xs
xsm
sm
md
lg

ตม.รวบเกาหลีส่งกัญชาข้ามชาติ-จีนเทาหัวหน้าแก๊งคอลฯ เครือข่ายพนันออนไลน์ เงินหมุนเวียนกว่า 5 หมื่นล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ตามนโยบายของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร.รรท.รอง ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ สตม. สกัดกั้น ตรวจสอบ ระดมจับกุมคนต่างด้าวที่เข้ามาประกอบ ธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศไทย รวมทั้งให้ดำเนินการตรวจสอบ ชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ในขณะที่พํานักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือ กลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามา แฝงตัวอยู่ก่อเหตุ หรือโดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด

ภายใต้การอํานวยการของ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุรินทร์แก้ว รอง ผบก. สส.สตม., พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง รอง ผบก.สส.ภ.7 ปฏิบัติราชการ บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ธวัชชัย นรินรัตน์ ผกก.1 บก.สส.สตม., พ.ต.อ.รัฐพงศ์ แก้วยอด ผกก.4 บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชูวงษ์ อุทัยสาง ผกก.ปอพ.บก.สส.สตม. ร่วมแถลง ข่าวการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ ดังนี้

1. รวบสองหนุ่มไต้หวันลักลอบส่งออกกัญชาข้ามชาติ และจำหน่ายกัญชาผ่านแพลตฟอร์ม ออนไลน์ในไทย
กก.4 บก.สส.สตม. จับกุมคนต่างด้าวสัญชาติไต้หวัน จำนวน 2 ราย ดังนั้น 1. MR.LIN (นามสมมติ) อายุ 30 ปี โดยกล่าวหาว่า มีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดประเภทที่ 5 (เห็ดขี้ควาย) โดยไม่ได้รับอนุญาต นําตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางรัก ดำเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุม ที่ลานจอดรถคอนโด มิเนียมย่าน ถ.สี่พระยา แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กรุงเทพฯ 2. MR.CHANG (นามสมมติ) อายุ 29 ปี โดยกล่าวหาว่า เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาต สิ้นสุด นําตัวส่งพนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. ดำเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุม ลานจอดรถ ของคอนโดมิเนียมภายในซอยอินทามระ 45 แขวงรัชดาภิเษก เขตดินแดง กรุงเทพฯ


พฤติการณ์การจับกุม กก.4 บก.สส.สตม. ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีกลุ่มคนไต้หวันจะทำการลักลอบนําเอา กัญชาส่งออกไปยังไต้หวันเพื่อนําไปจําหน่าย โดยการส่งออกไปนั้นไม่ได้มีการขออนุญาตทำถูกต้องและผิดกฎหมาย จึงได้ทำการสืบสวนทราบว่าขบวนการดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกับร้านจําหน่ายกัญชาแห่งหนึ่ง (ปัจจุบันได้ปิดไปแล้ว) ซึ่งได้ ขายกัญชาส่วนช่อดอกผ่านทางช่องทางออนไลน์และจะมีการส่งให้กับลูกค้า ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้แก่ MR.CHANG และ กลุ่มเพื่อน โดย MR.CHANG พักอาศัยอยู่ที่คอนโดหรูแห่งหนึ่งย่านห้วยขวาง จึงได้ไปตรวจสอบจนกระทั่งพบ MR.CHANG และได้ขอตรวจสอบหนังสือเดินทาง MR.CHANG แจ้งว่าหนังสือเดินทางของตนอยู่ที่ห้องพักของเพื่อน ที่ย่านดินแดง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ให้ MR.CHANG พาไปเพื่อนําหนังสือเดินทางมาแสดง โดยระหว่างที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจกําลังจะเข้าไปที่ห้องพักได้มี MR.LIN สัญชาติไต้หวัน อายุ 30 ปี ได้วิ่งออกมาจากห้องพักดังกล่าวและ พยายามวิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงเข้าควบคุมตัว จากการตรวจค้นตัว MR.LIN พบเห็ดขี้ควายบรรจุในซอง สุญญากาศ น้ำหนักประมาณ 42 กรัม และพบหนังสือเดินทางของ MR.CHANG และของชาวไต้หวันคนอื่นอีก 2 เล่ม ซึ่ง MR.LIN ยอมรับว่าบุคคลตามหนังสือเดินทางได้หลบหนีไปก่อนหน้านี้แล้ว

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงให้ MR.LIN นําเข้าไปตรวจสอบในห้องพักที่ MR.LIN และ MR.CHANG พักอยู่เป็นประจำ ผลการตรวจสอบพบกัญชาที่เป็น ส่วนของช่อดอก เครื่องชั่งน้ำหนัก ถุงสำหรับแบ่งขายและเครื่องซีนถุง และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลายรายการจึงได้ ทำการตรวจยึดไว้ และจากการตรวจสอบหนังสือเดินทางพบว่า MR.CHANG การอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุด ลงแล้ว (OVERSTAY ) ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและจับกุม MR.LIN และ MR.CHANG ดำเนินคดีในข้อหาดังกล่าว และจากการประสานตรวจสอบกับสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย รับแจ้งว่า MR.CHANG เป็นบุคคลที่มีประวัติทางคดีอาญาในข้อหานําเข้าและจําหน่ายกัญชาในไต้หวัน โดยมีพฤติการณ์ คือ MR.CHANG กับผู้ร่วมขบวนการอีกกว่าสิบคน ได้ทำการตั้งกลุ่มลับผ่านแอพพลิเคชั่น เช่น Wechat, Line, Whatsapp, Telegram และนํากัญชาเข้าไปในไต้หวัน เพื่อจําหน่ายกัญชาให้กับคนในไต้หวันผ่านแอพพลิเคชั่นดังกล่าว




2. รวบ 3 จีนเทาผู้ร้ายข้ามแดนแปลงสัญชาติวานูอาตูหัวหน้าเครือข่ายพนันออนไลน์ข้ามชาติ และเป็นหัวหน้าจัดทำระบบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เงินหมุนเวียนกว่า 55,000 ล้านบาท กก.4 บก.สส.สตม. ร่วมกับ กก.ปอพ.บก.สส.สตม. และ ตม.จว.ชลบุรี จับกุมคนต่างด้าว จำนวน 3 คน ได้แก่ นายซู (นามสมมติ) อายุ 47 ปี สัญชาติจีน/วานูอาทูน ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 407/2567 ลงวันที่ 18 มิ.ย.2567 ในความผิดฐานฉ้อโกงทรัพย์สินของรัฐและประชาชนและความผิดฐานเปิดบ่อนการพนัน (คาสิโน) (ออกหมายจับผู้ร้าย ข้ามแดน) นําตัวส่งพนักงานอัยการ สำนักงานต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุด ดำเนินการตามกฎหมาย และจับกุม

นางจาง (นามสมมติ) อายุ 46 ปี สัญชาติจีน/วานูอาทูน และนายซู เจียง (นามสมมติ) อายุ 39 ปี สัญชาติจีน/วานูอาทูน โดยกล่าวหาว่า เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด นําตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ จว.ชลบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุม บ้านพักภายในซอยทุ่งกลม-ตาลหมัน 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จว.ชลบุรี

สืบเนื่องจาก สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย มีหนังสือถึงกระทรวง การต่างประเทศ นําส่งคําร้องขอให้ทางการไทยจับกุมตัวชั่วคราวนายซู (นามสมมติ) อายุ 47 ปี สัญชาติจีน เป็นผู้ร้าย ข้ามแดน เพื่อไปดำเนินคดีในความผิดฐานฉ้อโกงทรัพย์สินของรัฐและประชาชนและความผิดฐานเปิดบ่อนการพนัน (กาสิโน) ต่อมาพนักงานอัยการ สำนักงานต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุด ได้ยื่นคําร้องต่อศาลอาญาขอออก หมายจับชั่วคราวนายซู และได้ส่งหมายจับมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อให้สืบสวนจับกุม

จากการสืบสวนของ กก.4 บก.สส.สตม. และ กก.ปอพ.บก.สส.สตม. พบข้อมูลว่านายซูได้ใช้หนังสือเดินทาง ประเทศวานูอาตูเดินทางเข้ามาในประเทศไทยแทนการใช้หนังสือเดินทางสาธารณรัฐประชาชนจีน นอกจากนี้ยังพบว่า นางจาง และนายซู เจียง ซง่ึ เป็นเครือญาติของนายซูได้ถือหนังสือเดินทางประเทศวานูอาตูเดินทางเข้ามาในประเทศไทย ด้วย จึงได้ประสานสอบถามไปยังสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจไประเทศไทย เพื่อตรวจสอบ ประวัติของนางจาง และนายซู เจียง รับแจ้งว่า บุคคลทั้งสองมีสัญชาติจีน โดยนางจาง มีประวัติกระทำผิดในข้อหา ฉ้อโกงทรัพย์สินของรัฐและประชาชนและความผิดฐานเปิดบ่อนการพนัน (คาสิโน) ส่วนนายซู เจียง มีประวัติกระทำผิด ในข้อหา เปิดบ่อนการพนัน (กาสิโน) เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้สืบทราบว่าทั้ง 3 คน มักจะมีพฤติการณใ์ นการย้ายที่อยู่ เพื่อให้ยากต่อการจับกุมตัว และหลังสุดได้ย้ายหลบหนีไปอยู่บ้านพักหรูภายในซอยทุ่งกลม-ตาลหมัน 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จว.ชลบุรี จึงได้ร่วมกันนําหมายค้นของศาลจังหวัดพัทยาเข้าทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบคนต่างด้าว ทั้ง 3 คน พักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว และพบโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คหลายรายการ และเอกสารต่างๆ

1. นายแจซุก (นามสมมติ) อายุ 26 ปี 2. นายวูจิน (นามสมมติ) อายุ 27 ปี 3. นายซางกี (นามสมมติ) อายุ 26 ปี 4. นายฮุนจิน (นามสมมติ) อายุ 26 ปี 5. นายจุนฮี (นามสมมติ) อายุ 31 ปี 6. นายเจ (นามสมมติ) อายุ 29 ปี 7. นายซังฮูน (นามสมมติ) อายุ 26 ปี 8. นายจุงฮูน (นามสมมติ) อายุ 26 ปี ที่เกี่ยวข้องกับการแปลงสัญชาติของบุคคลทั้งสามและบุตร ซึ่งจากการสอบถามนายซู ให้การยอมรับว่าเป็นบุคคลตาม หมายจับผู้ร้ายข้ามแดนจริง และจากการตรวจสอบพบว่าทั้ง 3 คน ได้เดินทางเข้าประเทศไทยด้วยหนังสือเดินทาง ประเทศวานูอาตู โดยนางจาง และนายซู เจียง การอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรได้สิ้นสุดแล้ว จึงได้จับกุมทั้ง 3 คน ดังกล่าว สำหรับพฤติการณ์กระทำความผิดของนายซู และนางจาง ได้ร่วมกันกับพวกจัดตั้งองค์กรชื่อ หญิงฟา ซึ่งจัด ให้มีการเล่นคาสิโนออนไลน์ โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ และในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มีบุคคลจำนวนเข้าเป็นสมาชิกในการเล่นการพนัน มีเงินหมุนเวียนกว่า 55,000 ล้านบาท โดยนายซู เป็นหัวหน้าแก๊ง คอลเซ็นเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับการหลอกหลวงผู้อื่นทางระบบโทรคมนาคม โดยได้ทำการจัดตั้งระบบเว็บไซต์ และระบบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบหลังบ้านของขบวนการคอลเซ็นเตอร์ที่มีฐานอยู่ที่ดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

3. สืบ ตม.บกุทลายคอลเซ็นเตอร์เกาหลีใต้เช่าอาคารหรูตั้งฐานกลางกรุง กก.1 บก.สส.สตม. จับกุมคนต่างด้าวสัญชาติเกาหลีใต้ จำนวน 8 คน ดังนี้ พฤติการณ์จับกุม กก.1 บก.สส.สตม. ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามชาวเกาหลีใต้ได้มาเช่าห้องภายในอาคารหรู ย่านเอกมัย ซอย 3 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ มีพฤติการณ์น่าสงสัยว่าจะเป็นแก๊งการพนันออนไลน์หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จึงได้มาตรวจสอบพบว่าห้องที่มีชาวเกาหลีเข้า-ออก ประจำ อยู่ที่ชั้น 4 ของอาคาร ดังกล่าว ประตูหน้าห้องติดอักษรภาษาอังกฤษคําว่า “CONTENT FACTORY. KOREA&THAI” จึงได้แสดงตัว เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเข้าทำการตรวจสอบ ผลการตรวจสอบพบว่าภายในห้องดังกล่าวแบ่งออกเป็น 2 ห้อง โดยห้องแรกเป็นห้องเล็ก มีคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ จำนวน 8 ชุด ห้องใหญ่มีคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 12 ชุด แต่ละชุด มีจอคอมพิวเตอร์ 2 จอ มีนายแจซุก พร้อมกับพวกรวม 8 คน กําลังนั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ในลักษณะพูดคุย ชักชวนเพื่อให้ร่วมลงทุนกับธนาคาร Hana Partners Invesment ซึ่งเป็นธนาคารของเกาหลีใต้ ผ่านหน้าเว็บไซต์ https://hanapartners.net/login ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่สร้างขึ้นเพื่อให้เข้าใจว่าเป็นเว็บไซต์ของธนาคารจริงแต่เมื่อเข้าไปดำเนินการตามขั้นตอนแล้ว อาจจะสูญเสียเงินที่ลงทุนไป และพบโทรศัพท์มือถือ จำนวน 17 เครื่อง ไอแพด จำนวน 4 เครื่อง จากการสอบถามทั้ง 8 คน ให้การยอมรับว่า มีการจ้างให้มาทำงานในประเทศไทยโดยการทำงานในลักษณะการพูดคุยผ่านทางโซเชียลมีเดียในรูปแบบต่างๆ เพื่อชักชวนลักษณะการเป็นตัวแทนเพื่อหาลูกค้าให้เข้ามาร่วมลงทุนผ่านทางเว็บไซต์ดังกล่าว โดยจะได้ค่าจ้างเป็นเปอร์เซ็นต์ได้จากการหาลูกค้าเข้ามาลงทุน โดยเบื้องต้น กก.1 บก.สส.สตม. จึงได้จับกุมทั้ง 8 คน ดำเนินคดีในข้อหาเป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน นําตัวส่งพนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. ดำเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุม อาคารหรูย่านเอกมัย ซอย 3 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ พร้อมตรวจยึดจอคอมพิวเตอร์ 40 จอ ซีพียู 20 เครื่อง โทรศัพท์มือจำนวน 17 เครื่อง และไอแพด จำนวน 4 เครื่อง ไว้เพื่อตรวจสอบและประสานข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเกาหลีใต้ ในการสืบสวน ขยายผลการจับกุมต่อไป

4. สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิด ในด้านต่างๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่นๆ ที่มีหมายจับ และการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระชนมพรรษา 60 พรรษา เลขที่ 904 หมู่ที่ 6 ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จว.นนทบุรี 11120 หรือติดต่อตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดในพื้นที่ หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง




กำลังโหลดความคิดเห็น