ตำรวจป่าไม้บุกจับโรงงานนายทุนจีน ยึดตะกรันอลูมิเนียมกว่าหมื่นตัน เผยเป็นสารอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต-กระทบระบบนิเวศ
วันนี้ ( 11 ส.ค.) พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส. พ.ต.อ.อรุณ วัชรศรีสุกัญยา รอง ผบก.ปทส. พ.ต.อ.อภิสัณฐ์ ไชยรัตน์ ผกก.5 บก.ปทส.นำหมายศาลเข้าตรวจค้นโรงงานเพิ่มพูนทรัพย์ ตั้งอยู่ที่ ต.โพรงมะเดื่อ อ.เมือง จ.นครปฐม และโรงงานไท่เป่าอลูมิเนียม ต.บางกระเจ้า อ.เมือง จ.สมุทรสาคร หลังสืบทราบว่าเป็นสถานที่เก็บตะกรันอลูมิเนียม(Aluminum Dross)
ทั้งนี้เนื่องจากเมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงนครปฐม ออกตรวจพื้นที่พบรถบรรทุกกึ่งพ่วงบรรทุกถุงบิ๊กแบ๊กมาเต็มรถ โดยสงสัยว่าจะเป็นกากอุตสาหกรรม จึงเรียกตรวจสอบ คนขับไม่มีเอกสารใด ๆ มาแสดง จนน่าเชื่อว่าอาจเป็นวัตถุอันตราย จึงประสานอุตสาหกรรมจังหวัดนครปฐม เข้ามาร่วมตรวจสอบ โดยคนขับรถบรรทุกระบุว่าไปรับของดังกล่าวมาจากโรงงานเพิ่มพูนทรัพย์ ต.โพรงมะเดื่อ อ.เมืองนครปฐม เพื่อนำไปส่งที่โรงงานไท่เป่าอลูมิเนียม ต.บางกระเจ้า อ.เมือง สมุทรสาคร จึงนำกำลังเข้าไปตรวจสอบที่โรงงานเพิ่มพูนทรัพย์ พบตะกรันอลูมิเนียมภายในโกดัง ทั้ง 2 หลัง ในวันนี้จึงเชิญเจ้าหน้าที่กรมโรงงาน , อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร และนครปฐมเข้าตรวจค้นซ้ำอีกครั้ง
โดยผลตรวจค้นที่โรงงานไท่เป่าฯ พบตะกรันอลูมิเนียมหนักประมาณ 2,100 ตัน ขณะตรวจค้นไม่มีผู้ใดรับเป็นเจ้าของโรงงาน มี น.ส.หญิง ไม่ทราบชื่อสกุลจริง แจ้งทางโทรศัพท์ว่า ช่วงนี้เป็นวันหยุดโรงงานปิด ตนเองอยู่ต่างจังหวัด ยินยอมให้เข้าตรวจในโรงงานได้ แล้วจะมาพบเจ้าหน้าที่อีกครั้งเพื่อชี้แจงรายละเอียด
ส่วนที่โรงงานเพิ่มพูนทรัพย์พบตะกรันอลูมิเนียม ดรอสหนักประมาณ 12,387 ตัน ซึ่งโรงงานนี้ไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.โรงงานอีกด้วย เจ้าหน้าที่กรมโรงงานจึงตรวจเก็บตัวอย่างนำส่งพิสูจน์พร้อมอายัดตะกรันอลูมิเนียมน้ำหนักประมาณ 14,514 ตัน ไว้เป็นของกลาง เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อ บก.ปทส อีกครั้ง
รายงานแจ้งว่าโรงงานทั้ง 2 แห่งเป็นของชาวจีน มีคนไทยเป็นล่ามและทำหน้าที่ดูแลโรงงาน ซึ่งจะได้ติดตัวตัวผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาดำเนินคดีข้อหา "ครอบครองวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต และตั้งโรงงานและประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต"
สำหรับตะกรันอลูมิเนียมนั้นคือสิ่งสกปรกที่แยกตัวจากกระบวนการหล่อ หลอมอลูมิเนียมซึ่งถือเป็นสารอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ หากแพร่กระจายไปในอากาศและแหล่งน้ำ เนื่องจากมีโลหะหนักปะปนอยู่ด้วย หากสัมผัสกับน้ำหรือความชื้นในอากาศ จะเกิดแก๊สแอมโมเนียส่งกลิ่นเหม็นในพื้นที่ใกล้เคียงโรงงาน นอกจากนี้ยังทำให้เกิดฝุ่นพิษและอาจปะทุเกิดไฟไหม้ขึ้นได้ รวมทั้งส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศอีกด้วย