ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอดพาผู้ปกครอง ด.ช.วัย 14 ปี แจ้งความตำรวจ สน.มีนบุรี เอาผิดรุ่นพี่หลังบังคับให้ดื่มน้ำกระท่อม-ฉีดยาเคเข้าเส้นเลือดจนเสียชีวิต ด้านพ่อยืนยันจะดำเนินคดีถึงที่สุด
วันนี้ (11 ก.ค.) ที่สน.มีนบุรี นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด นำ นายเสกสรรค์ พลเสน อายุ 48 ปี นางปลิดา อาจหาญ อายุ 44 ปี บิดาและอาของ ด.ช.อัครวัฒน์ พลเสน อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา สุวินทวงศ์ ที่เสียชีวิตจากการถูกรุ่นพี่ชักชวนให้ดื่มน้ำกระท่อม และฉีดเคตามีนชนิดน้ำเข้าสู่เส้นเลือด ทำให้มีอาการช็อคและเสียชีวิต แพทย์ระบุสาเหตุการตายว่า ระบบไหลเวียนโลหิตและระบบการหายใจล้มเหลว เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 ก.ค. ที่ผ่านมา เข้าพบ พ.ต.อ.กฤษ ก้อมน้อย ผกก.สน.มีนบุรี เพื่อให้ดำเนินคดีกับรุ่นพี่ที่ชักชวนให้ ด.ช.อัครวัฒน์ เสพยาเสพติด
นางปลิดา อาผู้เสียชีวิต กล่าวว่า เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา ประมาณช่วง 18.00 น. ด.ช.อัครวัฒน์หลานชายบอกว่าจะออกไปกินหมูกระทะกับเพื่อน จนกระทั่ง ประมาณ 21.00 น. ได้มีรุ่นพี่คนหนึ่งมาส่ง ด.ช.อัครวัฒน์ ที่บ้าน หลานเดินเข้าบ้านตามปกติ และตนก็ให้ปิดประตูรั้วบ้านและอาการตอนนั้นน้องดูเพลีย ก่อนจะผล็อยหลับไป เช้าวันต่อมาพบว่า ด.ช.อัครวัฒน์ นอนน้ำลายฟูมปาก มีเลือดออกจมูก ตัวแข็งแล้ว ไม่มีชีพจรแล้ว จึงรีบโทรหาเจ้าหน้าที่กู้ภัย
จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยและตำรวจ สน. มีนบุรี ได้ส่งศพไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ โดยผลชันสูตรเบื้องต้นออกว่า ระบบไหลเวียนโลหิตและการหายใจล้มเหลว ขณะที่ผลตรวจสารยาเสพติดในร่างกายต้องรอเวลาอีกประมาณ 1 เดือน หลังเกิดเหตุตนจึงมาร้องขอความช่วยเหลือกับเพจสายไหมต้องรอด ยืนยันว่า หลานไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดมาก่อน โดยในมือถือของหลานชายมีการติดต่อกับรุ่นพี่ที่เป็นคนดูแลทีมนักฟุตบอล มีการสอบถามเกี่ยวกับเรื่องการดื่มน้ำกระท่อมเท่านั้น อยากให้ทางตำรวจติดตามคนที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นมาสอบสวนว่า เกิดอะไรขึ้น
ด้านนายเสกสรรค์ บิดาของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า หลังเกิดเรื่องรุ่นพี่คนหนึ่งได้โทรศัพท์มาขอโทษกับตนแล้ว และอ้างว่าไม่ได้ตั้งใจที่จะให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นจึงถามกลับไปว่า จะไม่ได้ตั้งใจได้อย่างไร รู้อยู่แล้วว่ายาเสพติดเป็นสิ่งไม่ดี อย่าเพิ่งพูดอะไรอีกเลย ตอนนี้ขอทำใจก่อน และยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ด้าน นายเอกภพ เปิดเผยว่า ตอนแรกรุ่นพี่ยังปากแข็ง อ้างเพียงว่าให้ดื่มแค่น้ำกระท่อม แต่เมื่อเย็นเมื่อวันที่10 กรกฎาคม ) รุ่นพี่ได้รับสารภาพในรายการโทรทัศน์ช่องนึ่ง ว่า ได้ฉีดเคตามีนชนิดน้ำให้ วันนี้ตนและทีมงานจึงพาผู้ปกครองของ ผู้เสียชีวิตเข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีในข้อหาฆ่าคนตาย และข้อหาอื่นๆ ที่เข้าข่ายกระทำความผิด
ขณะที่ พ.ต.อ.กฤษ กล่าวว่า หลังพนักงานสอบสวนรับแจ้งความแล้วจะติดตามตัวกลุ่มรุ่นพี่ที่ผู้เสียชีวิตไปรวมตัวเสพยาเสพติดเพื่อนำมาสอบสวน ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างไร มีการบังคับหรือเป็นความสมัครใจ ทั้งนี้การกระทำความผิดยังไม่เข้าข่ายเรื่องฆ่าผู้อื่น แต่จะเข้าในส่วนของการกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย อย่างไรก็ตามพนักงานสอบสวนจะเร่งติดตามตัวผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์มาสอบสวน หากพบว่าใครมีความผิดจะดำเนินคดีต่อไป