ภาคีเครือข่ายควบคุมยาสูบให้กำลังใจตำรวจปราบปรามผู้ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ปกป้องเด็กไทยจากพิษภัยและอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้า ด้านพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ เผย ปี 67 จับกุมรายใหญ่ถึง 17 ราย ยึดของกลางกว่า 120 ล้าน เดินหน้ากวาดล้างต่อเนื่อง ขู่ฟันจนท.รัฐ มีเอี่ยว
วันนี้ (16 ส.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้การต้อนรับคณะศูนย์วิจัยและการจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบและภาคีเครือข่ายควบคุมยาสูบ นำโดย นพ.วันชาติ ศุภจัตุรัส ผู้อำนวยการเครือข่ายวิชาชีพสุขภาพเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ และบรรดานักเรียนเครือข่ายเยาวชน Gen Z Gen Strong ที่ขอเข้าพบเพื่อแสดงความขอบคุณที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติสามารถกวาดล้างจับกุมผู้ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าออนไลน์รายใหญ่ได้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะบรรดากลุ่มผู้ค้าที่จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าใกล้สถานศึกษา ซึ่งถือเป็นการช่วยกันป้องกันเด็กเยาวชนให้ปลอดภัยจากบุหรี่ไฟฟ้า อันมีโทษอันตรายร้ายแรงและเป็นภัยของสังคม
โดยในช่วงเวลาที่ผ่านมาว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้กำหนดมาตรการปราบปรามให้ทุกสถานีตำรวจและ บช.สอท. กับ บก.ปคบ. สืบสวนจับกุมผู้ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ส่วนควบในพื้นที่รับผิดชอบ โดยเฉพาะพื้นที่รอบโรงเรียน สถานศึกษา แหล่งท่องเที่ยว ห้างร้าน ตลาด หรือสถานที่สำคัญ รวมทั้งผู้ลักลอบจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์รายใหญ่ที่มีโกดังเก็บบุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมาก ซึ่งตลอดปี 2567 เป็นต้นมา สามารถจับกุมผู้จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่ได้ถึง 17 ราย รวมบุหรี่ไฟฟ้าพร้อมอุปกรณ์ รวมจำนวน 630,853 รายการ มูลค่าของกลางคิดเป็น 121,488,140 บาท
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ในวันนี้ตนประหลาดใจและตกใจมากที่ภาคีเครือข่ายควบคุมยาสูบและเด็กนักเรียนเดินทางมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งถือเป็นกำลังใจที่ดีมาก ๆ แก่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะถือเป็นความรับผิดชอบในงานป้องกันปราบปรามเกี่ยวกับเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า อันเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล เนื่องจากบุหรี่ไฟฟ้านั้นสร้างพิษภัยให้กับเด็กเยาวชนอย่างมาก
ส่วนกรณีบุหรี่ไฟฟ้าได้รับการอนุญาตให้จำหน่ายในประเทศเพื่อนบ้าน ส่งผลให้มีปัญหาการลักลอบจำหน่ายและนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าตามชายแดน มองว่าในต่างประเทศจะเป็นเรื่องถูกกฎหมายก็เป็นเรื่องของเขา แต่สำหรับประเทศเรานั้น ยังถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย เพราะเราต้องคำนึงถึงพิษภัยต่อสุขภาพของประชาชน ซึ่งในอนาคตแนวทางจะเป็นอย่างไร ก็ควรจะต้องวิเคราะห์และประเมินอย่างรอบคอบ แต่ในปัจจุบันยังคงมุ่งเน้นในเรื่องการจับกุมทางกฎหมายและรณรงค์ให้รู้ถึงพิษภัยของบุหรี่ไฟฟ้า
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวด้วยว่า ปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าตามแนวชายแดนเป็นช่องโหว่ที่ทำให้เจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนเข้ามามีส่วนได้ส่วนเสียในเรื่องการรับผลประโยชน์เพื่อลักลอบจำหน่ายหรือนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า แต่หากตรวจพบว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐผู้ใดรับผลประโยชน์ในเรื่องนี้ ก็จะดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด ยืนยันว่าทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เร่งหาวิธีการและมาตรการที่จะอุดช่องว่างตรงนี้อย่างจริงจังให้ได้