xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลึกปมลับ : ปัจจัยเสี่ยงรัฐบาล ‘อุ๊งอิ๊ง’ ซ้ำรอย ‘ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์มา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP สถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม2567 ตอน ปัจจัยเสี่ยงรัฐบาล ‘อุ๊งอิ๊ง’ ซ้ำรอย ‘ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์มา



เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม คงไม่มีฉากการเมืองไหนจะใหญ่เท่ากับว่าภาพการรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พร้อมกับประกาศแนวทางการทำงานเป็นครั้งแรกของนายกฯหญิงคนที่สองในประวัติศาสตร์การเมืองไทย

"พี่น้องประชาชนคนไทยที่รักทุกท่านคะ ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้ ไม่อาจสำเร็จได้ด้วยการทำงานของนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว ดิฉันมีความมุ่งหวังที่จะประสานพลังของคนทุกรุ่น ประสานพลังของบุคคลที่มีความสามารถในประเทศไทยจากทุกภาคส่วน ทั้งคณะรัฐมนตรี พรรคร่วมรัฐบาล ข้าราชการ เอกชน และพี่น้องประชาชน ดิฉัน แพทองธาร ชินวัตร ในฐานะนายกรัฐมนตรี จะรับผิดชอบหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด ทำให้ประเทศไทย เป็นประเทศแห่งโอกาส เป็นประเทศแห่งความหวัง เป็นประเทศแห่งความสุข ของคนไทยทุกคนอย่างเท่าเทียม" ความตอนหนึ่งจากการแถลงข่าวของนายกฯป้ายแดง

แต่ซีนนี้ก็ถูกกลบโดยการให้สัมภาษณ์สั้นของ 'ทักษิณ ชินวัตร' อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มาร่วมแสดงความยินดีกับลูกสาวว่า “ไม่มีทาง” ซึ่งเป็นคำตอบที่มีต่อคำถามของผู้สื่อข่าวที่ถามว่า กังวลว่าจะซ้ำรอยในอดีตเหมือนเมื่อครั้งนายทักษิณเป็นนายกฯหรือไม่

มองเส้นทางการเป็นนายกรัฐมนตรีในสมัยแรกของทักษิณ เมื่อปี 2544 และของลูกสาวในปี 2567 ถือว่ามีความเหมือนและแตกต่างกันในหลายจุด โดยจุดเหมือนกัน คือ ขึ้นมาดำรงตำแหน่งท่ามกลางปัญหาเศรษฐกิจที่รุมเร้า เมื่อครั้งทักษิณประเทศไทยต้องแบกหนี้ไอเอ็มเอฟจนหลังแอ่น ขณะที่ สถานการณ์ของแพทองธาร ดูไปแล้วอาจจะสาหัสและมีความสลับซับซ้อนยิ่งกว่าสมัยทักษิณด้วยซ้ำ

ส่วนจุดที่แตกต่างกัน คือ พรรคไทยรักไทยเป็นพรรคที่มีเสียงข้างมากเป็นอันดับหนึ่งในสภาผู้แทนราษฎร แต่สำหรับพรรคเพื่อไทยในปัจจุบันได้สูญเสียสถานะพรรคอันดับหนึ่งให้กับพรรคก้าวไกลเมื่อการเลือกตั้งที่ผ่านมา เพียงได้เป็นรัฐบาลเพราะสามารถรวบรวมเสียงข้างมากได้มากกว่าพรรคคู่แข่งเท่านั้น

จากรัฐบาลทักษิณครั้งสุดท้ายในปี 2549 จนถึงมารัฐบาลแพทองธารในปี 2567 ผ่านมาเกือบ 20 ปี ปัจจัยอะไรที่ทำให้ทักษิณถึงได้มั่นอกมั่นใจว่ารัฐบาลของลูกสาวจะไม่ซ้ำรอยกับรัฐบาลของตัวเอง

ปัจจัยสำคัญประการแรกที่มีผลต่อความมั่นใจ คือ ความกลัวร่วมกันของพรรคร่วมรัฐบาลที่มีต่อพลังส้ม แม้พรรคก้าวไกลจะถูกยุบ แต่การที่สามารถอวตารมาเป็นพรรคประชาชนได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับสามารถรักษาจำนวนส.ส.เอาไว้ได้ 143 คน แสดงให้เห็นว่าพลังภายในที่ซ่อนอยู่นั้นยังมีความแข็งแกร่งพอสมควร

ด้วยเหตุนี้เองบรรดาพรรคร่วมรัฐบาลอาจจำเป็นต้องอยู่ในเรือลำเดียวกันที่เบียดเสียดและคับแคบไปอีกอย่างน้อย 3 ปี เพื่อเข็นนโยบายและหว่านงบประมาณออกมาให้มากที่สุด ด้วยความหวังที่ว่าคนไทยจะลืมไปว่าครั้งหนึ่งพรรคเพื่อไทยเคยตระบัดสัตย์มาก่อน

ดังนั้น ถ้าพรรคร่วมรัฐบาลต่างมีศัตรูคนเดียวกัน คงไม่มีเหตุผลที่จะออกมาก่อหวอดและตีกันเอง จนทำให้นายกฯต้องยุบสภาก่อนถึงเวลาอันควร เพราะนั่นหมายความว่าเป็นการมอบโอกาสให้พรรคประชาชนกลับมาลุ้นในการต่อสู้เพื่อเป็นรัฐบาลอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม หากจะถามว่ารัฐบาลชุดนี้มีความเสี่ยงตรงไหน น่าจะเป็นที่ตัวของ 'ทักษิณ'เอง เนื่องจากปัจจุบันทักษิณได้รับอิสรภาพอย่างสมบูรณ์แล้ว หากอยู่เงียบๆและไม่จำเป็นต้องออกหน้าในทางการเมือง ก็อาจทำให้คลื่นลมสงบลงได้บ้าง แต่ด้วยนิสัยของทักษิณที่หลายฝ่ายก็ทราบดีว่าเป็นคนหัวดื้อขั้นสุดและมีความเคียดแค้นอยู่เต็มอก

บางทีหากวันใดทักษิณทำอะไรล้ำเส้นขึ้นมาอีก ภัยก็อาจมาถึงรัฐบาลของลูกสาวได้เช่นกัน และบทสรุปของนารีขี่หลังเสือครั้งนี้อาจไม่สวยอย่างที่ทักษิณคิดก็เป็นได้

------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore :https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play :https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android


กำลังโหลดความคิดเห็น