ตำรวจสืบสวนนครบาลจับผัว-เมีย ตระเวนขี่ จยย.ลักทรัพย์ร้านสะดวกซื้อในพื้นที่กรุงเทพฯ สารภาพนำเงินและสิ่งของที่ได้มาใช้จ่ายชีวิตประจำวัน
วันนี้ (22 ส.ค.) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.อรรชวศิษฏ์ ศรีบุณยมานนทน์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.3 บก.สส.บช.น (ชุดปฏิบัติการที่ 3/4 ) ดำเนินการจับกุม นายอลงกรณ์ อายุ 34 ปี และ น.ส.ชนากานต์ อายุ 27 ปี ในความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปโดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม สามารถจับกุมได้ที่หน้าเพิงพักไม่มีเลขที่ ริมทางรถไฟ ถ.สุทธาวาส แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร
โดยพฤติการณ์จากการสืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาได้มีการก่อเหตุลักทรัพย์ภายในร้านสะดวกซื้อในพื้นที่ สน.ยานนาวา สน.บางรัก สน.ทุ่งมหาเมฆ และพื้นที่ใกล้เคียง โดยทาง กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ร่วมกับ สน.ในพื้นที่ ตรวจสอบกล้องวงจรปิด จนสืบทราบกลุ่มกันร้าย คือ นายอลงกรณ์ และ น.ส.ชนากานต์ ซึ่งเป็นผัวเมียกัน (ทราบภายหลัง) จึงรวบรวมพยานหลักฐาน ส่งให้พนักงานสอบสวนเพื่อขออนุญาตศาลออกหมายจับ
กระทั่งต่อมาวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 18.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้พบบุคคลต้องสงสัยตำหนิรูปพรรณคล้ายผู้ต้องหา พักเดินอยู่ใกล้เพิงพักไม่มีเลขที่ริมทางรถไฟ จากนั้นได้เดินออกมาบริเวณริมทางรถไฟ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตนว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและแสดงประจำตัวข้าราชการตำรวจให้บุคคลดังกล่าว เพื่อขอทำการตรวจสอบ ผลการตรวจสอบพบว่าเป็นตัวผู้ต้องหาจริง ผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงหมายจับให้ผู้ต้องหา ตรวจดู ผู้ต้องหาดูและอ่านแล้ว ยอมรับว่า ตนเองเป็นบุคคลคนเดียวกับบุคคลตามหมายจับจริง และไม่เคยถูกจับกุมตามหมายจับนี้มาก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา แจ้งสิทธิให้ผู้ถูกจับทราบ ผู้ถูกจับรับทราบข้อกล่าวหา และสิทธิดีแล้ว ขอให้การรับสารภาพตลอด ข้อกล่าวหาในชั้นจับกุมโดยผู้ถูกจับกุมไม่ประสงค์จะพบและปรึกษาทนายความในชั้นจับกุม และเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา
ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุหลายครั้งจนไม่ทราบว่าก่อเหตุที่ใดบ้าง เท่าที่สืบทราบก่อเหตุ 4 ครั้ง ในช่วงวันที่ 13 พ.ค.- 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยนำเงินและสิ่งของที่ได้ ไปใช้จ่ายส่วนตัว จ่ายค่าไฟบ้าน เลี้ยงดูลูก จากนั้นได้นำส่งพนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า คดีดังกล่าวถือว่าเป็นภัยสังคม ผู้ต้องหาก่อเหตุในช่วงกลางวันตามร้านค้าต่างๆ สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนไปทั่ว ขอฝากเตือนให้ประชาชนใช้ความระมัดระวัง ติดกล้องวงจรปิดภายในร้านสามารถช่วยในการป้องกัน และสืบสวนติดตามจับกุมของเจ้าหน้าที่ หมั่นคอยสังเกตุผู้มาใช้บริการ หรือมาซื้อของ หากพบเห็นเบาะแสการกระทำผิด สามารถแจ้งมาที่เพจ สืบนครบาล IDMB ได้ตลอดเวลา