รอง ผบช.ก. เผยพบบัญชีม้าส่วยทางหลวงเพิ่มอีก 3-4 บัญชี เร่งขยายผลรวบรวมหลักฐานขอศาลออกหมายจับตัวการใหญ่มาดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (5 ก.ย.) ที่ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก. ปปป.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.กล่าวถึงความคืบหน้าปฏิบัติการ “ล้างบางspot check” ปราบเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงเก็บส่วยรถบรรทุกว่า ยอดเงินหมุนเวียนที่เราตรวจสอบพบในผู้ต้องหากลุ่มแรกค่อนข้างมีจำนวนมาก แตกเป็นหลายเส้นหลายกลุ่ม สิ่งที่ต้องขยายผลตามต่อ คือ ต้องตรวจสอบให้แน่ชัดว่าเงินไปถึงใคร มีบุคคลอื่นในระดับใหญ่กว่าเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่าจากการสอบปากคำกลุ่มผู้ต้องหาชุดแรกที่จับมา ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเป็นอย่างมาก ทำให้เราได้บัญชีม้าเพิ่มเติมขึ้นมาอีก 3-4 บัญชี รวมถึงทราบตัวบุคคลสำคัญที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานให้แน่ชัด เพื่อขออำนาจศาลออกหมายจับ เชื่อว่าปฏิบัติการดังกล่าวน่าจะมี EP.2 เกิดขึ้นตามมาอย่างแน่นอน
รายงานข่าวแจ้งว่า จากแนวทางสืบสวนของชุดคลี่คลายคดีทราบว่า เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจด่านชั่งของกรมทางหลวงแต่ละชุดที่มีพฤติกรรมทุจริตรับส่วยรถบรรทุก จะมีพลเรือนที่ทำหน้าที่เป็น หน้าเสื่อหรือ คนคอยประสานงานกับกลุ่มผู้ประกอบการแต่ละเครือข่าย สอดคล้องกับคำให้การของ นายธงชัย ที่ยอมรับว่า เคยมีผู้ประกอบการที่อยู่ในความดูแลของตนเองบางรายติดต่อให้ช่วยเป็นตัวกลาง ประสานจ่ายเงินส่วยให้กับหน้าเสื่อชุดเฉพาะกิจด่านชั่งกรมทางหลวงชุดอื่น เพื่อขอเคลียร์เส้นทางอื่น ๆ อีกทั้งจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินบัญชีม้าที่นายธงชัยเป็นคนถือ ก็พบว่า มีการโอนเงินไปยังบัญชีม้าต้องสงสัยว่าเป็นของเจ้าหน้าที่ชุดอื่น ๆ อีก 3-4 บัญชี ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบขยายผล
รายงานแจ้งอีกว่า แม้ว่าในระยะหลังกลุ่มผู้ต้องหาจะพยายามใช้วิธีการผ่องถ่ายเงิน จากการโอนเงินจากบัญชีม้าไปยังบัญชีส่วนตัว มาเป็นรูปแแบการกดถอนฝากเงินสดเพื่อให้ยากต่อการตรวจสอบ ในส่วนนี้เจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีดังกล่าวเองก็ไม่ได้หนักใจ เพราะมีพยานบุคคลและหลักฐานข้อมูลการฝากถอนเงินสด รวมไปถึงภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพได้ครบถ้วนหมดแล้ว จึงทำให้รู้แน่ชัดว่าเงินเหล่านี้จะถูกส่งไปที่ใคร
จากแนวทางสืบสวนยังทราบพบว่า ในทุกครั้งที่เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจด่านชั่งกรมทางหลวง ออกตรวจตราตามถนนหลวงเส้นต่าง ๆ นั้น จะมีการโทรศัพท์โทรศัพท์ไปแจ้งให้กับผู้ประกอบการที่ยอมจ่ายส่วย ทราบล่วงหน้าเพื่อให้งดใช้เส้นทางดังกล่าวชั่วคราว หรือ จอดรถหลบข้างทาง รอจนกว่าจะออกตรวจตราเสร็จ เพื่อไม่ให้เป็นที่ผิดสังเกต