xs
xsm
sm
md
lg

แก๊งจีนเทาเหิมบุกปล้นนักธุรกิจชาติเดียวกันบังคับโอน 70 ล้าน ตร.เชิญหุ้นส่วนสอบหาเบาะแส

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ตร.ปทุมฯตั้งชุดคลายคดี แก๊งจีนสีเทาบุกจี้ชิงทรัพย์ นักธุรกิจจิวเวลรี่ชาวจีน ก่อนบังคับให้เหยื่อโอนเงินสกุลดิจิตอล 70 ล้านบาท ก่อนพากันหลบหนี ตร.เชิญหุ้นส่วนสอบปากคำ

จากกรณี 4 คนร้ายชาวจีนพร้อมอาวุธครบมือ บุกเข้าไปปล้นทรัพย์สองสามีภรรยาชาวจีนถึงในบ้านพัก ซึ่งอยู่ภายในหมู่บ้านหรูแห่งหนึ่งในตำบลบ้านใหม่ อำเภอเมืองปทุมธานี โดยบังคับให้ญาติ ๆ ของผู้เสียหายที่อยู่ประเทศจีนโอนเงินสกุลดิจิตอล คิดเป็นไทย 70 ล้านบาท เข้าบัญชีกลุ่มคนร้าย หลังจากที่การโอนเงินแล้ว กลุ่มคนร้ายได้ยึดโทรศัพท์มือถือไป 4 เครื่อง และยกเซฟเวอร์ ที่บันทึกกล้องวงจรปิดภายในบ้าน แล้วขับรถยนต์โตโยต้า รุ่นอัลพาร์ด สีดำ ของผู้เสียหายหลบหนีไป เหตุช่วงกลางดึกวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา

ซึ่งต่อมาช่วงเที่ยงเมื่อวาน (14 ส.ค.67) ตำรวจไปพบรถโตโยต้า อัลพาร์ดของผู้เสียหาย จอดทิังอยู่ในซอยทางเข้าสถานีไฟฟ้าย่อย บ้านใหม่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ปทุมธานี จึงนำรถมาเก็บรักษาไว้ที่ สภ. ปากคลองรังสิต

ความคืบหน้าวันนี้ (15 ส.ค.67) พันตำรวจเอก พีรพล โชติกเสถียร รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี ได้เรียกประชุมความคืบหน้าคดี โดยมีชุดสืบสวน สภ.ปากคลองรังสิต, สืบสวนภูธรจังหวัดปทุมธานี, สืบสวนภาค 1, สตม. และตำรวจท่องเที่ยว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประชุม

หลังการประชุม พันตำรวจเอก พีรพล โชติกเสถียร รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี เปิดเผยว่า คนร้ายมีด้วยกันทั้งหมด 6 คน ก่อนเกิดเหตุได้มีการใช้รถยนต์สีขาวขับไปส่งบริเวณใกล้หมู่บ้านของผู้เสียหาย จากนั้นคนร้าย 5 คน จาก 6 คน ได้ใช้วิธีการเดินเท้าแอบเข้าไปในหมู่บ้าน ซึ่งห่างจากบ้านผู้เสียหายประมาณ 200 เมตร จากนั้นจึงปีนเข้าไปในบ้านของผู้เสียหาย ซึ่งขนาดเกิดเหตุในบ้านผู้เสียหายมีอยู่อยู่ด้วยกันทั้งหมด 6 คน ประกอบด้วย ผู้เสียหาย, ภรรยาผู้เสียหาย, พี่สาวผู้เสียหาย, เลขานุการผู้เสียหาย และแม่บ้านอีก 2 คน พอไปเจอเลขานุการของผู้เสียหายก็ใช้ปืนทุบศีรษะ (ใช้ปืนก่อเหตุ 1 กระบอก) และบังคับให้พาเข้าไปในบ้าน เมื่อพบผู้เสียหายจึงใช้เคเบิ้ลไทด์มัดข้อมือผู้เสียหาย, ภรรยาผู้เสียหาย และเลขานุการของผู้เสียหาย ส่วนพี่สาวของผู้เสียหาย และแม่บ้านอีก 2 คน นอนหลับอยู่ในห้อง ไม่ได้ถูกควบคุมตัวข่มขู่หรือพันธนาการแต่อย่างใด โดยคนร้ายใช้ภาษาจีนพูดคุยสื่อสารกับผู้เสียหาย อ้างว่าเป็นตำรวจจีนขู่บังคับให้โอนเงินเข้าบัญชีคนร้าย คิดเงินเป็นเงินไทย 70 ล้านบาท พร้อมกับนำทรัพย์สินเป็นเงินสด 2 ล้านบาท, นาฬิกายี่ห้อเปียเก้ 1 เรือน, เครื่องประดับทองคำขาว และรถยนต์โตโยต้า อัลพาร์ด รวมมูลค่าประมาณ 80 ล้านบาท ซึ่งภายหลังตำรวจติดตามนำรถโตโยต้า อัลพาร์ด กลับมาได้ เพราะหลังเกิดเหตุคนร้ายนำรถไปจอดทิ้ง จากนั้นจึงให้คนขับรถโดนสีขาวมารับหลบหนีไปอีกทอดหนึ่ง

การสืบสวนมีความคืบหน้าไปได้ระดับหนึ่ง เชื่อว่าคนร้ายยังอยู่ในประเทศไทย จากการสอบสวนทราบว่าผู้เสียหายเป็นที่ปรึกษาบริษัทจิวเวลลี่ บริษัทตั้งอยู่ในย่านรามคำแหง จดทะเบียนมาตั้งแต่ปี 2563 โดยมาซื้อบ้านหลังเกิดเหตุพักอาศัย

อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจได้เชิญผู้เสียหายมาให้ปากคำเพิ่มเติมในวันนี้ เบื้องต้นยังไม่พบความผิดปกติว่ามีคนในเกี่ยวข้องกับการก่อ เนื่องจากผู้เสียหายยืนยันว่า ไม่เคยรู้จัก และเห็นหน้าคนร้ายมาก่อน ตรวจสอบผู้เสียหายยังไม่พบประวัติการกระทำความผิด หรือมีหมายจับในประเทศจีน ซึ่งจะเชิญหุ้นส่วนที่ทำธุรกิจร่วมกับผู้เสียหายมาสอบปากคำในวันนี้ เพื่อหาสาเหตุเชื่อมโยงต่อไป รวมทั้งหาที่มาของเงินสดสองล้านบาทที่คนร้ายปล้นไปจากผู้เสียหายด้วย

ซึ่งอยู่ระหว่างกำลังเปรียบเทียบแผนประทุษกรรมคดีเก่า เพื่อตรวจสอบหาเบาะแสของคนร้ายที่ก่อเหตุ ซึ่งได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เชื่อว่าคนร้ายมีข้อมูลของผู้เสียหายพอสมควร จึงสามารถก่อเหตุได้

รถโตโยต้า อัลพาร์ดของผู้เสียหายที่คนร้ายใช้หลหนี พบนำมาจอดในซอยสถานีไฟฟ้าแรงสูงรังสิต การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย




กำลังโหลดความคิดเห็น