ตำรวจสืบสวนนครบาลจับกุม “ติ๊ก นาวา” แฝงตัวเป็นคนขับรถให้ซีอีโอหนุ่มสื่อโฆษณาชื่อดัง ก่อนวางเพลิงคฤหาสน์หรูย่านอุดมสุข ขโมยภาพโบราณอายุกว่า 100 ปี มรดกตกทอดตระกูลดัง
วันนี้ (9 ก.ค.) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.1 บก
.สส.บช.น. พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.3 บก.สส.บช.น. ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น รอง สว.กก.4 บก.สส.บช.น. ร.ต.อ.วรภัทร แสงเทียนประไพร รอง สว.สส.2 บก.สส.บช.น. ปฏิบัติงาน ศอ.ปส.ตร. ร.ต.อ.หญิง ณิชญากาญจน์ เปสลาพันธ์ รอง สว.ฝอ บก.สส.บช.น. ร.ต.ท.ณัฐวุฒิ อ้นชูฤทธิ์ รอง สว.สอบสวน สน.ดินแดง และเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายนาวา หรือ ไดรเวอร์ติ๊ก อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง โดยกล่าวหาว่า ลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุมหรือรับของโจร
โดยพฤติการณ์กล่าวคือ “พระบรมฉายาลักษณ์” พร้อมลายพระปรมาภิไธยโบราณ อายุ 120 ปี จำนวน 4 ภาพ อันเป็นมรดกตกทอดของ “ตระกูลดัง” ของเก่าสุดล้ำค่าที่ไม่อาจประเมินมูลค่าได้ ถูกเก็บเอาไว้อย่างดีภายในคฤหาสน์หรูย่านอุดมสุขของ ซีอีโอหนุ่มสื่อโฆษณาชื่อดัง แม้ว่าสมบัติล้ำค่าดังกล่าวจะถูกเก็บในที่ที่มีระบบความปลอดภัยที่หนาแน่นเพียงใด แต่ก็ยังเป็นที่หมายปองของ“ติ๊ก นาวา” โจรที่แฝงตัวเขามาในตระกูลพร้อมด้วยแผนปฏิบัติการสุดแยบยล
โดยย้อนกลับไปตั้งแต่ปลายปี 65 นายนาวา หรือติ๊ก ได้สมัครงานเข้ามาเป็นพนักงานขับรถให้กับซีอีโอหนุ่มดังกล่าว แรกเริ่มเป็นเพียงคนขับรถธรรมดามิได้มีสิทธิพิเศษเข้านอกออกในคฤหาสน์หรูได้ แต่ด้วยด้วยทักษะความสามารถพิเศษใช้เวลาเพียงปีเศษ ทลายกำแพงความไว้ใจจากคนในบ้านจนสามารถเข้านอกออกในคฤหาสน์ได้ทุกพื้นที่ภายในบ้าน สายตาที่คอยสอดส่องดั่งหมาเฝ้าบ้านอันแสนจะเป็นที่ถูกอกถูกใจเจ้านาย แท้จริงกลับเป็นการสอดส่องสิ่งของมีค่าในคฤหาสน์หรู กระทั่งคนร้ายได้พบกับสมบัติล้ำค่าดังกล่าวที่ถูกเก็บไว้อย่างดีที่บริเวณคฤหาสน์
กระทั่งเมื่อวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 14.00 น. จู่ๆก็เกิดเหตุเพลิงไหม้ในคฤหาสน์อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ต้นเพลิงมาจากห้องควบคุมไฟฟ้าทำให้ระบบไฟฟ้าและกล้องวงจรปิดไม่ทำงาน ผู้คนภายในบ้านชุลมุนวุ่นวายหนีเอาชีวิตรอดออก คนร้ายไร้ความตื่นตระหนกเข้าประกบเจ้านายทำทีห่วงใยก่อนจะพาออกจากคฤหาสน์จนหมด คนร้ายช่วงชิงสถานการณ์อลหม่านตรงดิ่งไปฉกเอาสมบัติล้ำค่าจำนวน 4 ภาพ ยกขึ้นรถตรงดิ่งไปยังตลาดมืดทันที และที่แสบทรวงคือคนร้ายยังกลับมาทำงานอย่างปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลังเพลิงสงบลง ซีอีโอหนุ่มตรวจสอบทรัพย์สินในคฤหาสน์ก็พบว่าสมบัติอันล้ำค่าหายไปทำเอาหน้าถอดสี จนต้องขึ้นโรงพักแจ้งความดำเนินคดี แรกเริ่มเหมือนจะจับมือใครดมไม่ได้ คดีมีท่าทีจะจบลงแบบไม่รู้ตัว
กระทั่ง พล.ต.ต.ธีรเดช พบเบาะแสจากตลาดมืดว่า มีพ่อค้าของสะสมในพื้นที่ ชลบุรี นครปฐม และนนทบุรี รับซื้อของล้ำค่าดังกล่าวไว้ในราคาทั้งหมด 100,000 บาท ซึ่งต่อมาพนักงานสอบสวน สน.บางนา จึงออกหมายจับคนร้ายรายนี้ได้ในที่สุด ซึ่งพล.ต.ต.ธีรเดช ได้นำกำลังชุดสืบนครบาล บุกไปจับกุมตัว นายนาวา หรือติ๊ก โดยจับกุมที่กลางถนนปทุมวัน ซึ่งในขณะจับกุมคนร้ายยังคงทำงานเป็นคนขับรถให้ซีอีโอหนุ่มอยู่เสมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น สร้างความตกใจกับซีอีโอหนุ่มเป็นอย่างยิ่ง หลังจับกุมตัวได้นำส่งพนักงานสอบสวน สน.บางนา เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย
ในชั้นจับกุม ผู้ถูกจับให้การรับสารภาพว่าได้ลักทรัพย์ของผู้เสียหาย ซึ่งเป็นพระบรมฉายาลักษณ์ พร้อมลายพระปรมาภิไธยโบราณ อายุกว่า 100 ปี ของผู้เสียหายไปจริง โดยนำภาพถ่ายพระบรมฉายาลักษณ์ไปจำหน่ายยังร้านค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้ง 4 รูป มูลค่ารวมกว่า 100,000 บาท แต่ที่แท้จริงแล้ว ทรัพย์ดังกล่าวของผู้เสียหายเป็นทรัพย์ที่ได้รับการตกทอดมรดกจากรุ่นสู่รุ่น กว่า 100 ปี ซึ่งมูลค่าความเสียหายนั้น ไม่สามารถประเมินราคาได้ เนื่องจากเป็นทรัพย์สินที่หายากและมีมูลค่าแก่ทางจิตใจของครอบครัวและตระกูลของผู้เสียหายเป็นอย่างมาก
จากการตรวจสอบพบประวัติต้องโทษคดีอาญาจำนวนสองคดีดังนี้ 1. ข้อหาเป็นเจ้ามือ หรือ จัดให้มีการเล่นพนัน สภ.สำโรงเหนือ เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2558 และ 2. ข้อหาฝ่าฝืนข้อกำหนด ห้ามออกจากเคหสถานในเวลาที่กำหนด, ข้อหาขับรถในขณะเมาสุราหรือของมึนเมาอย่างอื่น สภ.สำโรงเหนือ 18 ก.ย.2564
ด้านพล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า ถือเป็นการเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนทั่วไป ผู้ซึ่งกำลังมองหาบุคลากรที่จะเข้ามาทำงานใกล้ตัวหรือในบ้านของตนเอง การคัดเลือกบุคลากรที่มีประสบการณ์นั้นถือเป็นเรื่องที่ต้องพิถีพิถันมาก แต่เหนือสิ่งอื่นใดแล้วนั้น การเลือกบุคลากรที่มีความน่าไว้ใจและซื่อสัตย์สุจริต นั้นถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากกว่า เช่นนั้นอาจเป็นเช่นคดีนี้ ซึ่งนายนาวา ประกอบอาชีพขับรถผู้บริหารมาโดยตลอดแต่มักจะเปลี่ยนที่ทำงานบ่อยและเลือกสมัครงานในบริษัทที่ตนจะได้เป็นที่ไว้เนื้อเชื่อใจของเจ้านาย จึงน่าเชื่อได้ว่าไม่ได้ทำหรือก่อเหตุเช่นนี้แค่เพียงคดีนี้คดีเดียว แต่อาจมีผู้เสียหายรายอื่นที่เคยตกเป็นเหยื่ออีกจำนวนมาก ดังนั้นผมจึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนว่าหากมีผู้ใดเคยตกเป็นเหยื่อของผู้ต้องหารายนี้ โปรดแจ้งข้อมูลมาที่เพจ สืบนครบาล IDMB