“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APPสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูปNEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจNEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันพุธที่ 26 มิถุนายน 2567 ตอน 'เพื่อไทย-พปชร.' นานวันยิ่งร้าวฉาน รักไม่ลง...ทิ้งกันไม่ได้
ภาพภายนอกของแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลที่สื่อออกภายนอกที่ดูเหมือนว่ามีความสมานสามัคคีนั้นบางทีอาจมีความกระอักกระอ่วนถอนใจซ่อนกันอยู่ โดยเฉพาะภายใต้ความสัมพันธ์ที่สลับซับซ่อนเงื่อนเพื่อนทรยศระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคพลังประชารัฐ
ความง่อนแง่นของสองพรรคนี้ ถ้าให้ท้าวความกันจริงๆ ไม่ได้เพิ่งเริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่การโหวตเลือก 'เศรษฐา ทวีสิน'นายกรัฐมนตรีเมื่อปีที่แล้วที่พรรคพลังประชารัฐไม่ได้ตบเท้ายกมือให้กันอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งเป็นการแสดงถึงการเสียมารยาททางการเมืองอย่างร้ายแรงในพรรคร่วมรัฐบาล
ที่มีจุดเริ่มต้นจากความแค้นส่วนตัวของ 'ทักษิณ ชินวัตร' อดีตนายกรัฐมนตรี และ 'บิ๊กป้อม' พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ทั้งๆที่พลเอกประวิตร ได้เป็นผู้บัญชาทหารบก ก็เพราะแรงสนับสนุนจากทักษิณที่เป็นนายกฯในเวลานั้น แต่นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์รัฐประหาร 2549 เรื่อยมาจนถึงการรัฐประหาร 2557 สองผู้ยิ่งใหญ่ก็กลายศัตรูกันโดยปริยยาย
ครั้งหนึ่งทักษิณเคยจัดรายการออนไลน์ยอมรับว่าการตั้งพลเอกประวิตรเป็นผู้บัญชาการทหารบก เป็นความผิดพลาดครั้งสำคัญ ขณะที่ พลเอกประวิตร ก็ไม่เคยตอบโต้ผ่านสื่อเลยแม้แต่น้อย
แต่อย่างที่ทราบพลเอกประวิตรเป็นคนพูดน้อยต่อยหนัก โดยเครือข่ายทางการเมืองที่วางไว้ในเกือบทุกกลไกของประเทศ ก็เล่นเอาคนในพรรคเพื่อไทยและคนแวดล้อมทักษิณอยู่ไม่สุข
เมื่อทั้งสองผู้ยิ่งใหญ่ต้องมาร่วมรัฐบาลกันภายใต้เงื่อนไขทางการเมืองอย่างไม่เต็มใจ ทำให้ศึกภายในรัฐบาลก็ระอุไม่แพ้กับศึกนอกที่ต้องรบกับพรรคก้าวไกลเช่นกัน รอยร้าวที่ปริอยู่แล้วมาแตกหักชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อกลุ่ม 40 ส.ว.เข้าชื่อยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรีของ 'เศรษฐา' จากกรณีแต่งตั้ง 'พิชิต ชื่นบาน' ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ด้วยข้อหาร้ายแรงถึงขนาดว่าไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตและกระทำการขัดต่อมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง
'ทักษิณ' มองว่าความร้าวฉานที่เกิดขึ้นมาจากคนในป่า ถึงจะไม่ได้บอกว่าเป็นใคร แต่ในทางการเมืองก็ถือว่าเป็นอันรู้กันเป็นอย่างดี จึงไม่แปลกที่ตลอดระยะเวลามานี้จะเริ่มมีข่าวออกมาว่าอาจมีการปรับคณะรัฐมนตรีอีกครั้งด้วยการเขี่ยพรรคพลังประชารัฐพ้นจากรัฐบาล เพื่อตัดความรำคาญออกไป
มองไปที่พรรคพลังประชารัฐเองก็ไม่ได้เป็นเนื้อเดียวกัน แต่ก็ยังไม่มีใครกล้าแตกหักกับเจ้านายอย่าง 'บิ๊กป้อม' เพราะรู้ดีว่าบิ๊กป้อมไม่ได้มากด้วยอายุเพียงอย่างเดียวแต่ยังเต็มเปี่ยมด้วยบารมีและคอนเนคชั่นที่อยู่เบื้องหลังนั้นยังมีอีกมหาศาล
ซึ่งแม้แต่พรรคเพื่อไทยเองก็รู้ถึงพลังทางการเมืองที่อยู่เบื้องหลังเป็นอย่างดี มิเช่นนั้น 'ทักษิณ' คงไม่มีคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ติดตัวอย่างทุกวันนี้
ดังนั้น ถ้าจะให้สรุปความสัมพันธ์ระหว่าง 'เพื่อไทย-พลังประชารัฐ' ก็คงต้องทนอยู่กันไปจนสุดทาง ประมาณว่าจะรักก็ไม่ได้ จะทิ้งกันก็ทำไม่ลง และการยุบสภาเพื่อจบความสัมพันธ์กันตรงนี้ ไม่ได้เป็นผลดีกับทุกฝ่าย
เพราะเป็นการเขี่ยลูกเข้าเท้าพรรคก้าวไกลที่พร้อมจะช่วงชิงความเป็นใหญ่อีกครั้ง
------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore :https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play :https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android