MGR Online - "เศรษฐา" มอบนโยบาย ยกระดับปราบยาเสพติด กำหนดวันปิดล้อมตรวจค้นทั่วประเทศ ใช้รูปแบบ “ธวัชบุรี Model” มอบ ป.ป.ส. เร่งแก้ไขปัญหา
วันนี้ (30 ก.ค.) ณ ห้องประชุมชิดชัย วรรณสถิตย์ สำนักงาน ป.ป.ส. ดินแดง กรุงเทพฯ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มอบนโยบายผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ในการประชุมศูนย์ปฏิบัติการติดตามเร่งรัดการบำบัดรักษา ฟื้นฟูสภาพทางสังคม ป้องกัน และปราบปรามยาเสพติด (ศปก.ครส.) ครั้งที่ 8/2567 โดยมี พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วย คณะกรรมการฯ และ ผู้ว่าราชการจังหวัด เข้าร่วมการประชุมพร้อมหน่วยงานภาคี ผ่านระบบการประชุมออนไลน์เพื่อเร่งรัดแก้ไขปัญหายาเสพติด ในพื้นที่ 25 จังหวัดให้บรรลุเป้าหมาย ระยะ 3 เดือน (มิ.ย.-ส.ค.67)
ทั้งนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายในการปฏิบัติงานเพื่อให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยให้ 1.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงาน ป.ป.ส. และจังหวัด กำหนดวันในการเปิดปฏิบัติการปราบปราม ปิดล้อม ตรวจค้นเครือข่ายผู้ค้ารายย่อยและรายใหญ่ในพื้นที่พร้อมกันทั่วประเทศ ขยายผลด้วยการใช้มาตรการทางกฎหมายและทรัพย์สิน เพื่อตัดวงจรยาเสพติด 2.กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำรูปแบบ “ธวัชบุรี Model” มาทำการ X-Ray ชุมชน โดยให้จังหวัดจัดทำระบบในการติดตามดูแล ช่วยเหลือ และเฝ้าระวังภายหลังจากที่ผู้ผ่านการบำบัดรักษากลับสู่ชุมชน 3.กระทรวงมหาดไทย กทม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขับเคลื่อนศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมอย่างเข้มข้น เพื่อให้ผู้ที่เข้ารับการบําบัดรักษา สามารถดํารงชีวิตอยู่ในสังคมได้ โดยไม่กลับมากระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดซ้ำ
4.กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงาน ป.ป.ส. จัดระเบียบสังคมในพื้นที่สถานบันเทิง สถานบริการ สถานศึกษาและบริเวณโดยรอบ อย่างจริงจังเพื่อป้องกันไม่ให้เป็นแหล่งแพร่ระบาดของยาเสพติด 5.กรณีที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการปฏิบัติงานให้ สำนักงาน ป.ป.ส. พิจารณาอนุมัติเงินช่วยเหลือแก่ผู้บาดเจ็บหรือทายาทของผู้เสียชีวิตเพื่อเยียวยาความสูญเสียที่เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด 6.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งรัดจัดการประชุมเพื่อจัดสรรเงินค่าตอบแทนแก่เจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานยาเสพติดโดยเร็วเพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติด้านยาเสพติดต่อไป
ด้าน พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวสรุปผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการฯ ในพื้นที่ 25 จังหวัดนำร่อง ว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานบรรลุเป้าหมายครอบคลุมทุกด้าน 1.ด้านการปราบปราม ดำเนินคดีผู้กระทำความผิดร้ายแรงคดียาเสพติด 12,722 คดี ข้อหาสมคบ สนับสนุน ช่วยเหลือ 431 คดี และ การตรวจสอบทรัพย์สินเบื้องต้นได้ 829.54 ล้านบาท จังหวัดผลงานโดดเด่น คือ นครศรีธรรมราช สมุทรปราการ
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า 2.ด้านการบำบัดรักษาและฟื้นฟู นําผู้เสพเข้าสู่กระบวนการบําบัด ที่มีการดำเนินการในรูปแบบ CBTx (1 มิ.ย. – 28 ก.ค.67) มากกว่า 6,764 คน เพื่อให้ไม่หวนกลับไปเสพยาอีก โครงการชุมชนบำบัดตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล นำคนเข้าร่วม 12,241 คน (คิดเป็น 19.25คน/สถานี) และ กระบวนการสำคัญ ผู้เสพที่มีอาการทางจิตเมื่อบำบัดแล้ว ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลคนไข้จิตเวชที่มีแนวโน้มก่อความรุนแรง โดยให้ยาจิตเวชควบคุมอาการ และระมัดระวังในการขาดยา ส่วนจังหวัดผลงานโดดเด่น คือ ขอนแก่น ร้อยเอ็ด และ 3.ด้านการป้องกัน จัดระเบียบสังคมในสถานบันเทิง สถานบริการได้ทั้งหมด , สถานประกอบการคล้ายสถานบันเทิง ร้อยละ 99.67 รวมทั้ง รอบสถานศึกษา ร้อยละ 99.21 โดยมีการเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนมากกว่าร้อยละ 99.35 ซึ่ง ชลบุรี กรุงเทพมหานคร เป็นจังหวัดที่มีผลงานเด่น
"กรณีผู้ใช้ยาเสพติดก่อความเดือดร้อนแก่สังคม เช่น ทำร้ายผู้อื่น ทำลายทรัพย์สิน ทำให้สังคมมองว่าปัญหายาเสพติดรุนแรง และภาครัฐไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการค้นหาผู้เสพที่มีอาการทางจิต การบำบัดรักษา ตลอดจนการหาที่รองรับกรณีที่ไม่พร้อมกลับไปอยู่ในชุมชน จึงขอให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกันแก้ไขปัญหานี้เพื่อลดความเดือดร้อนให้แก่สังคม และกำชับกรณีที่ปรากฎเป็นข่าวจากผู้เสพ ขอให้ช่วยกันนำส่งบำบัดรักษาเพื่อให้บุคคลเหล่านั้นเป็นคนปกติอยู่ในสังคมได้ ไม่สร้างความเดือดร้อน แต่หากผู้ก่อเหตุไม่ได้มีสาเหตุมาจากการใช้ยาเสพติดขอให้แก้ไขข่าว เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดต่อไป"