MGR Online - สายไหมต้องรอด พาผู้เสียหาย ร้อง ยธ. หลังหนีตายจาก จ.พังงา ถูกผู้มีอิทธิพลควงปืน M16 ไล่ยิง ขอคุ้มครองพยานทั้งครอบครัว ด้านตำรวจเตรียมออกหมายจับ
วันนี้ (5 ส.ค.) ที่กระทรวงยุติธรรม ถ.แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายเอกภพ เหลืองประเสิรฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด และในฐานะที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย พา นายเกียรติภูมิ เกบุตร อายุ 23 ปี ผู้เสียหาย เดินทางเข้าพบ เจ้าหน้าที่กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ สำนักงานคุ้มครองพยาน เพื่อขอรับการคุ้มครองพยานทั้งครอบครัว หลังถูกคู่กรณีผู้มีอิทธิพลในพื้นที่เกาะยาวใหญ่ จ.พังงา ใช้อาวุธปืนสงคราม M16 ไล่ยิงมาถึงที่พัก สาเหตุเพราะกล่าวตักเตือนลูกชายผู้มีอิทธิพลขับขี่รถเกือบเฉี่ยวชน ทำให้ผู้เป็นพ่อของคู่กรณีเกิดความไม่พอใจ ก่อนหนีตายมาขอความช่วยเหลือเพจสายไหมต้องรอด
นายเอกภพ กล่าวว่า จากที่มีการเผยแพร่ข่าวออกไปและโจมตีตำรวจคนที่แนะนำให้มาร้องกับเพจสายไหมต้องรอดนั้น ตนก็เห็นใจตำรวจรายนี้เพราะอาจจะอยู่ในหน้างานที่ไม่สามารถช่วยเหลือได้ หรือเห็นว่าใน สภ.เกาะยาว มีตำรวจที่อาจรู้จักกับผู้มีอิทธิพล ซึ่งจะทำให้ผู้เสียหายเดือดร้อนหนักกว่าเดิม จึงแนะนำผู้เสียหายไปแบบนั้น ทั้งนี้ ได้ประสานยัง น.ส.นิรชา บัณฑิตย์ชาติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา แต่เนื่องจากติดภารกิจ และได้ให้ทางจังหวัดตรวจสอบว่าบุคคลดังกล่าวมีรายชื่อผู้มีอิทธิพลของ จ.พังงา หรือมีรายชื่ออยู่ในบัญชีผู้มีอิทธิพลของกระทรวงมหาดไทยด้วยหรือไม่ เหตุใดจึงปล่อยให้มีการถือปืน M16 มาข่มขู่ประชาชนในสังคม หรือหากตรวจสอบแล้วไม่มีชื่ออยู่ในบัญชีผู้มีอิทธิพล ก็ขอให้ทางจังหวัดพิจารณาเพิ่มรายชื่อ เพื่อจะได้มีมาตรการในการเฝ้าระวังหรือปิดล้อมตรวจค้น เบื้องต้นพบว่าผู้ก่อเหตุไม่มีชื่ออยู่ในบัญชีผู้มีอิทธิพล และได้รับรายงานว่าหลบหนีออกนอกพื้นที่ไปแล้ว
"ในส่วนของคดีความ ได้ประสานไปยัง พล.ต.ต.สมคะเน โพธิ์ศรี ผบก.ภ.จว.พังงา ทราบว่าช่วงบ่ายวันนี้จะมีการออกหมายจับผู้ก่อเหตุทันที แต่สงสัยว่ามีกระแสข่าวไม่ใช่คนพื้นที่ อีกทั้ง ผู้ก่อเหตุเคยต้องโทษมาก่อนและเพิ่งออกจากเรือนจำ" นายเอกภพ กล่าว
ด้านผู้เสียหาย ระบุว่า ในวันเกิดเหตุ ยืนยันเห็นตำรวจยกมือไหว้ผู้ก่อเหตุจริงถ้าไม่รู้จักก็ไม่น่าทำแบบนั้น ยอมรับว่าค่อนข้างกังวลเพราะครอบครัวยังอยู่ในพื้นที่ หากตำรวจจับตัวผู้ก่อเหตุได้ ก็ยังหวั่นเรื่องเครือข่ายผู้มีอิทธิพลจะหวนกลับมาทำร้ายอีก
ตัวแทนเจ้าหน้าที่กรมคุ้มครองสิทธิฯ เปิดเผยขั้นตอนว่า ถ้าเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองพยานจะได้รับความปลอดภัยทั้งตัวผู้ร้องและครอบครัวแน่นอน แต่การพูดคุยเบื้องต้นยังกังวลเพราะครอบครัวยังอยู่ในพื้นที่ พร้อมประสาน สภ.เกาะยาว ช่วยติดตามความคืบหน้า โดยจะประเมินความเสี่ยงว่าจะกลับเข้าพื้นที่ปลอดภัยหรือไม่