ข่าวลึกปมลับ : 'วุฒิสภา' รบกันเอง คนเก่าไม่อยากไป คนใหม่ยังมาไม่ได้

“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APPสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันอังคารที่ 9 กรกฎาคม 2567 ตอน 'วุฒิสภา' รบกันเอง คนเก่าไม่อยากไป คนใหม่ยังมาไม่ได้



กลายเป็นวิวาทะเดือดที่โต้กันไปมาระหว่างวุฒิสภาชุดปัจจุบันกับว่าที่วุฒิสภาชุดใหม่ที่ผ่านการเลือกไขว้แต่ยังไม่ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการเลือกตั้ง หรือ กกต. ภายหลังต่างฝ่ายอ้างอำนาจตามกฎหมายและมารยาททางการเมือเข้าสาดใส่กัน

เริ่มมาจากการที่ 'พรเพชร วิชิตชลชัย' ประธานวุฒิสภาชุดปัจจุบันได้นัดประชุมวุฒิสภา ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ถึงความเหมาะสม เนื่องจากกกต.ได้ดำเนินการจัดการเลือกส.ว.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงแต่ขั้นตอนการรับรองเท่านั้น ทำให้ฝ่ายว่าที่ส.ว.แสดงอาการไม่พอใจและเรียกหาถึงมารยาททางการเมืองจากส.ว.ที่เป็นมรดกของคสช.

ทุกอย่างเป็นไปตามคาดเมื่อส.ว.ชุดที่อยู่ในรัฐสภา อ้างกติกาตามรัฐธรรมนูญที่ยังให้ทำหน้าที่ต่อไปได้จนกว่าจะมีส.ว.ชุดใหม่เข้ามาทำหน้าที่อย่างเป็นทางการ ซึ่งหมายถึงผ่านการรับรองจากกกต. แต่ไม่เพียงแค่นั้น เพราะเรื่องนี้มาเดือดขึ้นไปอีกระดับเมื่อวุฒิสภาได้มีมติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาตรวจสอบการเลือกส.ว. ตามที่นายสมชาย แสวงการ ส.ว.เป็นผู้เสนอ

ตลอดการอภิปรายของส.ว.เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม ก็อาศัยพื้นที่นี้แสดงออกกันอย่างเต็มที่ ทั้งการโจมตีการทำงานของกกต. รวมไปถึงการตำหนิท่าทีของว่าที่ส.ว. ยิ่งไปกว่านั้นส.ว.บางคนถึงพูดกันกลางสภาว่าอาจได้เจอกับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือสนช.อีกครั้ง ซึ่งเป็นการสื่อความหมายว่าอาจมีการรัฐประหารและตั้งสนช.กันในอนาคต

เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น พูดกันอย่างแฟร์ๆต้องบอกเสียมารยาทไม่ต่างกัน อย่างฝ่ายว่าที่ส.ว.ก็แสดงออกไม่ถูกที่ถูกเวลา แทนที่จะไปกดดันกกต.ให้เร่งรับรอง กลับเลือกที่จะมาเปิดศึกกับวุฒิสภาชุดปัจจุบัน ในเรื่องที่วุฒิสภายังมีสิทธิและหน้าที่ในการนัดประชุมได้ตามรัฐธรรมนูญ

ขณะที่ วุฒิสภาชุดนี้ก็เลือกที่จะทิ้งทวนไม่สวยด้วยการแสดงออกถึงการไร้มารยาทไม่ต่างกัน แม้ว่าจะมีอำนาจในการนัดประชุมวุฒิสภา แต่โดยสามัญสำนึกขั้นพื้นฐานแล้วก็ควรตระหนักว่ากำลังจะมีส.ว.ชุดใหม่แล้ว

ภารกิจใดๆที่ไม่ได้เป็นเรื่องเร่งด่วนที่รัฐธรรมนูญกำหนดกรอบเวลาให้เร่งดำเนินการ ก็ควรต้องหยุดเอาไว้

แต่นอกจากจะทำตัวไม่เป็นส.ว.รุ่นพี่ที่ดีแล้ว ยังกลับทำหน้าที่ล้ำเส้นอีกผ่านการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญดังกล่าว เนื่องจากมีความล่อแหลมต่อการขัดกับรัฐธรรมนูญเป็นอย่างมาก

กล่าวคือ มาตรา 129 ของรัฐธรรมนูญ ถึงจะบัญญัติให้อำนาจวุฒิสภาตั้งคณะกรรมาธิการววิสามัญได้ เพื่อพิจารณาสอบหาข้อเท็จจริงหรือศึกษาเรื่องใดๆ และรายงานให้สภาทราบตามระยะเวลาที่สภากําหนด แต่อีกมุมหนึ่งของมาตรานี้ก็กำหนดขอบเขตการทำงานเอาไว้ชัดเจนเช่นกัน

"คณะกรรมาธิการตามวรรคหนึ่ง (คณะกรรมาธิการสามัญและวิสามัญ) มีอํานาจเรียกเอกสารจากบุคคลใด หรือเรียกบุคคลใดมาแถลงข้อเท็จจริงหรือแสดงความเห็นในกิจการที่กระทําหรือในเรื่องที่พิจารณาสอบหาข้อเท็จจริงหรือศึกษาอยู่นั้นได้ แต่การเรียกเช่นว่านั้นมิให้ใช้บังคับแก่ผู้พิพากษาหรือตุลาการที่ปฏิบัติตามหน้าที่หรือใช้อํานาจในกระบวนวิธีพิจารณาพิพากษาอรรถคดี หรือการบริหารงานบุคคลของแต่ละศาล

และมิให้ใช้บังคับแก่ผู้ดํารงตําแหน่งในองค์กรอิสระในส่วนที่เกี่ยวกับการปฏิบัติตามหน้าที่และอํานาจโดยตรงในแต่ละองค์กรตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญหรือตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ แล้วแต่กรณี" นี่เป็นเนื้อหาของรัฐธรรมนูญ มาตรา 129

ถ้าคนอ่านมาตรานี้แล้วใจไม่มืดบอดจนเกินไป ก็คงพอจะเข้าใจว่าคณะกรรมาธิการวิสามัญที่เพิ่งตั้งขึ้น คงทำได้เพียงเชิญผู้แทนกกต.มาให้ข้อมูลในเชิงหลักการเท่านั้น โดยจะสอดไปเกี่ยวข้องในเรื่องการพิจารณารับรองส.ว.ของกกต.ไม่ได้อย่างเด็ดขาด

บางทีการปฏิรูปการเมืองที่ล้มเหลวจนถึงทุกวันนี้ เป็นเพราะมีแต่คนจำพวกว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเองกันเต็มสภา

------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore :https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play :https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android