xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลึกปมลับ : แปรรูป 'ดิจิทัลวอลเล็ต' ผันเงินช่วยน้ำท่วม รัฐบาลได้หน้า แถมไม่เสี่ยงคุก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APPสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันพุธที่ 28 สิงหาคม 2567 ตอน แปรรูป 'ดิจิทัลวอลเล็ต' ผันเงินช่วยน้ำท่วม รัฐบาลได้หน้า แถมไม่เสี่ยงคุก



โดยส่วนตัวใครจะชอบหรือไม่ชอบการแสดงออกทางการเมืองของ 'สมชัย ศรีสุทธิยากร' อดีตกรรมการการเลือกตั้ง ก็ไม่เป็นไร แต่สำหรับข้อความคิดเห็นล่าสุดถือว่าเป็นความคิดเห็นหนึ่งที่รัฐบาลเองควรรับฟังอย่างใจเป็นธรรมเช่นกัน

ทั้งนี้ 'สมชัย' ระบุผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า "เลิกกอดงบกลางปี 2567 และงบประมาณเพิ่มเติมอีก 122,000 ล้าน ไว้เพื่อแจกดิจิทัลวอลเล็ตเป็นเงินสด งบกลางมีไว้เพื่อฉุกเฉินจำเป็น รู้บ้างว่าอะไรสำคัญกว่ากัน ระหว่างความเดือดร้อนของประชาชนที่อยู่ข้างหน้า กับนโยบายประชานิยมที่กลัวเสียหน้าหากไม่ได้แจก ไม่มีใครว่าหรอกหากเงินดิจิทัลจะไม่ได้แจกเดือน ก.ย.หากนำไปช่วยประชาชนเรื่องน้ำท่วม จะมีเสียงชื่นชมด้วยซ้ำ"

เงินจำนวน 122,000 ล้านบาท เพิ่งผ่านการพิจารณาของฝ่ายนิติบัญญัติและประกาศใช้ออกมาเป็นพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ หรือ ดิจิทัลวอลเล็ต โดยตรง

อันที่จริงแล้วเงินจำนวนดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของโครงการทั้งหมดเท่านั้น เพราะยังต้องรองบประมาณ 2568 และเงินจากการรบริหารจัดงบประมาณอีกบางส่วนด้วย แต่ภายหลังนายเศรษฐา ทวีสิน ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปด้วยคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ก็ปรากฎว่าสถานะของโครงการนี้ที่เดิมก็ลุ่มๆดอนๆอยู่แล้ว ยิ่งทรุดหนักมากขึ้นไปอีก ทั้งในแง่ข้อกฎหมายหรือในแง่มุมทางเศรษฐกิจ

โดยในประเด็นทางกฎหมายนั้นก็มีปัญหาว่าเงินก้อนนี้จะใช้ข้ามปีงบประมาณได้หรือไม่ ซึ่งปัจจุบันเหลืออีกไม่กี่วันก็จะขึ้นปีงบประมาณใหม่ หรือในประเด็นทางเศรษฐกิจที่มีการวิเคราะห์ไปในทิศทางเดียวกันว่าโครงการนี้อาจจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้ไม่เต็มศักยภาพอย่างที่รัฐบาลคาดหวัง เนื่องจากร้านค้านของประชาชนเข้าร่วมโครงการน้อย ด้วยเหตุเงินดิจิทัลไม่ได้ตอบสนองธุรกิจของภาคประชาชนที่ต้องการสภาพคล่องแบบวันต่อวัน

จากความไม่ชัดเจนที่เกิดขึ้น ทำให้เรื่องนี้ต้องมือ 'ทักษิณ ชินวัตร' อดีตนายกฯ ที่ประกาศกลางเวทีการแสดงวิสัยทัศน์ว่า โครงการนี้จะยังคงเดินหน้าต่อไป โดยระบุว่ามื่อมีการตั้งงบปี 67 เพิ่มเติม 1.22 แสนกว่าล้าน บวกกับงบกลาง 2 หมื่นกว่าล้าน รวมเป็น 1.45 แสนล้าน ใช้ในกันยายน 2567 จะแจกจ่ายให้กลุ่มเปราะบาง 13.5 ล้านคน และคนพิการ 1 ล้านคน รวม 14.5 ล้านคน จะให้คนละ 10,000 บาททันทีในเดือนกันยายน ซึ่งเป็นการกระตุ้นเศรษกิจเบื้องต้นทันที

“และเมื่อเดือนตุลาคมมีงบประมาณใหม่ออกมา ก็จะคัดกรองคนที่ลงทะเบียนไว้ 30 ล้านคนว่าใครได้ไปแล้วบ้าง ใครเข้าเกณฑ์บ้าง แล้วจ่ายที่เหลือหากระบบเสร็จก็จะจ่ายผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เป็นการกระตุ้นเศรษกิจที่แม่นยำ เพราะการใช้เงินสดไม่แม่นยำ” นายทักษิณ กล่าว

แต่อย่างที่บอกภายใต้โครงการที่สวยหรูก็ยังคงแอบแฝงด้วยยาพิษที่เป็นการสร้างภาระทางงบประมาณ ซึ่งเป็นประเด็นที่องค์กรอิสระอย่างสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จ้องจับตาเป็นพิเศษอยู่เหมือนกับที่เคยทำมาแล้วกับโครงการรับจำนำข้าวสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

มองในภาพรวมแล้วโครงการเงินดิจิทัลมีปัญหามากกว่าโอกาสทางเศรษฐกิจพอสมควร ดังนั้น การปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้เงินเพื่อประชานิยม มาเป็นการใช้เงินเพื่อประชาชนโดยเฉพาะการบริหารจัดการปัญหาอุทกภัยน่าจะทำให้รัฐบาลได้ทั้งหน้าตาและได้คะแนนทางการเมืองมากกว่า

แม้ว่า 'แพทองธาร ชินวัตร' นายกรัฐมนตรี จะมีต้นทุนในทางการเมืองที่ดีในฐานะที่เป็นลูกรักของอดีตนายกฯทักษิณ แต่เมื่อลงสู่สนามการเมืองจริงๆแล้ว การจะให้บิดาในวัย 75 ปีมาเป็นเดอะแบกไปตลอด อาจทำให้รัฐบาลชุดนี้ไปไม่ตลอดรอดฝั่งก็เป็นไปได้

------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore :https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play :https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android


กำลังโหลดความคิดเห็น