น้องสาว และญาติ พร้อมเพื่อนร่วมงานเดินทางมา นิติเวชฯ รพ.วชิรพยาบาล รับศพอดีตแม่บ้านรัฐสภาถูกแฟนหนุ่มทหารเกณฑ์แทงเสียชีวิต เตรียมนำไปประกอบพิธีที่ภูมิลำเนาบ้านเกิด
วันนี้ (10 ก.ค.) น.ส.ดาริกา อายุ 29 ปี น้องสาว น.ส.เขมฤทัย หรืแแอ๋ม อายุ 30 ปี อดีตแม่บ้านอาคารรัฐสภาที่ถูกนายสุนัย ทาแน่น อายุ 24 ปี ชาว จ.เพชรบูรณ์ ทหารกองประจำการ ผลัดที่ 2/64 สังกัด ม.3 พัน.18 และปฏิบัติราชการสนามชายแดน จ.เชียงราย แฟนหนุ่มใช้อาวุธมีดแทงเสียชีวิตภายในห้องพักอพาร์ทเม้นท์ ย่านบางกระบือ กทม. ก่อจะมาพบศพเมื่อวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่าน เดินทางมารับศพพี่สาวที่ภาควิชานิติเวชศาสตร์ รพ.วชิรพยาบาล หลังจากไปติดต่อขอรับเอกสารกับทางพนักงานสอบสวน สน.สามเสน
นอกจากนี้ยังมีญาติๆ และเพื่อนร่วมงานของผู้เสียชีวิต ร่วมเดินทางมาด้วย เพื่อเตรียมนำร่างกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดบ้านโพนไฮ ต.หนองแคน อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ท่ามกลางบรรยากาศความโศกเศร้า
ด้านเพื่อนร่วมงาน เปิดเผยว่าผู้เสียชีวิตมาทำงานเป็นแม่บ้านที่รัฐสภาได้ประมาณสองปีแล้วที่ผ่านมาก็รู้ว่าพูดคุยและคบหากับคนก่อเหตุ ที่เป็นทหารเนื่องจากตนมักจะเห็นน้องวิดีโอคอลคุยกับผู้ก่อเหตุบ่อยครั้งผู้เสียชีวิตเคยเล่าให้ฟังว่าผู้ก่อเหตุเป็นคนหึงหวงหนักมากถึงขั้นมีการเชื่อมแอคเคาท์เฟซบุ๊กและไลน์ไว้ในโทรศัพท์ผู้ก่อเหตุ เพราะคิดไปเองว่าผู้เสียชีวิตจะไปคุยกับผู้ชายคนอื่น จากนั้นเมื่อต้นเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมาผู้เสียชีวิตมาบอกว่า จะลาออกโดยเหตุผลเนื่องจากแม่จะไปทำงานต่างจังหวัดและไม่มีใครดูแลลูกและจะกลับบ้านไปดูแลลูกถ้าทุกอย่างลงตัว ผู้เสียชีวิตบอกว่าจะกลับมาทำงานที่นี่อีกส่วนตัวคิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับทางแฟนหนุ่มที่ทำให้ผู้เสียชีวิตต้องลาออกโดยวันสุดท้ายเพื่อนที่ทำงานทุกคนเห็นก็คือวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่ผู้เสียชีวิตมาทำงานจากนั้นก็ไม่มีใครติดต่อหาอีกเลย
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา มีแชทไลน์ของแอ๋มทักมาหาเพื่อนที่ทำงานว่า ”แอ๋มจะไม่อยู่นะ แอ๋มจะเข้าป่า โทรศัพท์จะเอาไว้กับผัว จะติดต่อแอ๋มไม่ได้” ซึ่งพอเพื่อนทุกคนรู้เรื่องนี้ก็ไม่มีใครเชื่อ เนื่องจากทั้งเฟซบุ๊ก และไลน์ของแอ๋ม ทางนายสุนัย เชื่อมเข้าโทรศัพท์ไว้จึงคิดว่าน่าจะเป็นนายสุนัย ที่ทักมาหาเพื่อนแบบนี้ส่วนเหตุผลที่ก่อเหตุฆ่าแอ๋มคาดว่ามาจากเรื่องหึงหวง
ด้านน้องสาวผู้เสียชีวิต เปิดเผยอีกครั้งหลังรับร่างพี่สาว ว่า หลังจากที่เห็นหน้าพี่สาวก็บอกว่าให้กลับไปอยู่บ้านด้วยกันและบอกว่าจับคนร้ายได้แล้วแม้ว่าตนจะยังไม่เห็นหน้าคนร้ายอยากฝากขอบคุณทางสื่อมวลชนที่ช่วยนำเสนอข่าวจนตำรวจติดตามจับคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เร่งดำเนินการจนจับคนร้ายได้ และขอขอบคุณผู้ใจบุญที่สนับสนุนช่วยเป็นค่าเดินทางในการเคลื่อนย้ายร่างพี่สาวกลับไปยังภูมิลำเนาบ้านเกิด ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตเบื้องต้นแพทย์ระบุในใบมรณะบัตรว่าหัวใจฉีกขาดจากบาดแผลถูกแทงบริเวณหน้าอก ทั้งนี้ทางครอบครัวจะมีการจัดพิธีสวดอภิธรรมเป็นเวลา 1 วัน ก่อนจะฌาปนกิจในวันที่ 11 ก.ค.นี้
ขณะที่ พ.ต.อ.นิพนธ์ นิธิการุณย์เลิศ ผกก.สน.สามเสน เปิดเผยความคืบหน้าคดีว่า หลังจากแจ้งข้อกล่าวหานายสุนัย ให้รับทราบตามหมายจับแล้วซักถามปากคำเบื้องต้นนายสุนัย ให้การรับสารภาพเป็นผู้ลงมือก่อเหตุอ้างว่าเพราะความหึงหวงจึงเกิดการบันดาลโทสะและใช้มีดที่อยู่ภายในห้องแทงส่วนรายละเอียดต้องนำตัวมาสอบปากคำอีกครั้ง โดยการสอบปากคำจะต้องมีนายทหารพระธรรมนูญ ร่วมสอบปากคำด้วยตามสิทธิผู้ต้องหาเบื้องต้นอยู่ระหว่างนำตัวกลับมาที่ สน.สามเสน เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมแต่ไม่ทราบเวลาแน่ชัดว่าจะมาถึงเวลาใด