ข่าวลึกปมลับ : ‘กัญชา’ เร่งจุดเดือด ‘อนุทิน’ ไม่แคร์เพื่อไทย กร้าวพร้อมแตกหัก

“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APPสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูปNEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจNEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคม 2567 ตอน ‘กัญชา’ เร่งจุดเดือด ‘อนุทิน’ ไม่แคร์เพื่อไทย กร้าวพร้อมแตกหัก



หากจะมีอะไรสักเรื่องที่ทำให้รัฐบาลชุดนี้ไปกันต่อไม่ได้ นอกเหนือจากความล่าช้าไม่ทันการณ์ในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจแล้ว น่าจะเป็นเรื่องการให้กัญชากลับเป็นยาเสพติดของกระทรวงสาธารณสุขที่นำโดย 'สมศักดิ์ เทพสุทิน' รัฐมนตรีเจ้ากระทรวงจากพรรคเพื่อไทย

เดิมทีการเข้ามาบริหารกระทรวงสาธารณสุขของพรรคเพื่อไทย มีเป้าประสงค์ที่การยกระดับนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค และระบบหลักประกันสุขภาพ ทำให้ 'หมอชลน่าน' กลายเป็นตัวเลือกแรกของพรรคเพื่อไทยในการเข้ามาผลักดันนโยบายดังกล่าว พอบรรลุภารกิจจึงเกิดปรากฏการณ์เสร็จนาฆ่าโคทึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล

ก้าวต่อไปพรรคเพื่อไทยในการบริหารงานกระทรวงสาธารณสุขุ คือ การเล่นกับไฟด้วยการเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติด จึงไม่แปลกที่พรรคเพื่อไทยต้องเปลี่ยนตัวรัฐมนตรี โดยให้ 'สมศักดิ์' ที่มีพรรษาและความเขี้ยวทางการเมืองมากกว่าเข้ามาทำหน้าที่แทน

เพราะพรรคเพื่อไทยรู้ดีว่าการรบกับพรรคภูมิใจไทยครั้งนี้ น่าจะยืดเยื้อพอสมควร

การที่พรรคเพื่อไทยขยับเข้าไปแตะนโยบายกัญชาที่เป็นของพรรคภูมิใจไทยอยู่เดิมนั้น แน่นอนว่ามีเป้าหมายทางการเมืองเพื่อต้องการดิสเครดิตพรรคค่ายสีน้ำเงิน ด้วยการทำให้เห็นกัญชาอยู่ในสภาพกึ่งเสรีส่งผลเสียหายต่อสังคม เสมือนเป็นการโจมตีพรรคภูมิใจไทยทางอ้อม

ทว่าพรรคภูมิใจไทยก็รู้ถึงหมากเกมนี้ของพรรคเพื่อไทยไม่ต่างกัน แต่แทนที่จะออกมาโวยวายหรือเอาความเป็นพรรคร่วมรัฐบาลมาขู่พรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทยเลือกจะค่อยๆแสดงความไม่พอใจผ่านการอ้างความเดือดร้อนของประชาชนที่หวังว่าจะกลายเป็นเศรษฐีใหม่จากพืชกัญชา มาตอบโต้พรรคเพื่อไทยแทน

อย่างไรก็ตาม มาถึงจุดนี้เริ่มจะเห็นการรุกคืบของพรรคภูมิใจไทยไปอีกระดับ ไม่ว่าจะเป็นการแท๊กทีมแถลงข่าวส.ส.พรรคภูมิใจไทยที่คัดค้านการให้กัญชากลับบ้านเก่า แต่นั่นก็อาจยังไม่สร้างอิมแพคมาก

เท่ากับท่าทีล่าสุดที่ออกมาจาก 'อนุทิน ชาญวีรกูล' รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่ากระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม

"ถ้าปรับเปลี่ยนบ่อยๆ หรือปรับเปลี่ยนตามใจผู้บริหารใครจะมาลงทุน เรากำลังจะเร่งสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ วันหนึ่งหากปรับคณะรัฐมนตรีแล้ว พรรคภูมิใจไทยกลับไปดูกระทรวงสาธารณสุขอีก ผมต้องเอากัญชาออกมาจากยาเสพติด เพราะเป็นนโยบายเรือธงของพรรคภูมิใจไทย..." คำพูดชัดเจนตรงไปตรงมาของหัวหน้าค่ายสีน้ำเงิน

มาถึงจุดนี้ในมุมของพรรคภูมิใจไทยมองว่าไม่จำเป็นต้องหงอให้กับพรรคเพื่อไทย แม้จำนวนส.ส.จะเป็นรองพรรคเพื่อไทยครึ่งต่อครึ่งก็ตาม ในทางตรงข้ามพรรคภูมิใจไทยเริ่มมีบารมีมากพอที่จะท้าชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีกับพรรคเพื่อไทยด้วยซ้ำ

บางฝ่ายอาจเชื่อว่าพรรคภูมิใจไทยคงรอเป็นนายกฯในการเลือกตั้งครั้งหน้า แต่ ณ วินาที ราศีก็เริ่มจับมาที่ 'อนุทิน' เช่นกัน ในฐานะเป็นผู้นำฝ่ายอนุรักษ์นิยมใหม่ ประกอบกับพรรคเพื่อไทยเองก็ไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนในอดีต ซึ่งมีองค์ประกอบหลายอย่าง ทั้งคดี 112 ของนายใหญ่จันทร์ส่องหล้า ไปจนถึงความเป็นเอกภาพภายในพรรคที่เริ่มแสดงรอยร้าวมาจากความไม่พอใจที่มีต่อการบริหารพรรคของนายหญิง 'แพทองธาร ชินวัตร' หัวหน้าพรรค

ดังนั้น ถ้าถึงวันหนึ่งที่ 'เศรษฐา ทวีสิน' ต้องตกเก้าอี้นายกรัฐมนตรีจากคดีแต่งตั้งรัฐมนตรี ซึ่งจะต้องมีการเลือกนายกฯกันใหม่ในสภาผู้แทนราษฎร เวลานั้น ส.ส.ในพรรคเพื่อไทยบางส่วนที่ไม่พอใจก็อาจหวังให้พรรคภูมิใจไทยเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรแห่งใหม่ก็เป็นไปได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับพรรคภูมิใจไทยพร้อมจะลงทุนลงแรงและพร้อมจะหักกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่เท่านั้น

------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore :https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play :https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android