xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กต่าย” เปิดโครการฝึกอบรมทบทวนยุทธวิธีงานป้องกกันปราบปรามตำรวจนครบาล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



รอง ผบ.ตร.เป็นประธานเปิดโครงการฝึกอบรมการประเมินสถานการณ์ในระดับผู้บริหารขั้นต้นหน้างานป้องกันปราบปราม ทบทวนพัฒนายุทธวิธีให้ตำรวจสังกัดนคนบาล

วันนี้ (5 ส.ค.) ที่ อาคารฝึกยุทธวิธี กองกำกับการสายตรวจ 191 กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (บก.สปพ.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร รอง ผบ.ตร.เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฝึกอบรมการประเมินสถานการณ์ในระดับผู้บริหารขั้นต้นหน้างานป้องกันปราบปรามของ บช.น. โดยมีพล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วรวิทย์ ญาณจินดา ผบก.สปพ. รวมทั้งผู้แทนระดับ รอง ผบก. บก.น.1-9 รอง ผกก.ป. ทั้ง 88 สน. และผู้เข้ารับการฝึกอบรมฯ รุ่นที่ 1 (จำนวน 49 นาย) พร้อมทั้งได้ร่วมรับชมการแสดงสาธิตยุทธวิธีตำรวจในการเข้าระงับเหตุจับกุมคนร้าย

พล.ต.ต.ชรินทร์ กล่าวว่า เนื่องด้วยปัจจุบันปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีความสลับซับซ้อนตามสภาพเศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป การก่อเหตุของคนร้าย มีรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น ทำให้ยากต่อการปฏิบัติงานของตำรวจสายป้องกันปราบปราม ซึ่งรอง ผกก.ป. และ สวป. แต่ละ สน. ถือเป็นผู้บริหารเหตุการณ์ขั้นต้นในกรณีหากเกิดเหตุการณ์ที่มีการใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในการระงับเหตุ จึงจำเป็นต้องมีความรู้ ความเข้าใจ และได้รับการพัฒนาฝึกทบทวนยุทธวิธีอย่างสม่ำเสมอ

ทาง บช.น.จึงได้จัดให้มีโครงการฝึกอบรมการประเมินสถานการณ์ของ บช.น. ขึ้น โดยให้ บก.น. 1-9 พิจารณาคัดเลือกระดับ รอง ผกก.ป. และ สวป. ในสังกัดจำนวน 88 สถานี รวมทั้งสิ้น 245 นาย แบ่งการฝึกทบทวนออกเป็น 5 รุ่น เพื่อให้ผู้สำเร็จการฝึกทบทวน สามารถกลับไปถ่ายทอดยุทธวิธีตำรวจให้แก่ผู้ใต้บังคับบัญชาประจำสถานีตำรวจได้อีกด้วย โดยกำหนดการฝึกทบทวนตั้งแต่วันที่ 5 ส.ค.-4 ก.ย. รวม 15 วัน ซึ่งมีคณะวิทยากรและเจ้าหน้าที่จาก กก.สายตรวจ บก.สายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ เป็นเจ้าภาพ ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง โดย บช.น. เน้นย้ำให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ ยึดหลักกฎหมาย และเป็นที่ไว้วางใจของพี่น้องประชาชน ตามนโยบาย ลดอาชญากรรม สร้างความปลอดภัย ใส่ใจบริการ

ด้าน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า จากเหตุการณ์การสูญเสียเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ สภ.นาหวาย จ.เชียงใหม่และเกิดเหตุสูญเสีย พ.ต.ท. กิตติ์ชนม์ จันยะรมณ์ รองผกก.ป.สน.ท่าข้าม หรือรองหรั่ง จะเห็นได้ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหากขาดการประเมิน ผู้ที่ได้รับผลกระทบคือทาง รอง.ผกก.และสารวัตรเอง เนื่องจากเจ้าหน้าที่ ที่ระดับต่ำกว่านั้นได้มีการฝึกทบทวนยุทธวิธีไปแล้ว ทั้งนี้ทางรอง.ผกก.และสารวัตรจะต้องประเมินนำพาชุดปฏิบัติให้ปลอดภัยไม่ได้รับการอันตรายใดๆ และสำเร็จในภารกิจนั้นตามหลักยุทธวิธีตำรวจและกฎหมายที่บัญญัติไว้

อย่างไรก็ตามต้องขอขอบคุณผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องจัดทำโครงการนี้ขึ้นมา ซึ่งตอนนี้ตนได้ให้ทางสำนักงานกำลังพล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำรวจในเรื่องเสื้อเกราะ อาวุธประจำกาย ประจำหน่วย และปืนเทรเซอร์ประจำกายของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติการ ที่มีข้อจำกัดในการจัดหาอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องของงบประมาณ โดยจะต้องบริหารงบประมาณที่มีอยู่กับโครงการที่จัดทำให้สอดคล้องกัน ซึ่งสำนักงานกำลังพล ได้นำข้อมูลจัดเตรียมไว้แล้ว และจะเข้าสู่กระบวนการในการจัดทำคำของบประมาณในปี 2568 ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นการลงทุนงบประมาณจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่คุ้มค่า เพื่อให้ผู้บริหารชั้นต้นในหน้างานป้องกันปราบปรามเกิดทักษะความชำนาญและมีการตัดสินใจที่ส่งประสิทธิภาพที่สุด ตนหวังว่าช่วงเวลาในการอบรมทบทวนโครงการนี้จะต้องเกิดความสำเร็จ แต่ความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้จากการที่ทางผู้ฝึกตั้งใจ และขอย้ำว่า ไม่ต้องการให้ผู้ฝึกมาเพื่อพักผ่อน แต่ให้มาเพื่อฝึกทบทวนถึงองค์ความรู้ทั้งทางด้านภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติอย่างจริงจัง








กำลังโหลดความคิดเห็น