xs
xsm
sm
md
lg

ผกก.บางศรีเมืองเต้น เตรียมฟ้องสื่อบิดเบือน ปล่อย“ผู้ต้องหาเทวดา” โต้กลับ ส่งฟ้องแต่เช้าก่อนคู่กรณีตรวจสอบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ผกก.สภ.บางศรีเมือง รวบรวมหลักฐานเตรียมฟ้องสื่อหลังมีกระแสข่าว ปล่อย “ผู้ต้องหาเทวดา” ไม่เข้าห้องขัง ยืนยันทุกอย่างทำถูกต้องตามกฎหมาย นำผู้ต้องหาส่งฟ้องก่อนทนายฝ่ายคู่กรณีตรวจสอบ
จากกรณีเมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 29 ส.ค. 67 ที่ สภ.บางศรีเมือง จ.นนทบุรี นายมนตรี ประสาทแก้ว ทนายความ ได้รับมอบหมายจากนายสนิท ชำภักตร์ อายุ 72 ปี ผู้เสียหาย ให้ยื่นหนังสือกับทาง พ.ต.อ.สมชาย แจ้งธรรมมา ผกก.สภ.บางศรีเมือง จ.นนทบุรี และคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานของตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี เนื่องจากนายสนิทฯ และ นายภูเมธ อ่อนประไพ อายุ 42 ปี มีคดีความกันเรื่อง ลูกจ้างของนายภูเมธฯ เข้าไปตัดต้นมะม่วงในสวนของนายสนิทฯ จำนวน 7 ต้น โดยไม่ได้รับอนุญาต

ทางด้านนายสนิทฯ จึงให้ทนายความ ทำหนังสือตรวจสอบเจ้าหน้าที่ตำรวจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หลังพบว่าผู้ต้องหาในคดีอาญาได้หายตัวไปจากสถานีตำรวจบางศรีเมือง และไม่ถูกควบคุมตัวในห้องขัง ทั้งนี้สืบเนื่องจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการตำรวจสันติบาล 1 (บก.ส.1) ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่ง สภ.บางศรีเมือง โดยเหตุการณ์ดังกล่าว ทางทนายได้ยื่นฟ้องเองที่ศาลแขวงจังหวัดนนทบุรีและหมายจับดังกล่าว เป็นหมายจับของศาลดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งเมื่อจับกุมผู้ต้องหาแล้ว โดยปกติจะต้องนำส่งศาลในทันทีแต่กรณีนี้เป็นกรณีจับนอกเวลาทำการของศาล จึงยังไม่สามารถส่งศาลได้ในทันที จึงได้นำตัวผู้ต้องหามาฝากให้ ช่วยควบคุมตัวไว้ที่สถานีตำรวจภูธรบางศรีเมืองก่อน และในตอนเช้าเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมก็ได้มารับตัวผู้ต้องหาจากสถานีตำรวจภูธรบางศรีเมือง ไปส่งที่ศาลแขวงจังหวัดนนทบุรี และผู้ต้องหาได้ไปขึ้นศาลตามขั้นตอนเรียบร้อยแล้ว

ล่าสุดทีมข่าวได้สอบถามข้อเท็จจริงกับ พ.ต.อ.สมชาย แจ้งธรรมมา ผกก.สภ.บางศรีเมือง ยืนยัน ว่าข้อมูลตามที่ออกสื่อไปนั้นไม่เป็นความจริง เลย โดยชี้แจงว่าตามที่ได้มีการออกสื่อไปว่า" เมื่อคืนวันที่ 28 ส.ค.67 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 00.16น. เจ้าพนักงานตำรวจสันติบาล ได้ทำการจับกุมตัว นายภูเมธ อายุ 42 ปี ตามหมายจับศาลแขวงนนทบุรี ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน บุกรุกทำให้เสียทรัพย์ จับกุมตัว ได้ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง หมู่ที่ 9 ต.บางกร่าง อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี นำส่ง พนักงานสอบสวน.สภ.บางศรีเมือง ในเวลา 00.21 น. และฝากควบคุมตัวไว้ที่ สภ.บางศรีเมือง เพื่อควบคุมตัวนำส่งศาลแขวงนนทบุรี ซึ่งหนังสือร้องเรียนอ้างว่า นายสนิท ขำภักตร์ (โจทก์ในคดีอาญา) ทราบว่ามีการจับกุม นายภูเมธ โดยในช่วงเวลาประมาณ 07.05 น. นายสนิท ขำภักตร์ (โจทก์ในคดีอาญา) ได้สอบถามมายัง สภ.บางศรีเมือง โดยสอบถามเจ้าพนักงานตำรวจสิบเวร

ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในขณะนั้น ว่าได้มีผู้ต้องหาชื่อ นายภูเมธ ถูกควบคุมตัวในห้องขัง หรือไม่ ( ปรากฏว่าเจ้าพนักงานตำรวจสิบเวรฯ ตอบว่า ไม่มีผู้ต้องขัง ชื่อ นายภูเมธ อยู่ในระบบรายการควบคุม ต่อมา ในวันนี้ 30 ส.ค. 2567 เวลาประมาณ 13.00 น. เจ้าพนักงานตำรวจงานสืบสวน สภ.บางศรีเมืองได้เชิญตัว นายสนิท ขำภักตร์ (โจทก์ในคดีอาญา) มายังที่ทำการ สภ.บางศรีเมือง และให้ข้อมูลว่า ตนเองเป็น โจทย์ในคดี บุกรุกทำให้เสียทรัพย์ ฟ้องร้อง นายภูเมธ ในคดีดังกล่าวจริง ซึ่งได้มอบอำนาจให้ นายมนตรี ประสาทแก้ว ทนายความ ฟ้องร้องในคดี บุกรุกทำให้เสียทรัพย์ เพียงเท่านั้น และตนเองไม่เคย ทราบว่า นายภูเมธ ถูกจับกุม จนกระทั่งในวันนี้ 30 ส.ค. 2567 เวลาประมาณ 12.00 น. นายภูเมธฯ ได้เข้ามาพูดคุย และขอโทษกับเรื่องที่ผ่านมา ตนเองจึงได้ทราบว่า มีการร้องเรียนตำรวจ สภ.บางศรีเมือง โดยในหนังสือร้องเรียนอ้างว่า ตนเองเป็นผู้ตรวจพบการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ สภ.บางศรีเมือง ตนเองจึงขอพบ พงส.สภ.บางศรีเมือง เวรฯ เพื่อแจ้งให้ลงบันทึกประจำวันว่า " ตนเองไม่เคยทราบการจับกุม

นายภูเมธฯ และในวันที่ 28 ส.ค. 2567 ตนเองไม่ได้ไปที่ สภ.บางศรีเมือง แต่อย่างใด และตนเองมิได้มอบอำนาจให้ทนายความร้องเรียนตำรวจ สภ.บางศรีเมือง แต่อย่างใด แต่หากมีการมอบอำนาจจริง ตนเองขอถอนการมอบอำนาจดังกล่าวนับแต่วันนี้ และขอถอนเรื่องร้องเรียนดังกล่าว นับแต่บัดนี้ เป็นต้นไป)

ผู้กำกับ สภ.บางศรีเมือง ยังบอกอีกว่าได้ถามสิบเวรทุกนายแล้วไม่มีการโทรเข้ามาสอบถาม และไม่เคยมีใครเข้ามาดูที่ สภ.เองว่าผู้ต้องหาอยู่หรือไม่ แต่อ้างว่าเข้ามาดูบอกว่าไม่เจอตัวผู้ต้องหา ขณะที่ลุงที่เป็นโจทย์เขาได้ติดต่อกับตนตลอดเวลา และไม่เคยบอกให้ทนายมาดูตัวผู้ต้องหาว่าอยู่ที่ห้องขังหรือไม่ เพราะลุงต้องการที่จะเคลียร์กับผู้ต้องหาให้จ่ายค่าเสียหาย ไม่เคยให้เข้ามามีปัญหามาเล่นงานตำรวจ ( ตอนนี้ทาง สภ.บางศรีเมืองได้รับความเสียหายมาก หลังมีการออกข่าวไป โดยไม่เป็นความจริง ยืนยันเจ้าหน้าที่ทำตามกฎหมายทำถูกต้องทุกอย่าง และผู้ต้องหาอยู่ในห้องขังตั้งแต่เที่ยงคืน ตอนเช้าแต่มีคนโทรเข้ามาถามชื่อผู้ต้องหาว่าอยู่หรือไม่ปรากฏว่าผู้ต้องหาไม่อยู่แล้ว

แต่เขาเอาไปออกข่าวว่าผู้ต้องหาไม่อยู่ในห้องขัง เป็น“ผู้ต้องหาเทวดา”ไม่มาสอบถามก่อนว่าเป็นอย่างไรบ้าง เพราะตัวผู้ต้องหาไปแต่เช้าแล้ว หลักฐานมีทุกอย่าง อยากให้สอบถามให้ดีก่อนจะตัดสินใจทำแบบนี้ เพราะตนทำตามขั้นตอนให้ทุกอย่าง จะส่งฟ้องต้องเอกสารครบ ซึ่งตอนนี้ทั้งสองฝ่ายได้มีการขอโทษกันแล้วและตกลงเจรจาในการตกลงจ่ายค่าเสียหาย เรื่องการชดใช้การตัดต้นไม้ไป เพราะเป็นคดีทำให้เสียทรัพย์เป็นคดีที่ยอมความได้ และคุณลุงไม่รู้เรื่องว่าผู้ต้องหาถูกจับเมื่อวาน และไม่รู้ว่าทนายมาตามที่สภ.บางศรีเมือง แต่เรื่องนี้มีหลายบุคคล จึงทำให้เรื่องบานปลาย ทางลุงได้มาลงบันทึกใหม่ว่าขอถอนการมอบอำนาจทั้งหมดทั้งทนายและบุคคลอื่น ต่อไปจะเป็นลุงคนเดียวที่มีอำนาจในการตัดสินใจ

ส่วนทางด้านของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตอนนี้ทางตำรวจเสียหายมากๆคราวหลังจะทำอะไรต้องตรวจสอบให้ดี แล้วตนจะให้บทเรียนทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการทำให้องค์กรตำรวจของตนเสื่อมเสีย ซึ่งตนไม่ได้ออกมาแก้ตัวเพราะทุกอย่างมีหลักฐานครบ ข้อมูลมีครบ ตนจะรวบรวมพยานหลักฐานและหลักฐาน กล้องวงจรปิดจะทำการแจ้งความฟ้องกลับ จะดูว่าเข้ากฎหมายข้อไหนที่จะแจ้งกลับได้บ้าง เพราะนี่ถือเป็นการดิสเครดิตเจ้าหน้าที่ตำรวจ








กำลังโหลดความคิดเห็น