xs
xsm
sm
md
lg

เปิดปฏิบัติการปิดล้อมค้นชุมชนหัวสะพานแดง ทลายแหล่งแพร่ระบาดยานรก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ผู้ช่วย ผบ.ตร.แถลงปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นชุมชนหัวสะพานแดง ย่านบางกอกใหญ่ กวาดล้างแหล่งแพร่ระบาดยาเสพติด

วันนี้ (27 มิ.ย.) ที่กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (บก.สปพ.) พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะรอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รองผบช.น. พล.ต.ต.วรวิทย์ ญาณจินดา ผบก.สปพ. ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติการระดมกวาดล้างปิดล้อมตรวจค้นชุมชนแพร่ระบาดยาเสพติด โดย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผบก.รน. นำกำลังกว่า 30 นาย บูรณาการร่วมกันปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายตามหมายค้นศาลอาญาธนบุรีที่ 247/2567 ลง 26 มิ.ย.2567 บ้านเลขที่ 324/1 ซอยริมคลองบางกอกใหญ่ แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร ภายในชุมชุนหัวสะพานแดง ซอยอิสรภาพ 21 แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร จับกุม น.ส.วรารัตน์ ชมบุญเรือง อายุ 23 ปี นางวิไลรัตน์ ชมบุญเรือง อายุ 64 ปี และ น.ส.นุชนาฎ กิจเจริญ อายุ 46 ปี กล่าวหาว่า “ร่วมกันมีไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยผิดกฎหมายและเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยผิดกฎหมาย” พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินและของกลางยาบ้า 81 เม็ด ยาไอซ์ 16.42 กรัม (น้ำหนักรวมถุง) อุปกรณ์ที่ใช้เสพยาเสพติด 10 ชุด โทรศัพท์มือถือที่ใช้ในการติดต่อซื้อขายยาเสพติด 11 เครื่อง แท็บเล็ต 1 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคารต่างๆ 4 เล่ม และเงินสดจำนวนหนึ่ง

จากนั้น พล.ต.ต.ธีรเดช นำกำลังจับกุมผู้เสพซึ่งมั่วสุมภายในบ้านหลังดังกล่าว นายฤทธิ์พล ทัพไชย อายุ 43 ปี นายวิสวัท ถิ่นจีนวงษ์ อายุ 38 ปี และ น.ส.นิภาพร ไตรณรงค์ อายุ 36 ปี โดยกล่าวหาว่า “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยผิดกฎหมาย” ตรวจสอบผู้ต้องหาพบประวัติบุคคลต้องโทษ นางวิไลรัตน์ เคยต้องโทษในความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ เมื่อปี พ.ศ.2565 ในพื้นที่ สน.บางกอกใหญ่ นายฤทธิ์พล เคยต้องโทษในความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ เมื่อปี พ.ศ.2552 ในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี นายวิสวัท เคยต้องโทษในความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ เมื่อปี พ.ศ. 2565 ในพื้นที่ จ.นครปฐม และ น.ส.นุชนาฏ เคยต้องโทษในความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ เมื่อปี พ.ศ.2563 ในพื้นที่ สน.บางกอกใหญ่

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ชุมชนหัวสะพานแดง บริเวณริมน้ำท้ายชุมชนมักเป็นแหล่งมั่วสุมของกลุ่มวัยรุ่นและบุคคลภายนอกเสพยาเสพติด อีกทั้งเป็นจุดแหล่งจำหน่ายและพักอาศัยของ “เจ้ ซิง หัวสะพานแดง” สาวสองเอเยนต์รายสำคัญในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่ง “เจ้ ซิง” จะนั่งจำหน่ายบริเวณหน้าร้านริมน้ำตลอดทั้งกลางวันกลางคืน แบบไม่เกรงกลัวกฎหมาย ที่ผ่านมาตำรวจเข้าจับกุมหลายครั้งแต่รอดพ้นจากจับกุมได้ เนื่องจากเป็นจุดริมน้ำห่างจากถนนจึงยากต่อการเข้าถึงเพื่อจับกุม จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและวางแผนเข้าทำการปิดล้อมตรวจค้นในครั้งนี้โดยร่วมบูรณาการกับกองบังคับการตำรวจน้ำ (บก.รน.) สนับสนุนเรือตรวจการณ์จนปิดล้อมตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางได้จำนวนมาก

ทั้งนี้ จากการขยายผลพบว่า นอกจากนายพงษ์ศักดิ์ ชมบุญเรือง หรือ “เจ้ ซิง” ระหว่างหลบหนี แล้วบุคคลในครอบครัวและผู้พักอาศัยพบประวัติการต้องโทษคดียาเสพติดและคดีอาญาอื่นๆ อีกทั้งมีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดกันทั้งบ้าน ซึ่งถือว่าเป็นการกวาดล้างแหล่งมั่วสุมและแพร่ระบาดยาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ย่านบางกอกใหญ่ได้อย่างเกิดรูปธรรมและมีประสิทธิภาพ จากการสอบถามผู้ถูกจับให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงควบคุมตัวผู้ถูกจับพร้อมของกลางในคดี นำส่งพนักงานสอบสวน สน.บางกอกใหญ่ ดำเนินคดี

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า การปฏิบัติการในครั้งนี้ เป็นนโยบายสำคัญและเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหายาเสพติด และปราบปรามองค์กร ขบวนการผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ให้หมดไปอย่างจริงจัง โดยใช้มาตรการการปราบปรามอาชญากรรมองค์กรเครือข่ายยาเสพติดอย่างเข้มงวดเชิงรุกทุกรูปแบบ ซึ่งนับว่าเป็นบ่อเกิดอาชญากรรมอื่นๆ ที่จะตามมา อันสร้างความเดือดร้อนและสร้างความเสียหายต่อสังคมในรูปแบบต่างๆ เป็นวงกว้าง สอดคล้องตามนโยบายสำคัญของรัฐบาล

นอกจากนี้ พล.ต.ท.สำราญ ยังแถลงถึงภาพรวมการปิดล้อมตรวจค้น 1,049 เครือข่าย 2,876 เป้าหมายว่า เนื่องจากวันนี้มีการปล่อยแถวระดมปิดล้อมตรวจค้นยาเสพติด ในส่วนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) โดยผลงานส่วนหนึ่งสืบเนื่องจากการขยายผลจับกุมผู้ต้องหาเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา จับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่รอยต่อเขตหนองจอก กับจังหวัดฉะเชิงเทรา ตรวจยึดยาบ้า 8,838,000 เม็ด ไอซ์ 500 กิโลกรัม เฮโรอีน 400 แท่น เคตามีน 198 กิโลกรัม ผู้ต้องหา 5 รายที่มีการส่งยาเสพติดซุกซ่อนไปกับกล่องพัสดุซึ่งส่งให้กับเครือข่ายไปพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 2 และ 3 จังหวัดชายแดนในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 9 และปล่อยแถวปิดล้อมตรวจค้นพร้อมกันตั้งแต่เวลา 05.00 น.ที่ผ่านมา ตรวจยึดยาบ้ารวมของ บก.สปพ.12 ล้านเม็ด ยาไอซ์ 762 กก.อาวุธปืน 282 กระบอก

โดยในส่วนกองบังคับการตำรวจนครบาล 1-9 และ บก.สส.บช.น. ปิดล้อมตรวจค้น 52 เครือข่าย 249 เป้าหมาย จับกุมทุกข้อหาในคดีต่างๆ 324 คดี ผู้ต้องหา 329 คน จับกุมข้อหาไม่ร้ายเเรง 191 คดี ผู้ต้องหา 194 คน ข้อหาร้ายเเรง 133 คดี ผู้ต้องหา 135 คน ของกลางยาบ้า 15,709 เม็ด ยาไอซ์ 5.267 กก. เคตามีน 0.172 กก. เฮโรอีน 0.538 กก. ยาอี 45,537 เม็ด อาวุธปืน 17 กระบอก กระสุนปืน 248 นัด โทรศัพท์มือถือ 17 เครื่อง และสมุดบัญชี 4 เล่ม ตรวจยึดเงินสด 9,950 บาท กระเป๋าแบรนด์เนม 9 ใบ รถยนต์ 6 คัน รถจักรยานยนต์ 2 คัน และทรัพย์สินอื่นๆ รวมมูลค่าทรัพย์สิน 3.6 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม จากปฏิบัติการดังกล่าวทั้งหมดพบมีการตรวจยึดอาวุธปืนเป็นจำนวนมาก ทางนายกรัฐมนตรีเกิดข้อกังวลและห่วงใยสั่งการให้ลงมาหรือไม่ พล.ต.ท.สำราญ ระบุว่า ทางนายกฯมีความห่วงใยและสอบภามมาว่ามีมาตรการในการป้องกัน ซึ่งรายงานไปว่าส่วนหนึ่งในการปิดล้อมตรวจค้นในครั้งนี้หากเป็นจุดหลัก หรือเป้าหมายสำคัญจะมีหน่วยปฏิบัติการพิเศษของ บช.น.และตำรวจภูธรภาค เข้าร่วมปฏิบัติการด้วย โดยทางนายกฯมีความห่วยใยและเน้นย้ำให้ใช้ความระมัดระวัง และไม่ประมาท ซึ่งการดำเนินการปิดล้อม ตรวจค้นในลักษณะนี้จะไม่ได้มีเพียงแค่วันนี้วันเดียว แต่เจ้าหน้าที่ถูกหน่วยที่เกี่ยวข้องจะมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องโดยมีเป้าหมายที่ชี้วัดการปฏิบัติซึ่งก็คือความพึงพอใจของประชาชน เนื่องจากยาเสพติดเป็นต้นตอของปัญหาอาชญากรรมต่างๆ










กำลังโหลดความคิดเห็น