MGR Online - "ก.ยุติธรรม-ดีเอสไอ" รับเรื่องจากตัวแทนผู้พิการทางสายตา ตรวจสอบเส้นทางการเงินผู้บริหารสมาคมกีฬาคนตาบอดฯ ฮั้วโควต้าสลากเอื้อประโยชน์คนกลุ่มหนึ่ง
วันนี้ (4 ก.ย.) เวลา 10.00 น. ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) ถ.แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ "ทนายตั้ม" นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน พา คนพิการทางสายตา กว่า 150 คน เดินทางยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมกับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เพื่อให้ตรวจสอบเรื่องฮั้วจัดสรรโควต้าสลากกินแบ่งรัฐบาลที่กระจุกตัวอยู่แค่คนกลุ่มหนึ่ง ไม่ถึงมือคนพิการอย่างแท้จริง โดยมี นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม และ นายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ผอ.กองกิจการอำนวยความยุติธรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นผู้แทนรับเรื่อง
นายสมบูรณ์ กล่าวว่า เบื้องต้น ดีเอสไอ เป็นหน่วยงานรับเรื่อง และได้รับเอกสารชี้แจงจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา โดยใจความสำคัญได้จัดสรรโควต้าสลากกินแบ่งรัฐบาลให้ในนามของสมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทยและต้องเป็นสมาชิก ซึ่งมอบหมาย ดีเอสไอ เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการสืบสวนสอบสวน หากพบพฤติการณ์ที่เข้าข่ายจะเสนอเรื่องเพื่อรับเป็นคดีพิเศษต่อไป
ด้าน นายอังศุเกติ์ เผยว่า วันนี้จะรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดจากผู้เสียหายก่อนเพื่อนำไปประมวลเรื่องตั้งเลขสืบสวน จากนั้นจะได้ส่งหนังสือเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้าให้ถ้อยคำ ซึ่งพฤติการณ์ที่เกิดขึ้นเข้าข่ายความผิดอาญาใดบ้างและมีผลกระทบต่อสังคม จริยธรรมเอาเปรียบกลุ่มผู้เปราะบาง เพื่อพิจารณาเป็นคดีพิเศษ
ขณะที่ นายษิทรา เปิดเผยว่า กลุ่มนักกีฬาคนตาบอดร่วมแข่งขันเพื่อชัยชนะกลับมาให้ประเทศชาติ แต่สุดท้ายไม่ได้รับการจัดสรรโควต้าสลากกินแบ่งรัฐบาลจากสมาคมฯ ทั้งที่มีโควต้าสลาก 2,647 เล่มต่องวด แต่ไม่ถึงมือนักกีฬาผู้พิการทางสายตาที่เป็นสมาชิกสมาคมเลย กลับไปเข้ามือใครบางคน และบางส่วนถูกเอาชื่อไปแอบอ้างเพื่อรับเล่มสลากไปจำหน่าย ซึ่งสมาคมดังกล่าวมีพฤติกรรมเช่นนี้มาตั้งแต่ปี 2561
นายษิทรา เผยอีกว่า ตนได้ข้อมูลบัญชีธนาคารแห่งหนึ่งมีเงินเข้าชื่อนายกสมาคมฯ รวมประมาณ 200 กว่าล้านบาท หรือหลักสิบล้านบาทต่อเดือนเป็นมาอย่างไร จึงอยากให้ดีเอสไอดำเนินการตรวจสอบประวัติเส้นทางการเงิน และการเสียภาษีของผู้บริหารสมาคมฯ เพราะเชื่อว่าสมาคมดังกล่าวมีพฤติกรรมฮั้วโควต้าสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ต้องมอบให้แก่ผู้พิการทางสายตาและอาจจะเข้าข่ายการฟอกเงินด้วย ทั้งนี้ หากสามารถเอาผิดกลุ่มสมาคมฯ นี้ได้ ก็จะช่วยให้อีกหลายสมาคมทั่วประเทศจัดสรรโควต้าได้อย่างถูกต้อง
ส่วน นายสมชาย ปัญญ์เอกวงศ์ ประธานที่ปรึกษาสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขอบคุณ กระทรวงยุติธรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ รวมทั้งทนายตั้มที่ให้การช่วยเหลือในครั้งนี้ ซึ่งที่ผ่านมาการคัดเลือกนักกีฬาคนตาบอดไปร่วมแข่งขันอย่างยุติธรรม ไม่ใช่เอาแต่พรรคพวก เพื่อกลับมาได้มีงานทำเหมือนกับนักกีฬาปกติทั่วไป มียศ มีตำแหน่ง แต่ก็ไม่ได้รับโอกาส และการไปแข่งขันเก็บตัวนักกีฬาก็เป็นเดือน เพื่อแข่งขันไม่กี่วัน หากจะแก้ไขปัญหาไม่ใช่เฉพาะสมาคมนักกีฬาตาบอดแห่งประเทศไทยเท่านั้น แต่รวมถึง สมาคม มูลนิธิ องค์กร ที่ได้รับจัดสรรการแบ่งฉลากกินแบ่งรัฐบาล จากสำนักงานกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งพบว่าหลายองค์กรมีพฤติกรรม ร้อยละ 90 ไม่เป็นธรรม
