ครอบครัวเพชรบูรณ์ ร้องกองปราบ ถูกเมียอดีต รองผู้ว่าฯ ภาคใต้ ตุ๋นลงทุนอสังหาฯ สูญเงินกว่า 8 ล้านบาท เหยื่อบางรายเครียดจนเส้นเลือดในสมองแตก กลายเป็นคนพิการ
วันนี้ (9 ส.ค.) ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายธมนันท์ แตงทิม หรือ จ่าคิงส์ สะพานใหม่ พร้อมด้วย นายณัฐปกรณ์ สุดชา หรือ ทนายเจส พา นายสมยศ กองทอง อายุ 45 ปี นายชานนท์ คงกระพัน อายุ 50 ปี นางสัมรวย มีวันเนือง อายุ 65 ปี พร้อมคนในครอบครัว ซึ่งเป็นชาวบ้านในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ป. เพื่อร้องขอความเป็นธรรม หลังถูกภรรยาอดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดหนึ่งในพื้นที่ภาคใต้ หลอกให้นำเงินมาร่วมลงทุนอสังหาริมทรัพย์ จนสูญเงินรวมกว่า 8 ล้านบาท
นายณัฐปกรณ์ หรือ ทนายเจส กล่าวว่า ผู้เสียหายกลุ่มนี้เป็นชาวบ้านใน จ.เพชรบูรณ์ ทั้งหมดเป็นเครือญาติกัน โดยเมื่อปี 64 เป็นต้นมา ทั้งหมดได้ถูก นาง น. (นามสมมติ) เป็นภรรยาของอดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ภาคใต้ และเป็นนายจ้างของ นายชานนท์ หนึ่งในผู้เสียหาย หลอกให้นำเงินมาร่วมลงทุนซื้อบ้านเก่ามารีโนเวตขาย และลงทุนทำโครงการที่ดินจัดสรรแบ่งขายอ้างได้กำไรสูง แต่เมื่อนำเงินมาลงทุนแล้วกลับไม่มีการดำเนินการทางธุรกิจใดๆ ตามที่ตกลงกันไว้
นายณัฐปกรณ์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา ภรรยาของอดีตรองผู้ว่าฯ ยังเคยอ้างตัวว่ามีเส้นสายสามารถวิ่งเต้นเคลียร์คดีให้กับหนึ่งในผู้เสียหายได้ รวมถึงสามารถวิ่งเต้นทำเรื่องเปลี่ยนที่ดิน ส.ป.ก. ให้เป็นที่ดินมีโฉนดเพื่อนำไปขายต่อได้ แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องจ่ายเงินค่าดำเนินการ แต่สุดท้ายกลับไม่สามารถทำได้ตามที่ตกลงกันไว้ ซึ่งกว่าที่จะรู้ตัวว่าถูกหลอกให้นำเงินมาราวมลงทุน และจ่ายค่าดำเนินการวิ่งเต้นทำเรื่องต่างๆ ก็สูญเงินรวมไปกว่า 8 ล้านบาทแล้ว
นายสมยศ หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า เหตุผลที่ทำให้ตนและคนในครอบครัวไว้เนื้อเชื่อใจ นาง น. เพราะเห็นว่าเป็นนายจ้างของนายชานนท์ ญาติของตน รวมถึงเห็นว่ามีโปรไฟล์ดี เป็นภรรยาของอดีตรองผู้ว่าฯ ดูน่าเชื่อถือ ไม่คิดว่าจะทำกันได้ลงคอ ซึ่งหลังเกิดเรื่องขึ้น นายชานนท์ เอง ก็เกิดความเครียด และรู้สึกผิด คิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพราะตนเอง ที่เป็นคนพา นาง น. นายจ้างมารู้จักญาติพี่น้อง จนทำให้นายชานนท์ เส้นเลือดสมองแตก ต้องผ่าตัดสมองกลายเป็นคนพิการ ซ้ำในช่วงที่ นายชานนท์ เข้ารักษาตัว นาง น. ยังหลอกให้ญาติโอนเงินไปให้อีก 2.2 แสนบาท อ้างจะนำไปจ่ายเป็นค่าผ่าตัดเปลี่ยนกะโหลกให้กับนายชานนท์ แต่สุดท้ายเมื่อได้รับเงินไปแล้วกลับไม่นำไปจ่ายค่ารักษาตัวให้กับนายชานนท์ ตามที่กล่าวอ้าง ก่อนหน้านี้ เคยนำเรื่องเข้าแจ้งความไว้ที่ตำรวจท้องที่แต่คดีไม่คืบ วันนี้จึงตัดสินใจมาร้องขอความเป็นธรรมกับตำรวจกองปราบ
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำกลุ่มผู้เสียหาย เพื่อนำไปพิจารณาควบคู่พยานหลักฐานต่างๆ ก่อนเสนอให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป