ตำรวจไซเบอร์จับหญิงวัย 43 ปี แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้บัญชีไลน์อ้างเป็น กฟภ. หลอกเหยื่อสแกนหน้าลงทะเบียนรับสิทธ์ สุดท้ายถูกถอนเงินไปจนหมดบัญชี
วันนี้ (16 ส.ค.) พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. สั่งการให้ พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคระห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 นำหมายจับศาลจังหวัดมหาสารคาม ที่ จ.221/2567 ลง 8 ส.ค.67 จับกุม น.ส.ยุวดี (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี ที่หน้าบ้านของผู้ต้องหา ในพื้นที่ ม.9 ต.เขาพระ อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี ในข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ของผู้อื่นโดยการปลอมตัวเป็นผู้รับ ร่วมกันโดยทุจริตนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์คอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จทั้งหมดหรือบางส่วนโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 30 ก.ค.66 มีคนร้ายโทรศัพท์หาผู้เสียหายขณะกำลังขับรถเพื่อเดินทางกลับบ้านในพื้นที่ อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม โดยสอบถามว่า ลงทะเบียนรับส่วนลดค่าไฟฟ้าหรือยัง ผู้เสียแจ้งว่ายังไม่ได้ลงทะเบียน และไม่สะดวกคุยสายจึงวางสายไป วันรุ่งขึ้น ภรรยาผู้เสียหายเปิดโทรศัพท์ของผู้เสียหาย พบบัญชีไลน์ชื่อ “การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค” ส่งภาพประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าตามนโยบายของรัฐบาล พร้อมข้อความสอบถามการลงทะเบียนรับสิทธิ์ช่วยเหลือค่าไฟฟ้าและคืนเงินค่ามิเตอร์ ซึ่งภรรยาของผู้เสียหายได้พิมพ์ตอบไปว่า “ยังไม่ได้รับสิทธิ์”
จากนั้นคนร้ายอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าได้แชทขอข้อมูลและหมายเลขโทรศัพท์จากภรรยาผู้เสียหาย ภายหลังมีชายที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โทรศัพท์สอบถามการลงทะเบียนรับสิทธิ์ และให้ภรรยาของผู้เสียหายทำรายการผ่านไลน์ตามที่คนร้ายแจ้ง โดยกดลิงก์ที่คนร้ายส่งมาและกรอกข้อมูลตามที่คนร้ายกำหนด ซึ่งคนร้ายให้ภรรยาของผู้เสียหายนำโทรศัพท์ไปสแกนใบหน้าผู้เสียหายซึ่งเป็นสามีของตน ภรรยาหลงเชื่อจึงสแกนใบหน้าผู้เสียหายไป 2 ครั้ง เมื่อเรียบร้อยแล้วคนร้ายจึงวางสายไป จนกระทั่งผู้เสียหายได้ไปถอนเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ปรากฎว่า เงินในบัญชีธนาคารของผู้เสียหายได้ถูกโอนออกไปหมดบัญชี จำนวน 228,700 บาท จึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์ในเวลาต่อมา
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตํารวจจึงควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนบก.สอท.3 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป