ทนายดัง เข้าช่วยญาติ "บอย"โดนยิงดับ ปมช่วยห้ามศึกรุ่นพี่ หลังคดีเงียบ ผู้ต้องหาได้ประกัน หวั่นพงส.ตั้งข้อหาเบา
จากกรณีช่วงเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา นายธีระเดช รุ่งอำไพ หรือ เอ อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาได้โทรนัดเคลียร์กัน ในที่เกิดเหตุ ในะนที่จ.นนทบุรี ระหว่างพูดคุยกันอยู่นายเอได้ควักอาวุธปืนออกมายิงขึ้นฟ้า 1 นัด พร้อมกับใช้ด้ามปืนตบมาที่ศีรษะนายอดุลยวิทย์ เลิศธนพงศ์ ทำให้นายวชิรพงศ์ ด้วงแค หรือบอย อายุ 26 ปีที่อยู่ในเหตุการณ์เข้าไปห้าม จึงถูกยิงใส่ 1 นัด จนเสียชีวิต และนายอดุลยวิทย์ ได้รับบาดเจ็บ จากการาอบแากคำนายเอ ให้การอ้างว่า ทำปืนลั่นใส่นายบอย แต่ไม่ได้ตั้งใจยิง
ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ส.ค. ที่สภ.ชัยพฤกษ์ นายนิติศักดิ์ มีขวด ทนายความชื่อดัง ได้พา นางอาภาพัชร์ วงศ์ชนะวัฒนา อายุ 45 ปี แม่ผู้เสียชีวิต ได้เข้ายื่นขอความเป็นธรรมต่อ ผกก.และพนักงานสอบสวนคดีดังกล่าว
โดยนายนิติศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้มาขอความ เป็นธรรมถึงผู้กำกับและพนักงานสอบสวนให้สอบเพิ่มเติม และ แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาในความผิด ข้อหาฆ่าคนตายโดย เตรียมการและไตร่ตรองไว้ก่อน ซึ่งพฤติการณ์ แห่งคดี มีการนัดคุยและเตรียมอาวุธปืนไว้ก่อน เพราะก่อนหน้านี้ พนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อหา นายธีระเดชฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา ไม่ตรงกับพฤติการณ์ พร้อมให้ญาติผู้เสียชีวิตยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมด้วย
มีเนื้อหาระบุว่า ข้าพเจ้า นางสาวอาภาพัชร์ วงศ์ชนะวัฒนา มารดาของนายวชิรพงศ์ ด้วงแค ผู้เสียชีวิตใน จากการกระทำของนายธีระเดช รุ่งอำไพ โดยในคดีดังกล่าวมี นายธีระเดช รุ่งอำไพ เป็นต้องหา ตามคดีอาญาที่ 335/67 ของสถานีตำรวจภูธรชัยพฤกษ์ และต่อมาเมื่อวันที่๕ พฤษภาคม ๒๕๖๗ พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวนายธีระเดช รุ่งอำไพ และแจ้งข้อหา นายธีระเดช รุ่งอำไพผู้ต้องหา คือ ข้อหาฆ่า ผู้อื่นด้วยอาวุธโดยเจตนา ข้อหาพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุสมควร ข้อหายิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือชุมชน โดยไม่มีเหตุอันควร
ข้าพเจ้าในฐานะมารดาของนายวชิรพงศ์ ด้วงแค ผู้เสียชีวิตจึงขอความเป็นธรรมมายังท่านในฐานะผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรชัยพฤกษ์ และพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดี ได้โปรดให้ความเป็นธรรมกับข้าพเจ้าและบุตรของข้าพเจ้าที่เสียชีวิตไป ข้าพเจ้าขอให้มีการสอบสวนเพิ่มเติมและ พิจารณาแจ้งข้อหานายธีระเดช รุ่งอำไพ (ผู้ต้องหา) เพิ่มเติมในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เนื่องจากจากพฤติการณ์ในวันเกิดเหตุของคดีสามารถรับฟังได้เป็นที่ยุติว่า นายธีระเดช รุ่งอำไพ (ผู้ต้องหา) ได้มีการนัดนายดุลยวิทย์ เลิศธนพงศ์ (บอล) คู่กรณีให้มาเคลียร์ปัญหากันที่บ้านผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน โดยนายธีระเดช รุ่งอำไพ (ผู้ต้องหา) ได้มีการตระเตรียมอาวุธที่ใช้ในการฆ่า คือ อาวุธปืนพกสั้น ขนาด .45 (11มม.)ชนิดกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อ COLT ของกลางในคดีนี้มาด้วยเป็นการตระเตรียมการวางแผนที่จะก่อเกิดมาตั้งแต่ต้นแล้ว ซึ่งหากเป็นการนัดหมายดังกล่าวเพียงพูดคุยและเคลียร์ปัญหากันเท่านั้น ไม่มีเหตุผลที่นายธีระเดช รุ่งอำไพ (ผู้ต้องหา) จะต้องนำอาวุธปืน ซึ่งถือเป็นอาวุธที่มีอานุภาพร้ายแรงติดตัวมาด้วย แต่เหตุที่ นายธีระเดช รุ่งอำไพ (ผู้ต้องหา) นำอาวุธปืนพกสั้น ขนาด.45(11 มม.) ชนิดกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อ COLTมาด้วย นั้นเป็นการตระเตรียมการเพื่อฆ่าผู้อื่นอันเป็นองค์ประกอบตามกฎหมายในฐานความผิดฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนแล้ว อีกทั้งบริเวณที่เกิดเหตุในคดีนี้ได้ปรากฏว่า ในที่เกิดเหตุได้มีการล้างคราบเลือด ก่อนที่จะมีเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้ามาดำเนินการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุและพิสูจน์หลักฐานต่างๆโดยใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์ทางเคมี ฟิสิกส์ ชีววิทยา การตรวจเปรียบเทียบ การถ่ายรูป เพื่อชวยพนักงานสอบสวน หรือหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมเพื่อค้นหา ตรวจเก็บ ตรวจพิสูจน์หลักฐานต่างๆ ลักษณะดังกล่าวเป็นการทำลายหลักฐานในที่เกิดเหตุ ซึ่งมีพยานที่เกิดเหตุสามารถยืนยันข้อเท็จจริง ดังกล่าวนี้ได้ ประกอบกับในคดีนี้ซึ่งถือเป็นคดีอุกฉกรรจ์ มีอัตราโทษสูง แต่นายธีระเดช รุ่งอำไพ (ผู้ต้องหา) กลับได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นสอบสวน และได้รับการปล่อยตัวในวันเกิดเหตุ โดยไม่ได้นำตัวฝากขังและศาลมิได้เป็นผู้พิจารณาปล่อยตัวชั่วคราว นายธีระเดช รุ่งอำไพ (ผู้ต้องหา) ซึ่งเป็นเรื่อง ผิดปกติแตกต่างกับคดีอื่นๆ ที่มีโทษร้ายแรงเหมือนๆ กัน
ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงขอความเป็นธรรมมายังท่านในฐานะผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรชัยพฤกษ์
และพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดี ได้โปรดให้ความเป็นธรรมกับข้าพเจ้าและบุตรของข้าพเจ้าที่เสียชีวิตไป จากการกระทำของนายธีระเดช รุ่งอำไพ โดยพิจารณาแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพิ่มเติมในการนี้หากพนักงานสอบสววผู้รับผิดชอบคดี ประสงค์จะสอบปากคำพยานเพิ่มเติม ข้าพเจ้ายินดีจะนำพยานบุคคลที่รู้เห็นเหตุการณ์มาให้ปากกับท่าน ข้าพเจ้าจึงขอความเมตตากรุณามาต่อท่านได้โปรดให้ความเป็นธรรมแก่ข้าพเจ้าและบุตรที่เสียชีวิตไปด้วย ขอให้ท่านในฐานะที่พึ่งสุดท้ายของข้าพเจ้าเร่งรัดการสอบสวนส่งสำนวนฟ้องต่อศาลเพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ข้าพเจ้าและบุตรที่เสียชีวิตต่อไปด้วย