xs
xsm
sm
md
lg

รวบสาวบัญชีม้ามิจฉาชีพแฮกเฟซบุ๊ก สวมรอยตุ๋นญาติสแกนจ่ายค่าสินค้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ตำรวจสืบสวนนครบาลจับสาวเปิดบัญชีม้าให้มิจฉาชีพ แฮกเฟซบุ๊กสวมรอยหลอกลวงญาติ ให้สแกนจ่ายเงินค่าสินค้า



วันนี้ (9 ก.ย.) พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.บช.น. พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ รอง ผบก สส.บช.น. พ.ต.อ.อรรชวศิษฏ์ ศรีบุณยมานนทน์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.ปกรณ์ ทองช่วง รอง ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.สัญญลักษ์ สังขะภักดี สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ดำเนินการจับกุมตัว น.ส.เพ็ญ อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 657/2567 ลงวันที่ 20 สิงหาคม 2567 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์และร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนหรือเป็นผู้เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือยืมใช้เลขหมายโทรศัพท์ด้วยรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน ทั้งนี้โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดทางอาญาอื่นใด สามารถจับกุมบริเวณหน้าบ้าน ซ.อ่อนนุช 86 แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 พ.ค.66 เวลาประมาณ 08.00 น. มีคนร้ายไม่ปรากฏว่าเป็นผู้ใด ได้เข้าใช้เฟซบุ๊กของ นางสาวณัฐปรียา แล้วได้ส่งข้อความไปทางแชทเฟสบุ๊กของผู้เสียหาย ชื่อ “ศุภกาญจน์ ชัยชนะ” มีข้อความขอยืมเงินจากผู้เสียหาย จำนวน 7,000 บาท โดยบอกว่าจะส่งคิวอาร์โค้ดให้ผู้เสียหายสแกน จ่ายเงินค่าสินค้าให้ และจะคืนเงินให้ในภายหลัง ผู้เสียหายเห็นข้อความดังกล่าวและเห็นว่าเป็นเฟสบุ๊กของ ญาติ จึงหลงเชื่อว่าเป็นนางสาวณัฐปรียา เจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าว จึงให้ยืมเงินโดยสแกนจ่ายเงินไปตาม คิวอาร์โค้ดที่คนร้ายส่งมาให้ผ่านแอปพลิเคชั่นโอนเงินในโทรศํพท์มือถือ เมื่อสแกนปรากฎยอด เงินที่ให้ชำระ จำนวน 7,000 บาท ผู้เสียหายโอนเงินไปแล้ว ปรากฏในสลิปการโอนเงินว่าปลายทางเป็น หมายเลขพร้อมเพย์ 095-9201530 ชื่อ “เพ็ญ ไกรรัตน์” ต่อมาหลังจากเกิดเหตุผู้เสียหายทราบว่า เฟซบุ๊กชื่อ “ณัฐปรียา” ของญาติถูกผู้อื่นเข้าใช้และใช้หลอกลวงให้เพื่อนทางเฟสบุ๊กโอนเงินให้ รวมทั้งผู้เสียหายด้วยที่หลงเชื่อ ว่าเฟสบุ๊กชื่อ “ณัฐปรียา” เป็นญาติ ที่ส่งข้อความมายืมเงินจริง และได้โอนเงินไปได้ จึงได้รับความเสียหาย ผู้เสียหายจึงมาพบพนักงานสอบสวน แจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดี เบื้องต้นมีผู้เสียหายหลายรายหลงเชื่อถูกหลอกให้โอนเงินไป ซึ่งอยู่ในระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดี

ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ ตลอดข้อกล่าวหา โดยรับว่า โดยเมื่อประมาณปี 66 ได้มีกลุ่มคนรู้จักแถวบ้านของผู้ต้องหา พาไปเปิดบัญชี โดยจะว่าจ้างให้ผู้ต้องหาเปิดบัญชีม้าโดยจะได้รับค่าตอบเเทนในการเปิดบัญชีครั้งล่ะ 300 บาทต่อครั้ง ซึ่งผู้ต้องหาเห็นว่าได้เงิน ประกอบกับตัวผู้ต้องหาเองนั้นได้ตกงานอยู่ จึงไปได้เปิดบัญชี เเละได้นำเงินค่าจ้างดังกล่าวไปใช้ในชีวิตประจำวัน จากนั้นจึงได้ทำบันทึกจับกุมและนำผู้ต้องหาส่ง พนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง ดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากการตรวจสอบในระบบฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติพบหมายจับอีก 2 หมายดังนี้ 1.หมายจับศาลจังหวัดเวียงสระ ที่ 163/2567 ลงวันที่ 28 มิถุนายน 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์และร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนหรือผ็เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือยืมใช้เลขหมายโทรศัพท์ด้วยรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน ทั้งนี้โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดทางอาญาอื่นใด และ 2.หมายจับศาลจังหวัดลำพูน ที่ จ.314/2567 ลงวันที่ 15 สิงหาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน เปิดหรือยินยิมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือยืมใช้เลขหมายโทรศัพท์ด้วยรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน ทั้งนี้โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดทางอาญาอื่นใด

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ขอเตือนภัยให้ระวังมิจฉาชีพ แฮก Facebook หรือ LINE ของคนรู้จักหรือญาติ มาหลอกขอยืมเงิน ให้จ่ายบิล ต้องรีบโอน ผ่านแชทสนทนา วิธีป้องกัน คือ มีสติ ไม่เชื่อ ไม่เร่ง ไม่รีบ ไม่โอน พยายามมองโลกในแง่ร้ายไว้ก่อนว่า ให้คิดเสมอว่า Facebook-LINE ของเพื่อนที่ทักมายืมเงินนั้น อาจจะกำลังถูกแฮกอยู่ ขอให้โทรไปตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นเพื่อนหรือญาติของเราจริงๆที่ต้องการยืมเงิน ไม่ต้องเกรงใจ แค่นี้เราก็ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น