันนี้อวตารเป็นพรรคประชาชนแบบหืดขึ้นคอ แค่4 คะแนนเท่านั้น
พื้นที่กรุงเทพมหานคร มีความสำคัญกับพรรคเพื่อไทยมากกว่าทุกครั้ง โดยเวลานี้ก็ถือเป็นนาทีทองของพรรคเพื่อไทยที่จะปั้นผลงานให้คนเมืองหลวเห็นประจักษ์ เนื่องจาก 'ชัชชาติ สิทธิพันธุ์' ผู้ว่าฯกทม.เองก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกลสำหรับพรรคเพื่อไทย หลังจากเคยเป็นแดนดิเดทนายกฯของพรรคเพื่อไทยมาก่อน อีกทั้งสมาชิกสภาเขตกรุงเทพมหานครก็สามารถทำงานร่วมกับชัชชาติได้เป็นอย่างดี
อีกทั้ง 'ชัชชาติ' น่าจะคุยภาษาเดียวกับรัฐบาลพรรคเพื่อไทยและนายกฯที่มาจากครอบครัวชินวัตรโดยตรงได้สะดวกมากขึ้น เช่นนี้ จึงกลายเป็นการทำงานสามประสานระหว่าง 'มท.4-ชัชชาติ-สก.เพื่อไทย' เพื่อเป้าหมายใหญ่ในการเลือกตั้งครั้งหน้า
เหนืออื่นใด หากรัฐบาลพรรคเพื่อไทยสร้างผลงานในกรุงเทพมหานครให้เป็นที่ประจักษ์ขึ้นได้ โดยเฉพาะนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายแบบทุกสี แน่นอนว่าความไม่พอใจคนกรุงที่มีต่อรัฐบาลจะลดลง ซึ่งจะเป็นผลดีต่อตัวรัฐบาลเองที่ในระยะยาวมีความจำเป็นต้องอาศัยความชอบธรรมจากคนเมืองหลวง เพื่อให้รัฐบาลอยู่ในอำนาจได้ตลอดรอดฝั่ง
ดังนั้น แม้ 'ธีรรัตน์' จะเข้าไปในกระทรวงมหาดไทยในฐานะมท.4 แต่มีภารกิจที่ต้องแบกพรรคเพื่อไทยไว้บนบ่าหนักหนาสาหัสกันเลยทีเดียว
------------------------------
**หมายเหตุ
แอป Sondhi App ดาวโหลดได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore :https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play :https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android