xs
xsm
sm
md
lg

กระสุนสังหาร พลิกชะตา "ทรัมป์" เส้นทางสู่ทำเนียบขาว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



รายการ “ถอนหมุดข่าว” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APPสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 วันอังคารที่ 16 กรกฎาคม 2567 นำเสนอรายงานพิเศษ กระสุนสังหาร พลิกชะตา "ทรัมป์" เส้นทางสู่ทำเนียบขาว



ยังคงเป็นเหตุการณ์ช็อคโลก จากกรณีนายโธมัส แมทธิว ครูก มือปืนวัย 20 ปี ชาวเพนซิลวาเนีย พยายามเหนี่ยวไกหมายสังหารนายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน ขณะปราศรัยหาเสียง เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ตามเวลาในประเทศไทย แต่กระสุนหลายนัดที่ยิงออกมาทำได้แค่เฉี่ยวใบหูของทรัมป์ ก่อนที่มือสังหารจะถูกทีมต่อต้านพลซุ่มยิง จากหน่วยซีเครทเซอร์วิส ที่ทำหน้าที่อารักขาอดีตประธานาธิบดีวิสามัญผู้ที่ปองร้ายทรัมป์ ชนิดไม่มีการจับเป็นเพื่อนำตัวมาสอบสวนขยายผลแต่อย่างใด

แม้ผู้นำทั่วโลกรวมทั้งนายกรัฐมนตรีของไทย จะแสดงความรู้สึกในทิศทางเดียวกันคือตกใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นก็คือ

นักวิเคราะห์ด้านการเมืองทั่วโลก ต่างมีความเห็นเหมือนๆ กันว่า การรอดชีวิต และปฏิกิริยาของทรัมป์ ที่เกิดขึ้นในวันนั้น ทำให้คะแนนนิยมในตัวอดีตประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ผู้นี้พุ่งสูงขึ้นยิ่งกว่าตอนที่เขาผ่านศึกเวทีดีเบตกับ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีคนปัจจุบันหลายเท่า

เพราะภาพขณะที่เจ้าหน้าที่อารักขาเข้ารุมล้อมเพื่อปกป้องอันตรายให้กับทรัมป์ ซึ่งกำลังชูกำปั้นขึ้น ทั้งที่ ใบหน้าอาบเลือด พร้อมกับร้องตะโกนซ้ำกัน 3 ครั้งว่า “ไฟท์ ไฟท์ ไฟท์” คือภาพที่ไม่เพียงแต่จะได้ใจกลุ่มผู้สนับสนุนเขาเท่านั้น แต่ยังติดตรึงอยู่ในความรู้สึกของคนทั้งโลกที่ได้เห็นว่า

ทรัมป์ไม่ได้แสดงอาการหวาดหวั่นเสียขวัญ ต่ออันตรายที่เกิดขึ้น และยังคงมุ่งมั่นที่จะยืนหยัดต่อสู้ โดยไม่หวั่นเกรงต่อภัยคุกคามเบิ่งหน้า ที่กำลังมุ่งมายังเขา

บรรดาคนดังทั้งดารา นักร้อง นักกีฬา หรืออภิมหาเศรษฐี ต่างออกมายกย่องในความกล้าหาญของทรัมป์ เช่น แรปเปอร์ชื่อดังอย่าง 50Cent ได้นำรูปของทรัมป์มาโชว์บนเวทีขณะเปิดการแสดงที่คลับ ในเมืองบอสตัน เพื่อยกย่องทรัมป์ ส่วนเจฟ บีซอส อภิมหาเศรษฐีเจ้าของบริษัทอะมาซอนได้ออกมาโพสต์ยกย่องทรัมป์ว่า “อดีตประธานาธิบดีของเราได้แสดงความกล้าหาญและความสง่างาม ท่ามกลางภยันตราย ให้เราเห็นเมื่อคืนนี้”

ขณะที่โคลบี้ โควิงตัน นักชกในเวทีMMA ได้โพสต์ว่า “ทรัมป์คือ ชายที่แข็งแกร่งที่สุดบนปฐพี” หลังจากเหตุการณ์เกิดขึ้น
สิ่งที่ทรัมป์ทำในวันนั้นคือ คุณสมบัติและจิตวิญญาณของบุคคลที่จะอยู่ในฐานะผู้นำประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่ได้ชื่อว่า เป็นอภิมหาอำนาจยักษ์ใหญ่หนึ่งเดียวของโลกอย่างสหรัฐอเมริกา ที่กำลังถูกท้าทายโดยสาธารณรัฐประชาชนจีน และสหพันธรัฐรัสเซีย อยู่ในปัจจุบัน

ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ หากย้อนไปดูประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา สิ่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้ก็คือ การถูกลอบทำร้าย หรือลอบโจมตี แทนที่จะทำให้อเมริกันชนอกสั่นขวัญกระเจิง กลับให้ผลไปในทางตรงกันข้าม เพราะมันช่วยปลุกจิตวิญญาณแห่งความรักชาติ ความสามัคคีของคนอเมริกันให้เป็นหนึ่งเดียว

ไม่ว่าจะเป็นในเหตุการณ์การถูกกองทัพญี่ปุ่นโจมตี ฐานทัพเรือเพิร์ลฮาร์เบอร์ ที่รัฐฮาวาย ในวันที่ 7 ธันวาคม 941 ได้ก่อให้เกิดปฏิกิริยาสะท้อนกลับไปยังจักรวรรดิญี่ปุ่นอย่างรุนแรง โดยไม่เพียงแต่ประธานาธิบดีรูสเวลส์ จะประกาศสงครามกับญี่ปุ่นในทันทีทันใดเท่านั้น แต่บรรดาอเมริกันชนที่เป็นชายฉกรรจ์ต่างอาสาสมัคร เข้ามารายงานตัวเป็นทหารในกองทัพ เพื่อแสดงเจตจำนงที่จะร่วมทำสงครามตอบโต้ญี่ปุ่น โดยไม่ต้องมีการรณรงค์เรียกร้องแต่อย่างใด

หรือจะเป็นเหตุการณ์วินาศกรรมเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001 หรือ 9/11 ซึ่งผู้ก่อการร้ายชาวอาหรับจี้เครื่องบินโดยสาร จำนวน 4 ลำ แล้วขับพุ่งชนตึกเวิร์ดเทรดเซ็นเตอร์ ที่ย่านแมนฮัตตัน ในนครนิวยอร์ก เหตุการณ์ครั้งนี้อีกเช่นกัน ที่ได้ปลุกจิตวิญาณแห่งความรักชาติและสมานสามัคคีขึ้นในหมู่อเมริกันชน ที่พากันแห่ไปสมัครเป็นทหารเพื่อเข้าร่วมในสงครามต่อต้านการก่อการร้าย รวมทั้งยังส่งผลให้ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช ได้ไปต่อในการเลือกตั้งสมัยที่ 2 แบบไม่ต้องออกแรง

ดังนั้น หากเทียบเคียงกับเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ และคุณลักษณะนิสัยประจำชาติของอเมริกันชน ก็เชื่อได้เลยว่า การลอบสังหารทรัมป์ที่ประสบความล้มเหลว ได้กลายเป็นตัวช่วยที่ไม่ต่างอะไรกับใบเบิกทาง ให้ อดีตประธานาธิบดีผู้นี้ กลับคืนสู่ทำเนียบขาวอย่างสะดวกยิ่งขึ้น แม้ว่าเขาจะมีคดีความติดตัวในเรื่องการติดสินบนดาราหนังผู้ใหญ่ไม่ให้เปิดเผยความสัมพันธ์เชิงชู้สาวของทั้งคู่ หรือคดีการเลี่ยงภาษีกองอยู่ในศาลก็ตาม

อย่างไรก็ดี แม้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่จะเชื่อเหมือนกันว่า ทรัมป์มีโอกาสเอาชนะไบเดน ได้ในการเลือกตั้งที่จะมาถึง แต่สำหรับ ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ ประธานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติคนใหม่ เจ้าของดีกรี ปริญญาเอกด้านเศรษฐศาสตร์จากสหรัฐอเมริกา กลับให้ทัศนะที่แตกต่างออกไป โดยระบุว่า

ทรัมป์ไม่น่าจะมีโอกาสได้กลับเข้าสู่ทำเนียบขาว โดยอาศัยเหตุการณ์ลอบสังหารเป็นตัวช่วยพร้อมกับชี้ให้เห็นเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์การเลือกตั้งของสหรัฐอเมริกาว่า ในบรรดาประธานาธิบดีทั้ง 46 คน ที่ผ่านมา มีคนเดียวเท่านั้น ที่เคยลงเลือกตั้งแพ้ในสมัยที่ 2 แล้วกลับมาชนะในการเลือกตั้งใหม่ ในสมัยที่ 3 คือ ประธานาธิบดีโกลเบิล คลีฟแลนด์ ซึ่งดำรงตำแหน่งครั้งแรกระหว่าง ปี 1885 – 1889 และได้กลับเข้ามาอีกครั้ง ในปี1893 - 1897

จึงต้องจับตาดูกันต่อไปว่า ช่วงเวลาที่เหลืออีก 3 เดือนเศษ คะแนนนิยมของคู่แข่งขันระหว่างโจไบเดน กับโดนัลด์ ทรัมป์ จะมีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด และผู้ชนะซึ่งจะมีเพียงหนึ่งเดียวจะเป็นใคร คนทั้งโลกจะได้รู้พร้อมๆกันในเดือนพฤศจิกายนนี้

--------------------------------
**หมายเหตุ
แอป Sondhi App ดาวโหลดได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore :https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play :https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android


กำลังโหลดความคิดเห็น