ภรรยาช่างซ่อมตู้น้ำหยอดเหรียญร้องกองปราบ ช่วยสางคดีสามีถูกกลุ่มชายฉกรรจ์รุมทำร้ายจนเสียชีวิตแล้วใส่ร้ายว่าเป็นโจร สงสัยเจ้านายเก่าอยู่เบื้องหลัง เหตุไม่พอใจที่ผู้ตายลาออกมารับงานเอง
วันนี้ ( 10 ก.ย. ) ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายธมนันท์ แตงทิม หรือ จ่าคิงส์ สะพานใหม่ พา น.ส.ชุติกาญจน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.สมชาย รอดแป้น สว.(สอบสวน) กก.2.บก.ป. เพื่อร้องขอความเป็นธรรม กรณี นายนัฐพล จันทร์ภูมิ อายุ 28 ปี สามี อาชีพช่างซ่อมตู้น้ำหยอดเหรียญ ที่ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์รุมทำร้ายจนเสียชีวิต ขณะรับงานซ่อมแซมตู้น้ำภายในซอยมาบยายเลีย 34 หมู่ 7 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
น.ส.ชุติกาญจน์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา นายนัฐพล สามีของตนได้ถูกทำร้ายร่างกายโดยคาดว่าถูกคนร้าย 3 รายรุมตีศรีษะทำให้บาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตลงในวันที่ 24 ส.ค. โดยพี่ชายของสามีได้เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. หนองปรือ จ.ชลบุรี แต่ทางผู้ต้องหาได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าสามีของตนได้ไปงัดตู้น้ำหยอดเหรียญขโมยเงิน เมื่อผู้ต้องหามาพบ สามีตนจะหลบหนีขึ้นรถกระบะ ผู้ต้องหาจึงดึงกระชากเป็นเหตุให้สามีตกจากรถหัวกระแทกพื้น แต่ตนทราบมาว่าเหตุการณ์ดังกล่าวมีพยานอยู่ในนั้นด้วย ซึ่งพยานคนดังกล่าวเป็นเพื่อนของสามีได้บอกว่าในวันเกิดเหตุ มีผู้หญิงซึ่งเป็นเจ้าของบ้านได้ติดต่อสามีตนให้ไปซ่อมตู้กดน้ำหยอดเหรียญ สามีตนพร้อมพยานจึงเดินทางไปที่เกิดเหตุ โดยมีพยานเป็นคนขับรถกระบะและนั่งรออยู่ในรถ พร้อมกับเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นว่าสามีของตนนั้นไม่ได้ตกจากรถแต่ถูกทำร้ายจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต ซึ่งตัวพยานได้มีการให้การกับตำรวจไปแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมผู้ต้องหา 2 ใน 3 ราย ในข้อหาพยายามฆ่า,ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย และผู้ต้องหาได้ถูกประกันตัวไปเป็นที่เรียบร้อย โดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เคยแจ้งให้ทราบ
น.ส.ชุติกาญจน์ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีหลักฐานกล้องวงจรปิดที่มีคลิปเสียงขณะเกิดเหตุ หลังจากที่ทำร้ายร่างกายสามีตนเสร็จเรียบร้อย ผู้ต้องหาได้มีการโทรหาบุคคลหนึ่งพร้อมกับรายงานว่าได้ทำงานเสร็จเรียบร้อย จึงคาดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้มีผู้ร้ายเพียง 3 ราย แต่น่าจะมีผู้บงการคนสำคัญ เนื่องจากสามีเคยเป็นพนักงานอยู่ในสังกัดเสี่ยตู้หยอดเหรียญชื่อดังผู้มีอิทธิพลใน จ.ชลบุรี แต่ก่อนเกิดเหตุสามีได้ลาออกพร้อมเปิดกิจการเป็นของตัวเอง และคาดว่าได้มีการรับงานทับเส้นกัน จึงทำให้พบว่าคดีดังกล่าวมีข้อพิรุธอยู่จำนวนมาก และยังเป็นห่วงในเรื่องของความปลอดภัยทั้งตัวของตัวเองและลูกรวมไปถึงญาติของสามี
น.ส.ชุติกาญจน์ กล่าวอีกว่า ก่อนเกิดเหตุเสี่ยคนดังกล่าวได้มีการแจ้งไปที่พี่ชายของสามีให้ไปเคลียร์ โดยอ้างว่าสามีได้ไปงัดตู้ขโมยเงินหยอดเหรียญ 30 ตู้ ตกตู้ละ 1,000 บาท รวมเป็น 30,000 บาท โดยมีการอ้างว่ามีหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งภาพหลักฐานดังกล่าวนั้นเป็นเพียงตอนที่สามีทำงานอยู่ ไม่ได้มีลักษณะชัดเจนว่าขโมยเงินออกมา นอกจากนี้ยังมีการโพสต์ใส่ร้ายสามีผ่านกลุ่มเฟสบุ๊กว่า “ช่างคนนี้เป็นโจร” ทั้งนี้ผลชันสูตรพลิกศพของสามีออกมาแล้ว โดยรายงานจากแพทย์นิติเวชประจำโรงพยาบาลระยองว่า สาเหตุการตายเกิดจากบาดเจ็บที่ศีรษะจากการถูกกระแทกด้วยวัตถุแข็งไม่มีคมและมีน้ำหนัก
ขณะที่ นายเอ กล่าวว่า ในวันที่เกิดเหตุมีผู้หญิงเจ้าของบ้านได้โทรให้ตนและผู้ตายออกไปซ่อมตู้หยอดเหรียญ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุผู้ตายได้ลงรถ ยังไม่ได้ทำอะไร ก็มีผู้ชาย 3 คนวิ่งถืออาวุธ พลั่ว,ไม้กอล์ฟ ออกมาทำร้ายร่างกายของผู้ตาย ซึ่งขณะนั้นตนนั่งอยู่ในรถ แต่ด้วยความกลัวตายจึงไม่ได้ลงไปช่วย และขับรถหนีออกมา ภาพสุดท้ายที่ตนเห็นคือผู้ตายล้มลงแล้ว ยืนยันว่าผู้ตายไม่ได้ตกรถเพราะไปขโมยเงินตู้หยอดเหรียญตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง แต่เสียชีวิตจากการถูกรุมทำร้ายแน่นอน นอกจากนี้ทางฝั่งผู้ต้องหายังได้ติดต่อผ่านทางพี่ของตนว่า “คนมันตายไปแล้ว จะอะไรมาก ก็บอกไปเลยว่าตกรถตาย แล้วก็ไปเอาเงินกับประกันกับรถ” ซึ่งดูเป็นการพยายามจะให้ตนให้การกับตำรวจว่าผู้ตายตกจากรถ
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้เสียหายไว้ ก่อนเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป