รวบแล้วหนุ่มอีสานบ้านเดียวกันล้วงคองู ขอเช่ารถรองสารวัตร ก่อนเชิดหนี อ้างไม่มีเงินจ่ายค่าเช่า ซ้ำยังนำรถไปชนหาค่าซ่อมไม่ได้
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 22 ก.ค.67 กก.สส.ภ.จว.อำนาจเจริญ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.บางกรวย ได้จับกุมตัวนายกันตณา หรือเอ็ม สายสินธุ์ อายุ 33 ปี ตามหมายจับศาลแขวงนนทบุรีที่ 293/2567 ลงวันที่ 14 ส.ค.67 ข้อหา ยักยอกทรัพย์ โดยตำรวจจับกุมตัวได้ที่ หน้าบ้านเลขที่5 ม.9 บ้านหนองหิ้ง ต.อำนาจ อ.ลืออำนาจ จ.อำนาจเจริญ ส่วนของกลางพบรถแท็กซี่ สีส้ม-ขาว ทะเบียน ทห 9842 กทม. ได้จอดอยู่บริเวณ โพรงหญ้าภายในห้องเช่าแห่งหนึ่ง ซอยเทศบาล 13 ม.5 ต.อ้อมใหญ่ อ.สามพราน จ.นครปฐม
นายกันตณา หรือเอ็ม รับสารภาพว่า ที่ตนเอารถไป เพราะตนขับรถไม่ได้เงิน บางวันได้เงินบางวันก็ไม่ได้เงินเลย พอไม่มีเงินจ่ายค่างวดรถตนจึงเครียด วันที่ 23 ก.ค.67 จึงตัดสินใจกลับบ้านจังหวัดอำนาจเจริญ แล้วเอารถแท็กซี่ไปจอดทิ้งไว้ในโพรงหญ้าภายในห้องเช่า ซอยเทศบาล 13 ม.5 ต.อ้อมใหญ่ อ.สามพราน จ.นครปฐม ซึ่งเป็นห้องเช่าที่ตนพักอาศัยกับเพื่อนอยู่ จากนั้นก็กลับไปบ้านแม่ไปอาศัยอยู่กับป้า ทำนาทำสวนอยู่บ้าน ซึ่งไม่กล้าเอารถมาคืนป๋าที่เป็นผู้กองเพราะกลัวค้างค่างวดรถทบไปมาก็หลายงวดแล้ว ปกติตนจะเช่ารถของผู้กองอยู่เป็นประจำ เคยขับมาแล้วประมาณ 3 คัน แต่ก่อนก็จ่ายค่างวดปกติ แต่ครั้งนี้เกิดปัญหาหนักเพราะไม่มีเงินจ่ายค่างวด ไม่รู้จะทำอย่างไร ตนได้พยายามดิ้นรนหาแล้วแต่ก็จมลงไม่ได้ดีขึ้น ซึ่งหลังจากที่ตนตัดสินใจเอารถมาตนก็ยังเอารถไปรับลูกค้าอยู่ แต่ขับได้ไม่นานตนจึงขับรถกลับไปที่บ้านแม่ ซึ่งแม่ตนเสียชีวิตไปแล้ว แต่ยังมีป้าที่อาศัยอยู่ที่บ้าน แต่ป้าไม่รู้เรื่องที่ตนไปก่อเหตุยักยอกรถแท็กซี่มา ซึ่งขณะที่ตนอยู่ที่บ้าน ตนได้ทำไร่ทำนา ทำมาหากินอยู่ที่บ้าน
นายกันตณา หรือเอ็ม กล่าวต่ออีกว่า แต่มาวันนี้ตนได้โดนเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับกุมตัวที่บ้าน ตอนโดนจับแล้วมาที่ สภ.บางกรวย แล้วเห็นหน้าผู้กองตนรู้สึกสำนึกผิดอยากจะขอโทษ เพราะรู้จักผู้กองมานานแล้ว และรู้ว่าผู้กองเป็นตำรวจ ตนจึงกลัวและไม่กล้าเอามาคืน และที่ทำไปเพราะคิดว่าเป็นอารมณ์ชั่ววูบคิดไม่ได้ ตัดสินใจเอารถเขาไปเลย หลังจากที่ตนเอารถกลับมาบ้านตนได้เห็นข่าวทางทีวี ว่าผู้กองตามหาตนแต่ตนก็ไม่กล้าเอาไปคืน เพราะเอารถของผู้กองไปเบียดเสาไฟฟ้ามาด้วย และมีรอยชน 2-3จุด วันนี้ตนได้ติดต่อญาติให้เข้ามาที่ สภ.บางกรวย เพื่อเอาเงินมาชดใช้ให้ผู้กอง เรื่องค่างวดรถ ค่าเสียหาย ตนจะจ่ายให้หมดทุกอย่างที่จำต้องรับผิดชอบ หลังจากนี้ตนจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว ตนรู้สึกเข็ด และสำนึกผิดจริง ต้องขอกราบป๋าหรือผู้กองนพที่ตัดสินใจแบบไม่คิดให้ดีก่อน และก็ขอขอบคุณที่ให้โอกาสตนหลังจากนี้จะไม่ทำแบบนี้อีก
ร.ต.อ.มานพ กล่าวว่า ย้อนกลับไปเมื่อช่วงกลางเดือน มิ.ย.67 ตอนนั้นนายเอ็มได้ขาดการติดต่อ และตนยังหารถยังไม่เจอเดือดร้อน เพราะได้ข่าวว่านายเอ็มเอารถไปจอดไว้ที่อ้อมใหญ่ จ.นครปฐม ขับรถตนไปเข้าซอกซอยต่างๆ ตนก็ขับรถตามไปตลอด และได้ให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพื้นที่ แต่หลังจากนั้นก็เงียบไปและหาไม่เจอ ตอนนั้นรู้สึกท้อแท้กลัวว่านายเอ็มจะเอารถของตนข้ามไปฝั่งลาวหรือขายซากรถไปแล้ว
เพราะตนได้ตรวจสอบมาว่ารถจอดอยู่กับที่จอดไม่ไปไหน และไม่มีการขับหรือไปเติมก๊าซแต่อย่างใด ตนจึงคิดว่านายเอ็มเอารถไปขายซากแล้ว แต่วันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวนายเอ็มได้ตามหมายจับ พอนำตัวมาแล้วตนเห็นหน้าก็รู้สึกสงสารขึ้นมาทันที และถามนายเอ็มว่าทำแบบนี้กับป๋าได้อย่างไร เพราะตนจะแทนตัวเองว่าป๋ากับเอ็มตลอด แต่เอ็มก็บอกว่ามีปัญหาตามที่เขาบอกเรื่องเงินอ้างอะไรต่างๆ ตนจึงได้พูดคุยกับนายเอ็มว่าจะให้เอ็มชดใช้เรื่องค่าเช่ารถ และค่าเสียหายที่นายเอ็มขับรถของตนไปชนเสาได้รับความเสียหายบริเวณกันชนด้านหน้าทั้งสองข้าง แล้วตนก็จะยอมความให้ เพราะความผิดฐานยักยอกทรัพย์สามารถยอมความได้
ร.ต.อ.มานพ กล่าวต่ออีกว่า พอตนเห็นหน้าแล้วก็ไม่อยากให้นายเอ็มติดคุก เพราะเอ็มเป็นคนที่น่าสงสาร จึงไม่ดำเนินคดีให้ถ้าชดใช้ แต่ถ้าไม่ชดใช้ตนก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะตอนนี้ค่างวดรถก็ยังไม่ได้จ่ายค้างไว้ 2 งวด ตั้งแต่เอ็มขโมยไป ซึ่งค่างวดต้องจ่ายรายเดือนประมาณ 19,024บาท และตนอยากจะฝากถึงเอ็มหลังจากนี้ให้ไปประกอบทำอาชีพที่สุจริต เพราะทางบ้านเอ็มก็มีอาชีพขายของ ทำสวนทำนา ก็อยากให้เขาทำงานกับที่บ้าน เพราะอาชีพดีอยู่แล้ว แต่ไม่น่ามาทำกับตนแบบนี้ และตอนนี้ตนจะไม่ปล่อยรถให้เช่าแล้ว เพราะตนจะนำมาขับหลังจากออกเวรเพื่อหารายได้เสริม