ตำรวจสืบนครบาลจับกุม “เอส-อาร์ท” 2 พี่น้องมือผสม ต้นเหตุคลัสเตอร์ยาดองมรณะ หลังถูกศาลออกหมายจับ หนีไปกบดานที่อยุธยา
วันนี้ (30 ส.ค.) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.เกียรติกุล สนธิเณร ผบก.น.3 พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักรพันธ์ โอสถากันต์ ผกก.ปพ.บก.สส.ภ.1 พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.กก.1 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.พูนสุข เตชะประเสริฐพร รอง ผกก.สส.ภ.1 พ.ต.ท.มนต์ชัย เหลืองประเสริฐ รอง ผกก.สส.สภ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.3 บก.สส.บช.น. และเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. เจ้าหน้าที่ บก.สส.ภ.1 เจ้าหน้าที่ ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่สืบสวน บก.น.3 และนักเรียนสืบสวนรุ่น 115 ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัวนายสุรชัย หรือ อาร์ท อายุ 43 ปี และนายสุรศักดิ์ หรือเอส อายุ 46 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรีที่ จ.1169/2567 ลงวันที่ 28 ส.ค. 67 ในข้อเดียวกันคือ ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันปลอมปนอาหาร ยา หรือเครื่องอุปโภคบริโภคอื่นใดเพื่อบุคคลอื่นเสพหรือใช้ และการปลอมปนนั้นน่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่สุขภาพ หรือจำหน่าย หรือเสนอขายสิ่งเช่นว่านั้นเพื่อบุคคลเสพหรือใช้จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส และเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และร่วมกันผลิตและจำหน่ายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต สามารถจับกุมตัวได้ที่ บ้านไม่มีเลขที่ ม.10 ต.บ่อตาโล่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา เวลา 23.00 น.
โดยพฤติการณ์สืบเนื่องจากจากกรณีเหตุสลด “คลัสเตอร์ยาดองมรณะ” ที่มีผู้ป่วยทยอยเสียชีวิตจากการดื่มยาดองที่เปิดขายที่ร้านแห่งหนึ่งในพื้นที่มีนบุรี ล่าสุดเสียชีวิตไปแล้ว 6 ราย โดยผลจากการตรวจสอบในทางวิทยาศาสตร์ของกรมสรรพสามิต พบว่าในสุราที่นำมาใช้นั้น มีสาร “เมทานอล” และสารไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์ (Isopropyl alcohol: IPA) เจือปน จึงเร่งสืบสวนสอบสวนจนทราบคนผสมยาดองแล้วคือ สองพี่น้องเอส-อาร์ท โดยล่าสุดศาลได้อนุมัติหมายจับทั้งสอง ซึ่งภายหลังศาลออกหมายจับ สองพี่น้องมือผสมไหวตัวหลบหนีออกจากพื้นที่ จ.กรุงเทพ ออกไปกบดานในพื้นที่ต่างจังหวัด
จึงส่งชุดสืบนครบาลไล่ล่าไปจนถึง จ.พระนครศรีอยุธยา กว่าครึ่งค่อนวันที่ชุดสืบสวนงมหาคนร้ายในพื้นที่แต่โชคไม่เข้าข้าง เพราะแหล่งกบดานคนร้ายเป็นพื้นที่ชนบทและมีป่ารอบทิศ กระทั่งตะวันลับฟ้าความมืดครอบคลุมพื้นที่ยิ่งยากต่อการค้นหา จนต้องมีการรวมพลังสนธิกำลังระหว่างชุดสืบนครบาล ชุดสืบภาค 1 และ ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา กว่า 50 นาย ปูพรหมค้นหาในพื้นที่อย่างไม่ย่อท้อ กระทั่งโชคได้เข้าข้างชุดสืบสวนที่ได้พบกับชาวบ้านที่กำลังส่องกบอยู่ริมทางได้ให้เบาะแสถึงแหล่งกบดานของสองพี่น้อง หลังทราบเบาะแสชุดสืบสวนไม่รอช้า บุกเข้าไปตรวจสอบจนสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด
ในชั้นจับกุมทั้งสองพี่น้องยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาโดยที่อ้างว่า วัตถุดิบที่สองพี่น้องจำหน่ายให้กับเจ๊ปูนั้น มาจาก เอทิลแอลกอฮอล์ ร้อยละ 95 ผสมกับน้ำดื่ม ในอัตราส่วนเฉพาะที่ทั้งสองพี่น้องได้คิดค้นสูตรขึ้นมา โดยทั้งนายสุรศักดิ์และนายสุรชัย ยังคงยืนยันใน คุณภาพของเอทิลแอลกอฮอล์ ร้อยละ 95 ที่ทั้งสองนำมาใช้เป็นส่วนผสม ว่าเป็นวัตถุดิบซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่ใช้ในการอุตสาหกรรมประกอบอาหาร มนุษย์สามารถที่จะรับประทานได้ ทั้งสองพี่น้องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุของคดีดังกล่าวแต่อย่างใด ทั้งยังให้การว่า ทั้งสองคนไม่ทราบ และเกี่ยวข้องกับการกระทำใดๆ ของเจ๊ปูแต่อย่างใด ทั้งสองคนเป็นเพียงผู้ผลิตวัตถุดิบและนำไปจำหน่ายในราคาส่งให้กับเจ๊ปูเพียงเท่านั้น
ด้นพล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า “เรายังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหาทั้งสอง เพราะจากการสืบสวนสอบสวนที่ผ่านมาของ พล.ต.ต.เกียรติกุล สนธิเณร ผบก.น.3 ด้วยความทุ่มเท จนนำไปสู่การพบพยานหลักฐานจำนวนมาก ที่บ่งชี้ไปที่สองพี่น้องผู้ต้องหารายนี้ จนกระทั่งศาลได้อนุมัติหมายจับทั้งสองในข้อหาหนัก หลังจากนี้จะมีการขยายผลโดยละเอียดต่อไป และผมขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสียมา ณ ที่นี้ เราขอให้คำมั่นสัญญาว่าจะมีการดำเนินการสืบสวนหาผู้มีส่วนเกี่ยวข้องให้ถึงที่สุด และหากท่านใดมีเบาะแสในลักษณะนี้สามารถส่งข้อมูลเพิ่มเติมมาได้ที่ เพจ สืบนครบาล IDMB ได้ตลอด 24 ชม.” หลังจับกุมขยายผลได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ดำเนินคดีต่อไป
