xs
xsm
sm
md
lg

"บช.ก.- ขนส่ง"เอาจริง! เปิดปฏิบัติการลุยปราบรถเถื่อนป้องกันใช้ขนยานรก- ต่างด้าว- ของหนีภาษี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ตำรวจสอบสวนกลางร่วมกรมการขนส่งเปิดปฏิบัติการ “ปราบรถเถื่อนวิ่งเกลื่อนเมือง” ใช้ลักลอบขนยาเสพติด แรงงานต่างด้าว สินค้าหนีภาษี รวบผู้ต้องหา 4 ราย ยึดรถติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอมกว่า 30 คัน เผยหมายเลขเดียวใช้ซ้ำกันถึง 26 คัน


วันนี้ (31 ก.ค.) ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล. และ นายเสกสม อัครพันธุ์ รอง อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ร่วมแถลงผล ปฏิบัติการ “ปราบรถเถื่อนวิ่งเกลื่อนเมือง” หลังนำกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายจำนวน 4 จุดในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ราชบุรี ชัยภูมิ และศรีสะเกษ สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ จำนวน 4 ราย พร้อมตรวจยึดรถยนต์และรถจักรยานยนต์ รวมไปถึงแผ่นป้ายทะเบียนปลอมของกลางได้รวมกว่า 30 คัน

พล.ต.ต.โสภณ กล่าวว่า สำหรับปฏิบัติการครั้งนี้เนื่องจากที่ผ่านมา ได้ตรวจพบ มีการนำรถผิดกฎหมายมาสวมป้ายทะเบียนปลอมวิ่งบนท้องถนนจำนวนมาก อีกทั้งทะเบียนบางหมายเลข ยังถูกนำไปสวมรถมากถึง 26 คัน นอกจากนี้ยังพบว่าปัจจุบันรถสวมทะเบียนปลอมเหล่านี้มักถูกนำไปใช้กระทำผิดกฎหมายอื่นๆ เพิ่มมากขึ้น อาทิ ใช้ในการขนยาเสพติด ลักลอบขนแรงงานต่างด้าว อาวุธเถื่อน จึงได้ประสานข้อมูลร่วมกับกรมการขนส่งทางบก จนนำมาสู่การบูรณาการกำลังร่วมกันเปิดปฏิบัติการดังกล่าว

พล.ต.ต.มนตรี กล่าวว่า ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นการขยายผลต่อเนื่องจากกรณีจับกุมขบวนการส่งออกรถสวมทะเบียนประเทศเพื่อนบ้านเครือข่าย “เจ๊มะลิ” ในพื้นที่ อ.เมือง จ.เลย เมื่อวันที่ 26 ก.ย.2566 ที่ผ่านมา ก่อนพบข้อมูลเลขทะเบียน ข้อมูลป้ายภาษี ข้อมูลยี่ห้อรถยนต์ ข้อมูลตัวถังรถยนต์ จำนวน 2,000 กว่ารายการ ซึ่งเชื่อว่าเป็นข้อมูลเอกสารที่มีการปลอมขึ้นมาเพื่อจัดจำหน่ายไปยังลูกค้าที่มีการสั่งซื้อ

“จากข้อมูลดังกล่าว มีการจำแนกออกเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มแรก หมายเลขทะเบียนอยู่ในฐานข้อมูลกรมการขนส่งแต่ระบุประเภทรถไม่ตรงตามจริง กลุ่มที่สองหมายเลขทะเบียนมีข้อมูลในระบบกรมการขนส่ง ระบุข้อมูลตรงกับตัวรถเพียงแต่มีจำนวนหลายคัน หรือ เรียกว่ารถแฝด และ กลุ่มที่สาม ไม่พบข้อมูลในระบบของกรมการขนส่ง หรือ เป็นรถติดป้ายทะเบียนว่าง หรือ หมายเลขทะเบียนที่ยังไม่ได้เปิดใช้” ผบก.ป.กล่าว

พล.ต.ต.มนตรี กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบข้อมูลรถกว่า 2,000 รายการเหล่านี้ ยังพบว่า ส่วนใหญ่ยังมีกรรมสิทธิ์เป็นของบริษัทไฟแนนซ์ ประมาณว่า ผู้ครอบครองหลังเช่าซื้อรถมาก็ได้นำไปจำนำ บางส่วนตั้งใจจะขาย ขณะที่บางส่วนก็ถูกผู้รับจำนำเชิดหนีแล้วนำไปขายซึ่งในส่วนของผู้ที่มาซื้อต่อนั้น บางรายก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นรถผิดกฎหมาย แต่เห็นแก่ราคาถูก หรืออาจตั้งใจจะนำไปใช้ในการกระทำความผิด แต่ก็ยังมีบางรายที่ไม่รู้ว่าเป็นรถผิดกฎหมาย เพราะถูกย้อมแมวขาย เนื่องจากมีการปลอมป้ายทะเบียนและคู่มือการจดทะเบียนรถยนต์ จากนั้นจึงรวบรวมพยานหลักฐานนำมาสู่การเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายทั้ง 4 จุด จนนำมาสู่การจับกุมผู้กระทำผิดทั้ง 4 ราย ได้ดังกล่าว ซึ่งกลุ่มผู้ต้องหาที่จับมาในครั้งนี้เป็นเพียงแค่เครือข่ายเดียว หรือ ส่วนหนึ่งในฐานข้อมูลที่เราตรวจพบ โดยหลังจากนี้จะเร่งขยายผลในส่วนที่เหลือเพิ่มเติม

ขณะที่ พล.ต.ต.คงกฤช กล่าวว่า ในช่วงปีที่ผ่านมาตำรวจทางหลวง สามารถตรวจยึดรถสวมทะเบียนได้จำนวน 67 คัน โดยส่วนใหญ่จะถูกนำมาใช้ในการลักลอบขนยาเสพติด ลักลอบขนแรงงานต่างด้าว สินค้าหนีภาษีหรือของเถื่อน รวมไปถึงใช้ในการทำผิดกฎหมายอื่นๆมากมาย

ด้าน นายเสกสม กล่าวว่า ในส่วนของกรมการขนส่งทางบก ที่ผ่านมามีการประสานข้อมูลร่วมกับทางตำรวจมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตรวจสอบทะเบียนรถต่างๆ ป้องกันการกระทำผิด ทำให้สามารถทราบได้ว่า รถคันใดบ้างเป็นรถถูกต้องหรือผิดกฎหมาย ส่วนกรณีที่พบข้อมูลว่ามีรถใช้แผ่นป้ายทะเบียนหมายเลยเดียวกันถึง 26 คัน นั้น จากการตรวจสอบพบเป็นแผ่นป้ายปลอม อีกทั้งหมายเลขทะเบียนดังกล่าวนั้นก็ยังไม่ได้มีการเปิดใช้










กำลังโหลดความคิดเห็น