"โกศลวัฒน์"อธิบดีอัยการคุ้มครองสิทธิ์ ประสานกงสุลใหญ่นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ช่วยเด็กสาว ถูกหลอกทำงานร้านนวดบังคับค้ากาม เตือนจะทำงานต่างประเทศ ตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจน อย่าหลงเชื่อโดยง่าย
วันที่ 16 ส.ค.2567 นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง อธิบดีอัยการคุ้มครองสิทธิ์และช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน (สคช.) เปิดเผยว่า ช่วงเช้าวานนี้ ตนได้รับทราบจากสื่อมวลชนว่ามีเด็กสาวคนไทยเดินทางไปทำงานร้านอาหารที่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แต่ถูกหลอกไปทำงานร้านนวด โดนเจ้าของร้านบังคับให้ค้าประเวณีซึ่งเด็กไม่ยอม จึงถูกกักขังยึดพาสปอร์ตไว้แต่แอบวีดิโอคอลติดต่อกับย่าที่อยู่จ.ลำปาง และย่าได้ร้องขอให้อัยการสำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือประชาขนทางกฎหมาย(สคช.)ลำปางช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ต่อมาทางอัยการ สคช.ลำปางได้รายงานข้อเท็จจริงให้ตนทราบ เมื่อสรุปเรื่องราวเบื้องต้นแล้ส เชื่อว่ามีมูลความจริง แต่เห็นว่าเป็นงานในต่างประเทศและเป็นเรื่องฉุกเฉินเร่งด่วน จึงได้เข้าพบนายวรวุฒิพงศ์ ประภาพรรณ อธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อให้ประสานกับกงสุลใหญ่ ประจำนครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ทันที
นายโกศลวัฒน์ กล่าวว่า ย่าของเด็กสาวผู้เสียหายเล่าว่า เมื่อเด็กถูกกักขังได้สักพักก็มีชายชาวไทย แอบช่วยเหลือพาเด็กสาวออกมาจากสถานบริการ แต่ก็ไม่พาไปส่งที่สถานกงสุล แต่รับตัวไว้ที่บ้านพักในนครดูไบ แล้วให้ติดต่อกับย่าเพื่อเรียกค่าใช้จ่ายที่พักหลายวัน และตั๋วเครื่องบิน แต่อัยการสคช.แนะนำว่า ค่าใช้จ่ายต่างๆ ทางกงสุลสามารถช่วยได้ อัยการจึงขอโทรคุยกับชายไทยคนที่ช่วยพาออกมาโดยตรง และนัดแนะให้ชายคนดังกล่าวพาตัวเด็กสาวมาส่งที่สถานกงสุลแต่เขากลับพาเดินทางไปสถานที่ต่างๆ กระทั่งอัยการได้กดดันจนชายดังกล่าวยอมพาตัวมาที่กงสุล ตนจึงขอให้อธิบดีกรมการกงสุลสั่งการให้เจ้าหน้าที่กงสุลออกมารับตัวไว้ และชายดังกล่าวก็ปลีกตัวหายไป
ตนไม่อาจสรุปได้ว่าชายไทยคนดังกล่าว มีเจตนาอย่างไร แต่อย่างน้อยก็ช่วยพาเด็กสาวออกมาได้ และเด็กสาวก็เล่าว่าชายไทยที่ให้ความช่วยเหลือพาไปที่บ้านเขา ซึ่งหากไม่มีคนไปช่วยเหลือออกมา อาจมีการนำเด็กสาวส่งร้านนวดที่เดิม และเด็กสาสบอกว่า ถ้าถูกบังคับให้ค้าประเวณีจะผูกคอตาย ซึ่งน่าแปลกที่ทำไมพาเด็กสาวไปในสถานที่ต่างๆ ที่มีแต่ฝรั่ง ทั้งที่สามารถพามากงสุลได้โดยง่ายตั้งแต่แรก
นายโกศลวัฒน์ อธิบดีอัยการ สคช. กล่าวอีกว่า หลังจากนี้จะดำเนินการส่งหญิงสาวกลับประเทศไทยตามระเบียบและวิธีการให้ความช่วยเหลือของทางราชการต่อไป เช่น ออกหนังสือเดินทางขั่วคราว และกล่าวเตือนผู้ที่จะเดินทางไปทำงานต่างประเทศ หรือ ตะวันออกกลาง ขอให้ตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจน อย่าหลงเชื่อก่อนตัดสินใจ เพราะอาจไม่โชคดีเหมือนหญิงสาวรายนี้ก็ได้