xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลึกปมลับ : ศึกหนัก ‘แพทองธาร’ ในวันที่ขาลอย มีอำนาจแต่ใช้ไม่ได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APPสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูปNEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจNEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม 2567 ตอน ศึกหนัก ‘แพทองธาร’ ในวันที่ขาลอย มีอำนาจแต่ใช้ไม่ได้



เหมือนจะเป็นเรื่องตลกร้ายไปเสียแล้ว หลังจากเมื่อไม่นานมานี้ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ออกมาพูดกับปลัดกระทรวงว่า "แปลกนะบ้านเราไม่รู้เป็นอะไรนะ น้ำชอบนายกฯ ผู้หญิง ปี 2554 ก็ครั้งหนึ่งแล้ว " ปรากฎว่าถัดมาไม่นานสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ภาคเหนือตอนบนก็เป็นอย่างที่เห็นออกมา

สถานการณ์อุทกภัยในเวลานี้ จึงกลายเป็นสถานการณ์ที่หลายฝ่ายจับตากันว่า 'แพทองธาร ชินวัตร' นายกรัฐมนตรี จะผ่านจุดนี้ไปได้อย่างไร เพื่อไม่ให้ซ้ำรอยกับอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อปี 2554

อย่างไรก็ตาม มีประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจ คือ ท่าทีของนายกฯในตอนนี้ที่ออกตัวยังไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ โดยระบุว่า "แม้ว่าขณะนี้ ดิฉันจะยังไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างกระบวนก่อนการเข้ารับหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ แต่ก็ได้ส่งผ่านความห่วงกังวลนี้ไปยังท่านภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ผู้ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีในขณะนี้..." กลายเป็นว่าเวลานี้ประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีแล้ว แต่ยังไม่สามารถทำงานได้ เพราะยังไม่มีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่อย่างเป็นทางการ

ดูจากข้อเท็จจริงตามปัญหาที่แพทองธารพูดนั้นก็เป็นความจริง โดยรัฐธรรมนูญมาตรา 162 บอกว่าคณะรัฐมนตรีที่จะเข้าบริหารราชการแผ่นดินต้องแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ภายใน 15 วันนับแต่วันเข้ารับหน้าที่ ซึ่งวันเข้ารับหน้าที่จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อได้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีได้ถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์

เมื่อยังไม่มีวันเข้ารับหน้าที่ นายกฯก็ยังแถลงนโยบายต่อรัฐสภาไม่ได้ เมื่อไม่อาจแถลงนโยบายต่อรัฐสภาได้ เท่ากับว่าต้องเป็นนายกฯที่ขาลอยต่อไปอย่างไม่มีกำหนด

อย่างไรก็ตาม ในช่วงว่างระหว่างเข้ารับหน้าที่ กับก่อนวันที่จะแถลงนโยบายต่อรัฐสภานั้น มาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญก็ระบุไว้ในวรรคสองว่า "ก่อนแถลงนโยบายต่อรัฐสภา...หากมีกรณีที่สําคัญและจําเป็นเร่งด่วน ซึ่งหากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะกระทบต่อประโยชน์สําคัญของแผ่นดิน คณะรัฐมนตรีที่เข้ารับหน้าที่จะดําเนินการไปพลางก่อนเพียงเท่าที่จําเป็นก็ได้"

จากมาตรา 162 วรรคสองที่ว่ามานี้ก็ยังพอช่องให้นายกฯอิ๊งค์ทดลองบริหารราชการแผ่นดินก่อนได้เท่าที่จำเป็น แต่ปัญหาของปัญหา คือ เวลานี้ยังไม่อาจเริ่มต้นได้เสียที เนื่องจากติดปัญหาตรงนี้ฝ่ายการเมืองไม่อาจหาจุดลงตัวในการจัดสรรโควตารัฐมนตรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ 3 พรรคการเมืองใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นพรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ รวมไปถึงพรรคประชาธิปัตย์ โดย 3 พรรคการเมืองที่ว่ามานี้ต่างมีปัญหาแตกต่างกัน

พรรคพลังประชารัฐเกิดความขัดแย้งภายในระหว่างร้อยเอกธรรมนัสกับลุงป้อม ซึ่งไม่รู้ว่ารายชื่อรัฐมนตรีของพรรคนี้ควรจะยึดถือโผของใครเป็นสำคัญ ด้านพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็คุยกันไม่ลงตัวในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งไม่อยากเป็นฝ่ายค้านอีกแล้ว ได้หงายไพ่ขอเป็นพรรคร่วมรัฐบาลถึงขนาดที่เลขาธิการพรรคไปร่วมฟังวิสัยทัศน์ของนายใหญ่ ทว่ายังไม่แน่ใจว่ากล้าพอที่จะฉีกอุดมการณ์ของพรรคและขยำลงถังขยะหรือไม่

กลายเป็นว่าจากปัญหาที่พรรคเพื่อไทยไม่ได้ก่อเลยแม้แต่น้อย แต่ก็เลี่ยงไม่พ้นที่จะต้องเอากระดูกมาแขวนคอ เพราะตราบใดที่ยังแบ่งเค้กไม่ลงตัว นายกรัฐมนตรีก็ยังไม่อาจเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีอำนาจตามกฎหมายโดยสมบูรณ์ไปได้ ทำได้แค่เพียงการฝากความห่วงใยผ่านสื่อสังคมออนไลน์เท่านั้น

เพียงแค่เริ่มต้นดูเหมือนว่าแพทองธารจะโดนรับน้องหนักพอสมควร ทั้งในเรื่องบริหารราชการบ้านเมือง รวมถึงการบริหารความขัดแย้งทางการเมือง จริงอยู่ที่พ่อของเธอบอกว่าลูกสาวของตัวเองจะทำงานไปได้ตลอดรอดฝั่งโดยไม่ถูกรัฐประหาร

แต่ในสมรภูมิการเมืองที่เต็มไปด้วยเสือ สิงห์ กระทิง แรด และพวกเขี้ยวลากดิน ไม่รู้เหมือนกันว่าจะหนักเกินไปสำหรับนายกฯวัย 38 ปีหรือไม่

------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore :https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play :https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android


กำลังโหลดความคิดเห็น