xs
xsm
sm
md
lg

รวบแม่ค้าออนไลน์ ตุ๋นขายสินค้าไม่ส่งของ พบเหยื่อกว่า 80 ราย เสียหายเกือบ 4 หมื่น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ตำรวจสืบสวนนครบาลจับแม่ค้าออนไลน์ วัย 28 ปี หลอกขายสินค้าผ่านเฟซบุ๊ก แต่ไม่ส่งของ พบเหยื่อกว่า 80 ราย เสียหายเกือบ 4 หมื่นบาท

วันนี้ (13 ก.ค.) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.นิวัฒน์ พึ่งอุทัยศรี รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท ณัฐวุฒิ สีเสมอ รอง ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.นิติกรณ์ ระวัง รอง ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.วุฒิพันธ์ ผะอบทอง สว.กก.สส.2 บก.สส.บช.น. พ.ต.ต.กิติพัฒน์ ใจอารีรอบ สว.กก.สส.2 บก.สส.บช.น. สั่งการให้ชุดเจ้าหน้าที่ กก.สส.2 บก.สส.บช.น. พร้อมชุดปฏิบัติการที่ 2 ร่วมกับนักเรียนอบรมหลักสูตร TOP G ดำเนินการ จับกุมนางสาวเนตรนภา หรือหญิง อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 319/2567 ลง 26 เมษายน 2567

ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน หรือเป็นผู้เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากบัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้องหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้เลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน ทั้งนี้โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดทางอาญาอื่นใด” สามารถจับกุมได้หน้าบ้านพัก ซอยศิริ 3 หมู่ 8 ต.โพนข่า อ.เมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ

โดยพฤติการณ์ ผู้ต้องหาได้ทำการลงประกาศขายสินค้าในแพล็ตฟอร์ม Facebook มาร์เก็ตเพลส ซึ่งคือเครื่องปั๊มนมในราคาประมาณ 3,000 บาท จากนั้น ผู้เสียหายจึงได้ติดต่อไปซื้อและได้ทำการโอนเงินไปที่บัญชีชื่อ นางสาวเนตรนภา เมื่อโอนเงินไปแล้วปรากฏว่า ผู้เสียหายไม่ได้รับสินค้าตามที่ได้ตกลงกับผู้ขาย และไม่สามารถติดต่อผู้ขายได้อีกจึงเชื่อได้ว่าถูกมิจฉาชีพหลอกลวงให้โอนเงินไปทำให้เกิดความเสียหาย จึงมาพบพนักงานสอบสวน สภ. คลองหลวง เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาจนกว่าคดีจะถึงที่สุด

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ตรวจสอบผ่านรับสารสนเทศตำรวจ และ www.blacklistseller.com พบผู้เสียหายในหลายพื้นที่กว่า 80 ราย โดยมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 37,000 บาท

โดยในชั้นจับกุมผู้ต้องหารับว่า ตนเป็นแม่ค้าขายของออนไลน์ สินค้าประเภทกิฟท์ช็อปและเครื่องประดับ โดยจะโพสต์ขายของตามเพจเฟซบุ๊คต่างๆ แต่ว่าตนไม่มีสินค้าอยู่กับตัว ถ้ามีลูกค้าสั่งสินค้า ตนก็จะสั่งของจากที่อื่นเพื่อส่งให้ภายหลัง แต่ก็ไม่ได้ส่งให้ทุกครั้ง เพราะบางครั้งก็จะเอาเงินมาใช้จ่ายส่วนตัวก่อน จากนั้นได้นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง ดำเนินการตามกฎหมาย

นอกจากนี้จากการตรวจสอบในระบบ ยังพบว่ามีหมายจับอีก 3 หมาย อาทิ 1) ศาลจังหวัดนครสวรรค์ ที่ จ.148/67 ลง 24 เม.ย.67 ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” 2) ศาลจังหวัดพิษณุโลก ที่ 297/64 ลง 4 พ.ย.64 ในข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” และ 3) ศาลอาญา ที่ 2824/2565 ลง 19 ธ.ค.65 “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ฝากเตือนภัยถึงการหลอกขายของออนไลน์ที่พบว่ามีสถิติเป็นอันดับ1ของภัยอออนไลน์ ซึ่งขอให้ประชาชนใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก อย่าเห็นแก่ของถูก มีสติ เพราะมิจฉาชีพที่เข้ามาหาทุกรูปแบบ ทุกช่องทาง กับสินค้าและการบริการที่นับวันมีความใกล้ตัวมากขึ้นทุกวัน ควรพิจารณาเลือกซื้อสินค้าและบริการจากแหล่ง ข้อมูลข่าวสารที่เชื่อถือและสามารถจับต้องสินค้าได้จริงเท่านั้น




กำลังโหลดความคิดเห็น