xs
xsm
sm
md
lg

รมว.ยธ. นั่งหัวโต๊ะเร่งรัดปราบยาเสพติด 3 เดือน แบบเข้มข้นทั่วประเทศ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง นำทัพประชุม ครส. ครั้ง 2 เผยสถานการณ์ความรุนแรง การแพร่ระบาดยาเสพติดทั่วประเทศ ช่วง 3 เดือนในภาพรวมลดลง

วันนี้ (11 ก.ค.) ณ ห้องประชุมกระทรวงยุติธรรม 10-01 ชั้น 10 อาคารกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการติดตาม เร่งรัดการดำเนินงานป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ครั้งที่ 2/2567 โดยมี นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุรีย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี , น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกรัฐบาล , พล.ท.ธงชัย รอดย้อย รองเสนาฯ ทบ. , พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. , พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว รอง ผบช.ปส. , นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัด มท. , นพ.กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ รองปลัด สธ. , แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์ , นายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย คณะกรรมการฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุมฯ

พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ต้องการลดความเดือดร้อนของประชาชน และเป็นห่วงใยในสถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติดในปัจจุบัน การประชุมในวันนี้จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันบูรณาการเพื่อป้องกัน แก้ไข ปราบปรามยาเสพติด โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนนี้ (1 มิ.ย. – 31 ส.ค.67) แบบเข้มข้นเน้นในระดับชุมชน หมู่บ้านเพิ่มมากขึ้น จึงได้มีข้อสั่งการให้ตรวจสอบทุกพื้นที่ ค้นหาหาผู้เสพผู้ค้าในชุมชน โดยเฉพาะที่อายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป และนำ “ร้อยเอ็ดโมเดล” หรือโมเดล “ท่าวังผา” ของจังหวัดน่าน มาขยายผลแก้ปัญหายาเสพติด

พ.ต.อ.ทวี กล่าวอีกว่า จากสถานการณ์ยาเสพติดในปัจจุบันพบว่าการขนส่งยาเข้าสู่พื้นที่ภาคใต้มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นจึงอยากให้หน่วยงานรับผิดชอบช่วยกวดขัน สกัดกั้นตลอดเส้นทางที่เป็นการลำเลียงยาเสพติด ตั้งแต่บริเวณชายแดนภาคเหนือ ที่เป็นแหล่งผลิต โดยเฉพาะพื้นที่ที่เป็นรอยต่อระหว่างพื้นที่ภาคเหนือและภาคใต้ และในเร็วๆ นี้ ตนจะเจรจาหารือกับทางจีนให้ช่วยเรื่องของการสกัดกั้น ควบคุมสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ร่วมด้วย

พ.ต.อ.ทวี กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังเน้นย้ำเรื่องการนำผู้เสพเข้าสู่กระบวนการบำบัด ทั้งผู้ที่ศาลสั่งคุมความประพฤติในคดีเสพสารเสพติดกว่า 1 แสนคน และผู้กระทำผิดฐานยาเสพติดที่ถูกคุมขังในเรือนจำโดยที่ยังไม่ได้รับการบำบัด เพื่อลดอัตราการกระทำผิดซ้ำ ที่ปัจจุบันมีมากถึงร้อยละ 61 และพบว่าผู้ที่อยู่ในเรือนจำติดยาเสพติด จำนวน 229,320 คน ในจำนวนนี้ 77% มีการศึกษาต่ำกว่าขั้นพื้นฐานที่รัฐบาลให้เรียนฟรี โดยขอให้กระทรวงศึกษาธิการตรวจสอบนักเรียนที่หลุดออกจากระบบการศึกษา เพื่อลดจำนวนแนวโน้มผู้เสพยาเสพติด

"ทั้งนี้ กระทรวงยุติธรรมอยากจะเพิ่มโอกาสให้แก่ผู้ต้องขัง เตรียมเรือนจำปรับเปลี่ยนเป็นสถานฟื้นฟูสมรรถภาพ เพื่อยกระดับเป็นศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมต่อไป จะช่วยลดการกระทำผิดซ้ำทางสังคมของผู้ต้องขัง โดยขอความร่วมมือจากหน่วยงานสาธารณสุข ตำรวจ ทหาร ป.ป.ส." รมว.ยุติธรรม กล่าว

ด้าน นายแพทย์พรหมินทร์ เผยว่า ประชาชนมีความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดยาเสพติดในระดับหมู่บ้าน ชุมชน ครอบครัว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งทำงานด้านการบำบัด เพิ่มมาตรฐานการดูแลประชาชนให้มากขึ้น ใช้ MAPPING ค้นหารายบ้านทุกอำเภอ โดยที่ประชุมได้สรุปสถานการณ์ปัญหายาเสพติด และสรุปผลการดำเนินงานปฏิบัติการเร่งรัดการดำเนินงานป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ระยะเร่งด่วน 3 เดือน ในพื้นที่ 25 จังหวัดเร่งด่วน ดังนี้

1. ด้านการปราบปรามนักค้าและเครือข่ายยาเสพติด ผลการดำเนินการภาพรวมประสบผลสำเร็จมากกว่า 70% , 2. การบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด สามารถนำผู้เสพเข้ารับการบำบัดได้มากกว่า 90% , 3. การนำผู้เสพในระบบคุมประพฤติเข้าสู่กระบวนการบำบัด ดำเนินการไปแล้วกว่า 84% , 4. การดำเนินงานของศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคม จัดตั้งไปแล้วกว่า 2,348 แห่ง , 5. การจัดระเบียบทางสังคมและการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ในสถานบันเทิง สถานบริการ สถานศึกษา ดำเนินการไปแล้วกว่า 90% และ 6. สรุปผลการดำเนินงานตามตัวชี้วัดภาพรวมปฏิบัติการเร่งรัดการดำเนินงานป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ระยะเร่งด่วน 3 เดือน (1 มิ.ย. – 31 ส.ค.67) มีจำนวน 5 จังหวัดแรกที่ได้คะแนนตัวชี้วัดภาพรวมมากที่สุด คือ มหาสารคาม ขอนแก่น ชลบุรี สงขลา และสตูล

ขณะที่ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า สถานการณ์ปัญหายาเสพติดในปัจจุบัน มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากความสำเร็จของการบูรณาการทำงานร่วมกันของภาคีทุกภาคส่วน ทั้ง 4 เสาหลักในระดับพื้นที่ ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด รวมถึงนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด และผู้บริหารหน่วยงานท้องถิ่นใน 25 จังหวัด ที่ร่วมกันขับเคลื่อนข้อสั่งการของรัฐบาลอย่างจริงจัง และประชาชนเข้ามามีบทบาท ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในการเฝ้าระวังและแจ้งเบาะแส สะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเป็นรูปธรรม








กำลังโหลดความคิดเห็น