อัยการ’วัชรินทร์’ หัวหน้าชุดกำกับการสอบสวน เผย ดีเอสไอส่งสำนวน 8 ตำรวจโรงพักอรัญประเทศ คดีลุงเปี๊ยกให้อัยการปราบทุจริตฯ ภาค 2 เเล้ว เห็นสมควรฟ้องปฏิบัติหน้าที่มิชอบมาตรา157- พ.ร.บ.อุ้มหายฯ นัดฟังคำสั่ง 20 พ.ย.นี้
วันนี้ (14 ส.ค.) นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน หัวหน้าคณะทำงานตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวน ตามมาตรา 31 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 ในฐานะรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่าวันนี้ คณะพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษซึ่งนำทีมโดย นายคณพ ปิ่นทอง พนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการพิเศษ และนายธีรนิติ จันทร์ประวิตร พนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการ พร้อมคณะ
ได้นำสำนวนคดีพิเศษที่ 9/2567 ภายใต้การกำกับและตรวจสอบของสำนักงานอัยการสูงสุด พร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้องเเละนำตัว 8 ผู้ต้องหาซึ่งเป็นนายตำรวจระดับผู้กำกับสภ.อรัญประเทศ รองผู้กำกับสืบสวนสารวัตรสืบสวนและรองสารวัตรสืบสวน เเละตำรวจชั้นประทวน ในความข้อหาปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157, ข้อหาตามพ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายฯ เเละความผิดต่อเสรีภาพกรณีหน่วงเหนี่ยวกักขัง
กรณีนายปัญญา หรือลุงเปี๊ยก คงแสนคำ ในคดีที่ถูกตำรวจดำเนินคดีอาญาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ในคดีฆาตกรรมนางบัวผัน ตันสุ หรือป้ากบ หญิงสติไม่ดี วัย 47 ปี เเละเจ้าหน้าที่สภ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว มีการดำเนินคดีกับนายปัญญา ในข้อหาฆาตกรรม โดยตำรวจเเจ้งว่านายปัญญาให้การรับสารภาพ ว่าเป็นคนลงมือฆ่าเเละกระทำด้วยความมึนเมา
ต่อมาปรากฎภาพจากกล้องวงจรปิดที่สื่อมวลชนหามาได้จากจุดเกิดเหตุได้เปิดเผยความจริงว่า ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมนางบัวผันเป็นกลุ่มเยาวชน 5 คน ซึ่งในจำนวนนี้มี 2 คนที่เป็นลูกตำรวจใน จ.สระแก้ว โดยมีพฤติการณ์เป็นความผิดตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 และความผิดฐานอื่นที่เกี่ยวข้องมาส่งสำนวนให้พนักงานอัยการคดีปราบปรามทุจริตภาค 2 ซึ่งตั้งอยู่ที่จ.ระยอง เพื่อพิจารณาสำนวนเเละมีคำสั่งต่อไป และพนักงานอัยการสำนักงานอัยการปราบปรามทุจริตภาค 2 นัดฟังคำสั่งทางคดี ในวันที่ 20 พ.ย.2567