สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับ 17 หน่วยงานทางการศึกษา ทำ MOU การวิจัยและพัฒนานวัตกรรมทางเทคโนโลยี มุ่งเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมทางเทคโนโลยีขั้นสูง เพิ่มขีดความสามารถและพัฒนาศักยภาพบุคลากร เพื่อประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติ
วันนี้ (23 ก.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้การต้อนรับผู้แทนหน่วยงานทางการศึกษา 17 หน่วยงาน ในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เรื่องการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมทางเทคโนโลยี ณ ห้องประชุมแจ้งยอดสุข ศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรและสวัสดิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมี พล.ต.ท.ศิริพงษ์ ติมุลา ผู้บัญชาการสำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ , พล.ต.ท.อาคม ไตรพยัคฆ์ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการ สำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้แทนหน่วยงานทางการศึกษาทั้ง 17 หน่วยงาน ร่วมพิธี ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย , มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ , มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ , มหาวิทยาลัยมหิดล , มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ , มหาวิทยาลัยบูรพา , มหาวิทยาลัยนเรศวร , มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ , สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง , มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี , มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ , มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย , มหาวิทยาลัยรังสิต , มหาวิทยาลัยกรุงเทพ , สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย , สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ และสมาคมปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย ร่วมพิธี
การลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เรื่องการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมทางเทคโนโลยี ระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยสำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ร่วมกับหน่วยงานทางการศึกษา 17 หน่วยงาน เพื่อเป็นศูนย์กลางในการคิดค้น แลกเปลี่ยน นวัตกรรมทางเทคโนโลยีขั้นสูง อาทิ ระบบอัตโนมัติ (Automation) เทคโนโลยีหุ่นยนต์ (Robotics) ระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) รวมถึงการถ่ายทอดองค์ความรู้ทางด้านนวัตกรรมทางเทคโนโลยีให้แก่สมาชิก เพิ่มจำนวนคุณภาพบุคลากรวิจัยและนวัตกรรม , เพื่อผลิตและพัฒนาศักยภาพของบุคลากรวิจัยและนวัตกรรมของประเทศที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ให้เพียงพอทั้งภาคการผลิต บริการ สังคม และชุมชน เพื่อสนับสนุนการใช้ประโยชน์ของเครื่องมือและการจัดการทรัพยากรร่วมกันระหว่างสมาชิกทุกฝ่าย สร้างความเชื่อมโยง ประสานงานกับหน่วยงานหรือเครือข่ายที่มีลักษณะคล้ายกันทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งเพื่อรวบรวม จัดทำฐานข้อมูลนักวิจัยด้านนวัตกรรมทางเทคโนโลยีระหว่างสมาชิก
ผบ.ตร. กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีภารกิจสำคัญยิ่ง คือการปกป้อง เทิดทูน และพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมถึงการดูแลรับผิดชอบด้านการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งปัจจุบันสถิติการก่ออาชญากรรมด้านเทคโนโลยีมีแนวโน้มสูงขึ้น สร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นจำนวนมาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตระหนักถึงความสำคัญเกี่ยวกับการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมทางเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการคิดค้น แลกเปลี่ยน และพัฒนาศักยภาพของบุคลากรด้านการวิจัยและนวัตกรรมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการเชื่อมโยงกับหน่วยงานหรือเครือข่ายที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันทั้งในและต่างประเทศ ให้สอดคล้องกับนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการนำเทคโนโลยีมาสนับสนุนการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน และประเทศชาติต่อไป
ทั้งนี้ ภายในงานบริเวณห้องประชุมแจ้งยอดสุข หน่วยงานต่างๆ ได้มาออกบูทจัดแสดงผลงานทางด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีด้วย โดยในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีหน่วยงานที่มาจัดแสดง ได้แก่ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ,สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ ,ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 1 , โรงพยาบาลตำรวจ และโรงเรียนนายร้อยตำรวจ นอกจากนี้ ยังมีบูทจัดแสดงผลงานของ 17 สถาบันการศึกษา และในส่วนภาคเอกชนที่มาร่วมจัดแสดง ได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (AIS) , บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) (NT) , บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จํากัด (HUAWEI) , บริษัท ดิจิตอล ไดอาล็อก จำกัด (Digital Dialogue) , บริษัท ไอที กรีน จำกัด (มหาชน) (IT Green) และบริษัท ซัมซุง (ประเทศไทย) จำกัด (SAMSUNG)