xs
xsm
sm
md
lg

ยายวัย 72 ร้องถูกแก๊งปล่อยเงินกู้เตะตัดขา ตบหน้าเส้นเลือดตาแตก แจ้งความคดีไม่คืบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



สายไหมต้องรอด พายายวัย 72 ปี พบ ผบก.น.4 และ ผกก.สน.โชคชัย หลังถูกแก๊งปล่อยเงินกู้ ตามทวงหนี้เตะตัดขา และตบหน้าจนเส้นเลือดในตาแตก แจ้งความผ่านมาสัปดาห์แล้ว คดีไม่คืบหน้า

วันนี้ (27 ก.ค.) ที่ สน.โชคชัย นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอดพา นางสิริเพ็ญ โอภาสเที่ยงธรรม หรือยายเพ็ญ อายุ 72 ปี เข้าพบ พล.ต.ต.ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ ผบก.น.4 และ พ.ต.อ.เศรษฐพันธ์ ศรีสาคร ผกก.สน.โชคชัย เพื่อติดตามคดี หลังถูกเจ้าหนี้นอกระบบ ยกพวกรุมทำร้ายร่างกายด้วยการเตะตัดขาและตบที่ใบหน้าอย่างรุนแรงจน เส้นเลือดในตาแตก สาเหตุจากทวงเงินลูกหนี้ไม่ได้ โดยก่อนหน้านี้เคยมาแจ้งความแล้วผ่านไป 7 วัน คดียังไม่คืบหน้า

นางสิริเพ็ญ กล่าวว่า ตนเองรู้จักกับแก๊งเงินกู้รายนี้ประมาณเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา โดยเขามาหาคนกู้เงิน ซึ่งตนเองได้กู้ไปจำนวนเงิน 6,000 บาท ส่งวันละ 300 บาท จากนั้นเขาได้ให้เราไปหาคนมากู้เพิ่ม เพื่อแลกกับการที่ไม่ต้องหาคนมาค้ำเงินกู้ จากนั้นมีเพื่อนบ้านที่อยู่ห้องใกล้ๆ มากู้อีก 2 เจ้าโดยทางเจ้าหนี้ได้ให้ตนเองเป็นคนรวบรวมเงินจากลูกหนี้ที่เราหามาเพิ่ม ซึ่งในตอนนั้น ได้ถามกลับไปว่าทำไมตนเองต้องเป็นผู้รับผิดชอบในการรวบรวมเงินทั้งหมด เขาให้เหตุผลว่าจะได้โอนทีเดียว

จากนั้น เมื่อตนเองไปปิดยอดเก่าไปแล้ว ก็ได้ขอกู้ใหม่เป็นเงิน 10,000 บาท ผ่อนวันละ 500 บาทรวม 24 วัน ซึ่งถูกหักค่าเปิดบุ๊ค รวมดอกแรกเข้าไป 1,000 บาท ที่ผ่านมาตนเองและลูกหนี้รายอื่นๆไม่เคยขาดส่งเงินที่จะต้องจ่ายรายวันหรือแม้จะส่งไม่ครบแต่ก็ทบเพิ่มให้ในวันถัดไปตลอด ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา ปกติตนเองจะต้องรวบรวมเงินไปส่งให้เขาจำนวน 1,900 บาท เป็นยอดของตนเอง 1,000 บาท เป็นของน้องอีก 2 คน รวม 900 บาท แต่พอดีเก็บยอดส่งได้แต่ 1,200 บาท ยังเหลืออีก 700 บาท ทำให้เขาไม่พอใจ โทรไปด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย และตอนนั้นน้องได้โอนเงินมาให้แล้ว แต่ตนเองหลับจึงไม่ได้เปิดอ่าน ตื่นมาดูก็เห็นยอดเงินโอนเข้ามา จากนั้นตนเองก็โอนไปให้เขาทันที แต่ไม่ทันเขาไปต่อว่าน้องไปแล้ว แล้วตอนนั้นคิดว่าไม่มีอะไรแล้ว

กระทั่งช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. ของวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา แก๊งเงินกู้ จำนวน 4 คน ได้ขับรถเก๋งฮอนด้าแจ๊สสีขาวมาจอด ตอนนั้นจำได้ว่ามีเจ้าของเงิน นายอ๊อฟคนเก็บเงิน และลูกน้องอีกสองคน เดินเข้ามาถามหาน้องคนที่จ่ายเงินช้าเมื่อวาน ซึ่งในวันนี้ไม่ได้จ่ายเงิน ทำให้เขาต้องมาตามถึงที่ โดยให้ตนเองเป็นคนพาไปตาม แต่เขาไม่อยู่ ตอนนั้นตนเองยอมรับว่าได้ด่ากลุ่มแก๊งเงินกู้ไปว่า ดึกแล้วทำไมยังมาทวงอีก ไม่เกรงใจกันบ้างหรอ ตรงนี้อาจจะทำให้เขาไม่พอใจแล้วเข้ามาทำร้ายตนเอง ซึ่งจำได้ว่าคนที่ทำร้ายตัวเองคือนายอ๊อฟ และเจ้าของเงิน ส่วนอีก 2 คน ยืนคุมเชิง

โดยนายอ๊อฟ ได้เดินมาแล้วตบเข้าที่ใบหน้าหลายครั้ง ตนเองพยายามเดินหนี แต่นายอ๊อฟได้เดินตามไปก่อนจะเตะตัดขาเพื่อให้ล้ม จากนั้นได้หยุมหัวตนเองแล้วตบอีก ก่อนที่ลูกสาวจะออกมาตะโกนใส่ แก๊งเงินกู้จึงหยุด ตนจึงไปร้อง เพจสายไหมต้องรอด ให้มาช่วย และได้ไปแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สน.โชคชัย แต่ก็ยังไม่ได้ความคืบหน้าแต่อย่างใด และถ้าคนร้ายมาขอโทษตนก็จะไม่ให้อภัย และอยากจะขอค่ารักษาพยาบาลคืน ที่ต้องต้องไปรักษา ที่โดนคนร้ายทำร้ายทั้งหมด 2500 บาท

ด้านนายเอกภพ กล่าวว่า ปัญหาคือเรื่องนี้เป็นนโยบายของทางรัฐบาล ในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ห้ามให้เจ้าหนี้ใช้พฤติกรรมที่รุนแรงกับลูกหนี้ แต่เหตุการณ์นี้ ได้ไปแจ้งความตั้งแต่อาทิตย์ที่ผ่านมา แต่ทำไมยังไม่สามารถจับคนร้ายได้ โดยตำรวจอ้างว่า ทะเบียนรถที่คนร้ายใช้เป็นทะเบียนปลอม หน้าตาคนร้ายก็ไม่รู้จัก จึงไม่สามารถติดตามคนร้ายได้ตนมองว่า คำตอบนี้ ไม่น่าจะออกมาจากปากตำรวจผู้ที่เป็นผู้ช่วยเหลือประชาชน ทำให้ ป้า ผวา ใช้ชีวิตอยู่อย่างหวาดระแวงกลัวจะโดนทำร้ายอีกครั้ง

ทั้งนี้อยากจะฝากถึง พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ช่วยส่งชุดสืบสวนมือดี มาจัดการกับคนร้ายกลุ่มนี้ เพราะคนร้ายกลุ่มนี้ เยาะเย้ย กฎหมายมาก และหลักฐานการโอนเงิน ทำร้ายร่างกายก็มีทำไมไม่รีบจัดการ ยังไงตำรวจก็ต้องจัดการให้ได้ อย่าปล่อยให้คนร้ายลอยนวล เดี๋ยวเขาก็ไปทำพฤติกรรมแบบนี้กับคนอื่นอีก หวังว่า ผู้เสียหายจะได้รับความเป็นธรรม


กำลังโหลดความคิดเห็น