หนุ่มเซ็งประมูลของแต่งรถมินิคูเปอร์จากญี่ปุ่น แต่โดนคนส่งของขโมย ร้องเรียนกับบริษัทแต่เรื่องเงียบ ไร้ความรับผิดชอบ ลั่นหากได้เงินค่าเสียหายคืน จะแบ่งให้โรงพักครึ่งนึง
วันที่ 18 ก.ค. 67 นายณพัศ เชื่อถือ อายุ 51 ปี อาชีพพนักงานบริษัทเอกชน เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.สงคราม บัวพันธุ์ สว.สอบสวน สภ.บางใหญ่ ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี จากกรณี วันที่ 8 ก.พ. 2567 เวลาประมาณ 13.40 น.ที่ร้านโกดังของเล่นโมเดล ของสะสม จากญี่ปุ่น สาขาตลาดพระปิ่น 3 นายณพัศ ได้เรียกใช้บริการของแอปพลิเคชัน ลาล่ามูฟ โดยมี นาย สรนันท์ บุญทอง เป็นผู้ให้บริการ
โดยให้ไปรับสินค้าที่ นายณพัศ สั่งมาจากโกดัง ของเล่นโมเดล ของสะสม จากญี่ปุ่น สาขาตลาดพระปิ่น 3 มีพัสดุจำนวน 21 ชิ้น นายสรนันท์ บุญทอง ได้นำพัสดุไปส่งให้ที่บ้านตรวจสอบพบว่า มีพัสดุหายไปจำนวน 3 ชิ้น คือ แปรงปัดฝุ่น ราคา 700 บาท, หัวเกียร์รถมินิคูเปอร์ ราคา 3,000 บาท และอาหารเสริม Nutrilite จำนวน 2 กล่อง ราคา 4,600 บาท จึงได้สอบถามกับ นายสรนันท์ และขอตรวจสอบภายในรถ ก็ไปพบกับแผ่นป้ายแพลทที่ใช้ตกแต่งรถมินิคูเปอร์ที่นายณพัศ สั่งซื้อมาอีกจำนวน 2 แผ่น ซ่อนอยู่ใต้เบาะด้านหน้าข้างคนขับในสภาพที่ถูกแกะออกจากซอง แต่ นายสรนันท์ บอกว่า ของมาแบบนี้อยู่แล้ว และปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนเอาไป หลังเกิดเรื่องได้มีการประสานไปยังบริษัทขนส่งดังกล่าว แต่ก็ไม่มีใครออกมารับผิดชอบ จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายณพัศ กล่าวว่า ตนได้ทำการสั่งของจากญี่ปุ่น ผ่านตัวแทนที่รับขนส่งจากญี่ปุ่นมาที่โกดังดังกล่าว พอสินค้ามาถึงเนื่องจากสินค้ามีปริมาณค่อนข้างเยอะ จึงได้เรียกใช้บริการรถขนส่งผ่านแอปพลิเคชันลาล่ามูฟ เพื่อให้มาส่งที่บ้านของตน แต่พอพนักงานนำของมาส่งแล้ว ปรากฏว่า ตอนแรกของมันหายไป 4 กล่อง ตนก็เลยสอบถามกับนายสรนันท์ ซึ่งเป็นคนที่มาส่งก็ไม่ได้รับคำตอบ จึงขอเปิดดูบริเวณหน้ารถ ก็ไปพบกับแผ่นแพลทแต่งรถมินิคูเปอร์ที่ตนสั่งมา จำนวน 2 แผ่น ซ่อนอยู่ใต้เบาะฝั่งซ้าย แต่นายสรนันท์ปฏิเสธ และบอกว่า ของมันมาแบบนี้
หลังเกิดเรื่องตนได้ไปขอดูกล่องวงจรปิดที่โกดังญี่ปุ่น ก็พบว่า ตอนแรก นายสรนันท์ (สวมเสื้อสีดำ กางเกงยีนส์ขายาว) ก็ขึ้นของปกติ แต่หลังจากขึ้นของเสร็จ นายสรนันท์ ได้เดินไปที่ฝั่งซ้ายของรถกระบะแล้วหยิบกล่องสินค้าโยนไปทางฝั่งด้านขวา หลังจากนั้น ก็เดินอ้อมหลังรถเพื่อไปหยิบกล่องสินค้าและเอาไปไว้ด้านหน้ารถ ตนสงสัยว่า ทำไมจะต้องเอาสินค้าไปไว้หน้ารถถ้าไม่เพื่อจะแกะของ หรือจะโยนสินค้าและเดินอ้อมไปอีกฝั่งทำไม หรือจะหลบมุมกล้องวงจรปิดที่โกดัง
นายณพัศ กล่าวอีกว่า หลังจากเกิดเรื่องตนได้ติดต่อไปยังบริษัทขนส่งแล้ว แต่ก็ไม่มีใครติดต่อกลับมา ทั้งยังได้ติดต่อกับนายสรนันท์ แต่ก็ถูกปฏิเสธ เหตุเกิดตั้งแต่เดือน ก.พ.แล้ว จนวันนี้ไม่มีความคืบหน้าใดๆ และไม่มีใครออกมารับผิดชอบ จึงตัดสินใจเดินทางเข้ามาแจ้งความกับพนักงานสอบสวนเพื่อให้ติดตามตัวนาย สรนันท์ มาดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนมูลค่าความเสียหาย ตนคิดว่าถ้าหากตนเสียเงินแค่พันกว่าบาทแล้วไม่ได้ของตนก็ไม่อยากติดใจเอาความอะไร
แต่กรณีนี้ มูลค่าความเสียหายประมาณ 9,000 บาท หากตนสามารถเรียกค่าเสียหายและค่าเสียเวลาได้ซัก 2 เท่าของจำนวนที่เสียหายไป ถ้าสามารถเรียกนชดเชยได้ซัก 18,000 บาท ตนจะขอเอาแค่ 9,000 บาทของตนคืน ส่วนที่เหลืออีก 9,000 บาท ตนจะมอบให้กับทางโรงพักเพื่อเป็นค่าบำรุงรักษาอุปกรณ์ต่างๆ