ผกก.สน.สายไหม เผยแจ้ง 4 ข้อหา คนขับ BMW พุ่งชนรถ 6 คัน บาดเจ็บ 9 ราย บนถนนสุขาภิบาล 5 ด้านผู้ก่อเหตุยืนยันไม่รู้ตัว เหตุเครยดเพราะนอนน้อยแค่วันละ 4 ชั่วโมง เจอญาติผู้เสียหายขอดทษตั้งแต่เมื่อตืนแล้ว พร้อมจะดูแลเยียวยาทุกคนเต็มที่
จากกรณีเกิดเหตุการณ์ชายขับรถยนต์ ยี่ห้อ บีเอ็มดับเบิ้ลยู สีขาว ทะเบียนกรุงเทพฯ ชนคู่กรณีทั้งรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ จำนวน 6 คัน รวมถึงมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 9 ราย เหตุเกิดบนถนนสุขาภิบาล 5 แขวงและเขตสายไหม กทม. ช่วงหัวค่ำเมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (5 ก.ค.) ที่สน.สายไหม พ.ต.อ.รังสรรค์ สอนสิงห์ ผกก.สน.สายไหม เปิดเผยความคืบหน้าว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำ เบื้องต้นผู้ก่อเหตุอ้างว่า มีอาการวูบ มีโรคความดัน โดยหลังจากกลับจากทำงานได้แวะบ้านแม่ก่อนที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ก่อนจะออกไปบ้านพักอีกหมู่บ้านหนึ่งซึ่งอยู่ห่างกัน 2 กิโลเมตร ส่วนการตรวจสอบสารเสพติดและแอลกอฮอล์ไม่พบ แต่จะส่งตัวไปตรวจที่โรงพยาบาลภูมิพลซ้ำอีกครั้ง
ทั้งนี้ จะแจ้ง 4 ข้อหา ขับรถโดยประมาทเฉี่ยวชนรถผู้อื่นเสียหาย มีผู้ได้รับอันตรายแก่กาย ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส และขับรถเฉี่ยวชนแล้วหนี เมื่อแจ้งข้อกล่าวหาเสร็จสิ้น พนักงานสอบสวนจะอนุญาตให้ประกันตัว เนื่องจากว่ามีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง สามารถติดต่อได้
ด้านนายธรรศ (สงวนนามสกุล) ผู้ก่อเหตุกล่าวยอมรับว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ตนมีอาการเครียดและนอนน้อย เนื่องจากได้นอนเพียงวันละ 4 ชั่วโมง จึงทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย ประกอบกับมีอาการท้องเสีย จึงได้แวะเข้าห้องน้ำที่บ้านแม่ จากนั้นเมื่อขับรถออกจากบ้านแม่เพื่อกลับบ้านของตัวเองซึ่งอยู่ห่างไปประมาณ 2 กิโลเมตร ขณะเดินทางออกจากบ้านแม่ เกิดอาการวูบ ไม่มีสติ กว่าจะรู้ตัวอีกทีว่าขับรถชนผู้อื่นตอนที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยมาเจอ ตรงจุดสุดท้ายบริเวณถนนสุขาภิบาล 5 ซอย 73
ทั้งนี้ ยืนยันตนเองไม่รู้ตัวว่า ได้ขับรถชนผู้อื่นและรถยนต์คันอื่น ถึง 4 จุด รวมถึงได้ขับรถพุ่งชนไม้กันหน้าหมู่บ้านแม่อีก 1 จุด รวมเป็น 5 จุด โดยก่อนหน้านี้ตัวเองไม่เคยมีอาการแบบนี้มาก่อนซึ่งนี่เป็นครั้งแรก ตนพร้อมจะดูแลและเยียวยาผู้เสียหายทุกคนอย่างเต็มที่ หลังเกิดเหตุตัวเองได้เจอกับญาติผู้เสียหายและยกมือไหว้ขอโทษตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว
ด้าน แฟนสาวของผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า แฟนของตนมีโรคประจำตัวแค่โรคความดัน และที่ผ่านมาแฟนทำงานหนักมาก ต้องคอยประสานงานกับลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศ ซึ่งมีช่วงเวลาที่แตกต่างกัน ถ้าลูกค้าเรียกประชุมก็ต้องประชุมด่วน จึงทำให้แฟนของตนมีอาการอ่อนเพลีย
โดยที่ผ่านมาตนเคยเตือนด้วยความเป็นห่วงแล้ว แต่แฟนของตนก็ยืนยันว่าไม่เป็นไร ยังทำงานไหว ยืนยันว่า แฟนของตนจะเยียวยาชดใช้ผู้เสียหายทุกคนอย่างเต็มที่ ดังนั้นขอให้ผู้เสียหายและญาติสบายใจได้
