xs
xsm
sm
md
lg

จำคุก 5 ปี “แยม-ธมลพรรณ์” อดีตนักแสดงดัง-สามีโดนคุก 20 ปี ปมเปิดเว็บพนันและฟอกเงิน กว่า 7,000 ล.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


น.ส.ธมลพรรณ์ หรือ แยม อดีตนักแสดงดังถูกจับกุมพร้อมสามี
จำคุก 5 ปีแยม-ธมลพรรณ์” อดีตนักแสดงละครจักรๆ วงศ์ๆ ส่วน “ภูมิพัฒน์” สามี โดนคุก 20 ปี ปมเปิดเว็บพนันออนไลน์และฟอกเงิน ยึดทรัพย์ 700 ล้าน เงินหมุนเวียน 7,000 ล้าน ส่วนจำเลยอื่นรับโทษลดหลั่นไป ยกฟ้อง 1 คน หลบหนีระหว่างประกัน 2 คน

เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (18 ก.ค.) ที่ห้องพิจารณา 912 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีเว็บพนัน และฟอกเงินหมายเลขดำ อ.669/2566 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 5 เป็นโจทก์ฟ้อง นายเชษฐ์ชัย หงษ์ดา อายุ 38 ปี, นายภูมิพัฒน์ หรือ อั้ม ประเสริฐวิทย์ อายุ 42 ปี สามี น.ส.ธมลพรรณ์ หรือ แยม อดีตนักแสดงละครจักรๆ วงศ์ๆ, นางสุดใจ สนกรุด, นายนฤพล ชาวเพ็ชร, นายอาทิตย์ หรือ บัง อยู่ค่า, นายปกรณ์ เหลาไกร, น.ส.ธมลพรรณ์ ประเสริฐวิทย์ หรือ แยม อายุ 40 ปี อดีตนักแสดง, นายฐิติวัฒน์ สุริยพัฒน์, นายปิตุพงศ์ ยาวิราช, นายวรวุฒน์ พรรณสุวรรณ์, นายกิตติภพ มาน้อย, น.ส.พลอยณิศา สิงแก้ว เป็นจำเลยที่ 1-12 ตามลำดับ ในความผิดฐานร่วมกันเพื่อประสงค์แห่งการค้า ทำให้แพร่หลายโดยประการใดๆ ซึ่งรูปภาพ ภาพโฆษณา รูปถ่าย หรือสิ่งอื่นใดอันลามกฯ, ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อฯ โดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นพนันฯ, สมคบฯเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน

อัยการโจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2565 - 1 ก.ย. 2565 ต่อเนื่องกัน จำเลยที่ 1-8 กับพวกร่วมกันฟอกเงิน โดยการแบ่งหน้าที่กันทำ กับ นายภูวดล คชภูมิ พวกของจำเลย ซึ่งยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ลักษณะโอนเงินซึ่งเป็นทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิดฐานร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวน โดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นพนันในการเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ร่วมกันเข้าเล่นหรือร่วมเข้าพนันในการเล่นอันขัดต่อบทแห่งพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 อันเป็นความผิดมูลฐานตามความผิดเกี่ยวกับการเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยมีวงเงินในการกระทำความผิดรวมกันมีมูลค่าตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งเป็นความผิดเกี่ยวกับการพนันตามกฎหมายว่าด้วยการพนัน และเป็นการจัดให้มีการเล่นการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยโอนเงินจากบัญชีเงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ชื่อบัญชี พวกของจำเลย ซึ่งยังไม่ได้ตัวมาฟ้องไปยังบัญชีเงินฝากบัญชีเงินฝากธนาคารแห่งหนึ่ง ชื่อบัญชี นายปกรณ์ เหลาไกร ของจำเลยที่ 6 จำนวน 46 ครั้ง รวมเป็นเงินจำนวน 39.6 ล้านบาท อันเป็นการโอน รับโอนหรือเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด เพื่อซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สิน หรือเพื่ออำพรางลักษณะที่แท้จริง การได้มา แหล่งที่ตั้ง การจำหน่าย การโอน การได้สิทธิใดๆซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด อันเป็นการร่วมกันกระทำความผิดฐานฟอกเงินโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมายสมดังเจตนาของจำเลยทั้งแปดกับพวกตามที่ได้สมคบกันดังกล่าว


ต่อมาเมื่อระหว่างวันที่ 18 พ.ค. 2565 - 22 ก.ย. 2565 ต่อเนื่องกัน จำเลยที่ 1-8 กับพวกยังได้ร่วมกันฟอกเงิน โดยการแบ่งหน้าที่กันทำ ซึ่งจำเลยที่ 1ได้เบิกถอนเงินซึ่งเป็นทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิดฐานร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวน โดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นพนันในการเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ร่วมกันเข้าเล่นหรือร่วมเข้าพนันในการเล่นอันขัดต่อบทแห่งพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 อันเป็นความผิดมูลฐานตามความผิดเกี่ยวกับการเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันโดยไม่ได้รับอนุญาต จากบัญชีเงินฝากธนาคารชื่อ นายปกรณ์ เหลาไกร จำเลยที่ 6 จำนวน 25 ครั้ง รวมเป็นเงินจำนวน 350.4 ล้านบาทเศษ อันเป็นการโอน รับโอนหรือเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด เพื่อซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สิน หรือเพื่ออำพรางลักษณะที่แท้จริง

เหตุเกิดที่แขวงและเขตปทุมวัน กทม., แขวงอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กทม., ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร และที่อื่นเกี่ยวพันกัน

ขอให้ลงโทษตามจำเลยตาม พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4, 4 ทวิ, 5, 6 และ 12 พระราชบัญญัติการพนัน (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2485 มาตรา 3 พระราชบัญญัติการพนัน (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2504 มาตรา 3 และพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 5 ฯประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 ,83, 91 และ 287

ในวันนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัวจำเลยที่ 1-8 ซึ่งถูกคุมขังมาจากเรือนจำ ส่วนจำเลยที่ 9-12 ได้รับการประกันตัวในชั้นการพิจารณาของศาล แต่ปรากฎว่ามีเพียงจำเลยที่ 9-10 มาศาลตามนัด ส่วนจำเลยที่ 11-12 หลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษา


ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานที่ทั้งสองฝ่ายนำสืบหักล้างแล้ว พิพากษาว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 10 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 287 (1) ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 จำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 8 มีความผิดตาม พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4, 4ทวิ, 12(1)(2) พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 5(1) (2) (3), 9 วรรคสอง,60 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 จำเลยที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 ที่ 6 มีความผิดตามพ.ร.บ. การพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 12(1)(2) พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 5(1)(2)(3),9 วรรคสอง,60 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 86

จำเลยที่ 7 มีความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 5(1)(2)(3), 9 วรรคสอง,60 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83

การกระทำของจำเลยที่ 1, 3-6, 8 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 ฐานร่วมกันเพื่อความประสงค์แห่งการค้าหรือโดยการค้า ทำให้แพร่หลายโดยประการใดๆซึ่งรูปภาพ ภาพโฆษณา ภาพยนตร์ หรือสิ่งอื่นใดอันลามก จำคุกจำเลยที่ 1-2 คนละ 6 เดือน จำคุกจำเลยที่ 10 มีกำหนด 6 เดือนและปรับ 12,000 บาท ฐานร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่นพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ จำคุกจำเลยที่ 1-2 คนละ 3 เดือน ฐานร่วมกันเป็นเจ้ามือรับกิน รับใช้และฐานร่วมกันเป็นผู้เล่น เป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานร่วมกันเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดเพียงบทเดียว จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 3 เดือน ฐานร่วมกันช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่น จำคุกจำเลย ที่ 8 มีกำหนด 3 เดือน

ฐานสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และฐานร่วมกันฟอกเงิน เป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ซึ่งแต่ละบทมีอัตราโทษเท่ากัน ให้ลงโทษฐานร่วมกันฟอกเงินเพียงบทเดียว ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 จำคุกจำเลยที่ 1-2 ที่ 8 กระทงละ 5 ปี รวม 4 กระทง

จำคุก น.ส.ธมลพรรณ์ หรือ แยม จำเลยที่ 7 มีกำหนด 5 ปี ฐานสนับสนุนผู้จัดให้มีการเล่นพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์
จำคุกจำเลยที่ 3-6 คนละ 2 เดือน ฐานสนับสนุนการฟอกเงิน จำคุกจำเลยที่ 3-6 คนละ 3 ปี 4 เดือน

แต่ นายเชษฐ์ชัย จำเลยที่ 1 และ นายภูมิพัฒน์ หรือ อั้ม สามี น.ส.ธมลพรรณ์ หรือ แยม จำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพ ฐานร่วมกันเพื่อความประสงค์แห่งการค้าหรือโดยการค้า ทำให้แพร่หลายโดยประการใดๆ ซึ่งรูปภาพ ภาพโฆษณา ภาพยนตร์หรือสิ่งอื่นใดอันลามก เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ก่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุกจำเลยที่ 1-2 คนละ 3 เดือน คำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยที่ 1, 3-6, 8, 10 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กระทงละหนึ่งในสาม

ฐานร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่นพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ คงจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 2 เดือน ฐานร่วมกันฟอกเงิน คงจำคุกจำเลยที่ 1 กระทงละ 3 ปี 4 เดือน รวม 4 กระทง

ฐานสนับสนุนผู้จัดให้มีการเล่นพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ คงจำคุกจำเลยที่ 3-6 คนละ 40 วัน ฐานสนับสนุนการฟอกเงิน คงจำคุกจำเลยที่ 3-6 คนละ 2 ปี 2 เดือน 20 วัน ฐานร่วมกันช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่น คงจำคุกจำเลยที่ 8 มีกำหนด 2 เดือน ฐานร่วมกันฟอกเงิน คงจำคุกจำเลยที่ 8 กระทงละ 3 ปี 4 เดือน รวม 4 กระทง ฐานร่วมกันเพื่อประสงค์แห่งการค้าหรือโดยการค้า ทำให้แพร่หลายโดยประการใดๆ ซึ่งรูปภาพภาพโฆษณา ภาพยนตร์หรือสิ่งอื่นใดอันลามก คงจำคุกจำเลยที่ 10 มีกำหนด 4 เดือนและปรับ 8,000 บาท

รวมจำคุกนายเชษฐ์ชัย จำเลยที่ 1 มีกำหนด 12 ปี 21 เดือน จำคุกนายภูมิพัฒน์ หรืออั้ม สามี น.ส.ธมลพรรณ์ หรือ แยม จำเลยที่ 2 มีกำหนด 20 ปี 9 เดือน เมื่อรวมโทษทุกกระทงความผิดแล้วคงจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 20 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91(2) จำคุกจำเลยที่ 3-6 คนละ 2 ปี 4 เดือน จำคุกจำเลยที่ 8 มีกำหนด 12 ปี 18 เดือน

ส่วน นายวรวุฒน์ จำเลยที่ 10 ไม่ปรากฏว่าเคยรับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 หากจำเลยที่ 10 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 29,30 ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 9 คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก

ภายหลังศาลมีคำพิพากษา น.ส.ธมลพรรณ์ ประเสริฐวิทย์ หรือแยม จำเลยที่ 7 ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว พร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 250,000 บาท โดยศาลอาญาพิเคราะห์แล้ว เห็นควรส่งให้ศาลอุทธรณ์เป็นผู้พิจารณา ดังนั้นจำเลยที่ 1-8 จึงถูกส่งตัวไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ส่วนจำเลยผู้หญิงถูกส่งไปยังทัณฑสถานหญิงกลาง เพื่อรอฟังคำสั่งต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น