xs
xsm
sm
md
lg

ก.ตร.ชี้ชัด! คำสั่งให้ออก “บิ๊กโจ๊ก” ชอบด้วยกฎหมาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี
ก.ตร.มีมติเห็นชอบคำสั่งให้ออก บิ๊กโจ๊ก” ชอบด้วยกฎหมาย ตาม อนุฯ ก.ตร.วินัย เสนอ ชี้ให้รอ ก.พ.ค.ตร.วินิจฉัย

วันนี้ (26 มิ.ย.) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางมาเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.ครั้งที่ 5/2567 โดยมีวาระการประชุมที่น่าจับตาการพิจารณาลงมติว่าคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ออกจากราชการไว้ก่อน ที่ลงนามโดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ขณะดำรงตำแหน่งรักษาราชการแทน ผบ.ตร.ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ หลังคณะอนุกรรมการข้าราชการตำรวจเกี่ยวกับดำเนินการทางวินัย หรือ อนุฯ ก.ตร.วินัย มีมติเสียงส่วนใหญ่ว่า คำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อน ชอบด้วยกฎหมาย


โดยก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางถึง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วยรอง ผบ.ตร. มารอต้อนรับบริเวณประตูทางเข้า โดยทุกคนมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส และทักทายสื่อมวลชนอย่างอารมณ์ดี โดยเฉพาะ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. ได้พูดคุยกับสื่อมวลชนด้วยท่าทียิ้มแย้ม อารมณ์ดีส่งมินิฮาร์ทให้ และได้สอบถามสื่อฯอากาศบริเวณห้องโถงเย็นดีแล้วหรือไม่ ตนมาเช็คให้สื่อมวลชนทุกวัน อากาศตรงนี้เย็นแล้วแต่ข้างบนร้อน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตรงนี้เย็นแล้วอากาศข้างบนเป็นอย่างไร หนาวหรือร้อน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ยิ้มพร้อมกล่าวว่า อบอุ่น

อย่างไรก็ตาม ทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางถึง ได้รับไหว้และทักทายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่มารอต้อนรับ โดยเฉพาะเมื่อเดินผ่าน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ นายกรัฐมนตรีได้เอามือแตะไหล่ให้กำลังใจ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้ไหวหรือไม่ นายกรัฐมนตรีหันมายิ้มพร้อมชู 2 นิ้วให้ ก่อนเดินขึ้นห้องประชุม


มีรายงานว่า ก่อนการประชุม พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ได้เรียกรอง ผบ.ตร.ทุกคนมาพูดคุยกันนอกรอบที่ห้องรับรองคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ บริเวณชั้น 1 อาคาร 1 ตร. จากนั้นเวลา 15.00 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงโดยก่อนเริ่มการประชุมนายกฯ ได้เรียก พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จตช. และพล.ต.อ.วินัย ทองสอง ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ เข้าพบที่ห้องรับรองพรหมนอก

ต่อมาเวลา 17.45 น. นายกฯ เดินทางกลับ แจ้งว่า ให้เลขานุการที่ประชุม ก.ตร.แถลงผลการประชุมโดยมี พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เดินลงมาส่ง แจ้งว่าการประชุมยังไม่เสร็จ

พล.ต.ท.อนุชา รมยนันทน์ ผบช.สง.ก.ตร.ในฐานะเลขานุการ ก.ตร.
ต่อมา พล.ต.ท.อนุชา รมยะนันทน์ ผู้บัญชาการสำนักงาน ก.ตร. ในฐานะเลขานุการ ก.ตร. แถลงว่า ตนเองได้รับมอบหมายให้มาชี้แจงเกี่ยวกับกรณีผู้ร้องขอให้ ก.ตร. พิจารณาเกี่ยวกับการปฎิบัติการบริหารงานบุคคลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าดำเนินการเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในกฎหมายหรือไม่ ใน 2 คำสั่ง คือคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 177 / 2567 ลงวันที่ 18 เม.ย. 67 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน และคำสั่ง ตร.ที่ 178 / 2567 ลงวันที่ 18 เม.ย.67 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจออกจากราชการไว้ก่อน ซึ่งทั้ง 2 กรณีที่ประชุม ก.ตร.มีมติเห็นชอบตามอนุฯ ก.ตร. ที่อนุฯ ก.ตร. วินัย เสนอว่าการดำเนินการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นไปตามหลักเกณฑ์ตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 กำหนดแล้ว

พล.ต.ท.อนุชา กล่าวว่า สำหรับกรณีที่การพิจารณายกเลิกหรือเพิกถอนคำสั่งนั้นไม่อยู่ในอำนาจของ ก.ตร.แต่อยู่ในอำนาจของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) ที่ประชุมจึงมีมติพร้อมทั้งผู้ที่ร้องได้ใช้สิทธิตามที่กฎหมายกำหนดต่อองค์กรดังกล่าวแล้วจึงให้ผู้ร้องรอการพิจารณาของ ก.พ.ค.ตร.ต่อไป

“ที่ประชุมมีมติเห็นชอบและไม่มีผู้คัดค้าน โดยในที่ประชุม ก.ตร.มาประชุมทั้งหมด 13 ท่านจาก 15 ท่าน มี 2 ท่าน ลาการประชุมและไปราชการ โดยอยู่ในการประชุมเพื่อพิจารณาลงมติ 12 ท่าน ซึ่งไม่มีผู้ใดคัดค้านที่ประชุมจึงถือว่าให้ความเห็นชอบต่อการประชุม” พล.ต.ท.อนุชา กล่าว

พล.ต.ท.อนุชา กล่าวว่า การดำเนินการในส่วนของกรณีที่มีผู้ที่คัดค้านหรือกรณีที่คณะกรรมการท่านใดที่เห็นว่าตนมีสภาพที่ทำให้การพิจารณาไม่เป็นกลางได้มีการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองทุกประการ ทั้งนี้มติที่ประชุมเสียงข้างมากเห็นชอบว่าการดำเนินการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นไปตามหลักเกณฑ์แล้ว โดยคณะอนุฯ ก.ตร.มี 19 ท่าน ไม่ได้อยู่ในปฎิบัติหน้า ที่มีประชุมและอยู่ลงมติ 15 ท่าน โดยมีมติเห็นชอบด้วย 14 ท่าน

สำหรับ ก.พ.ค.ตร. จะมีระยะเวลาพิจารณาตามที่กฎหมายกำหนดใน 120 วัน และขอขยายได้อีก 2 ครั้ง ขณะนี้อยู่ในระหว่าง 120 วันแรก น่าเชื่อว่าจะสามารถดำเนินการได้ภายในกำหนด

พล.ต.ท.อนุชา กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีคำสั่ง และมีการร้องขอให้ ก.ตร.ในฐานะองค์กรที่มีมีอำนาจกำกับดูแลเรื่องการบริหารงานบุคคลพิจารณาว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในกฎหมายหรือไม่ และมีการมอบหมายให้อนุฯ ก.ตร. วินัยพิจารณาและเสนอ ซึ่งอนุฯ ก.ตร.พิจารณา 2 ครั้ง แล้วเสนอขึ้นมาโดยมีความเห็นว่าการดำเนินการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นไปโดยถูกต้องตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดแล้ว และก.ตร.ก็มีมติโดยไม่มีผู้ใดคัดค้าน คือเห็นชอบตามที่อนุฯ ก.ตร.วินัยเสนอ ดังนั้นการดำเนินการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเรื่องการบริหารงานบุคคลทั้ง 2 คำสั่ง ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดแล้ว

พล.ต.ท.อนุชา กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษ นายกรัฐมนตรีได้ดำเนินการ ตามอำนาจหน้าที่ของประธาน ก.ตร. และดำการให้ที่ประชุมได้มีการอภิปราย อย่างครบถ้วน และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยให้ยึดถือตามกฎหมายและระเบียบ ตั้งแต่รัฐธรรมนูญลงมาจนกระทั่งถึงกฎหมายระดับอนุบัญญัติที่เกี่ยวข้อง

ส่วนเรื่องการเพิกถอนคำสั่ง คำสั่งดังกล่าวเป็นคำสั่งทางปกครอง การเพิกถอนคำสั่งในชั้นของฝ่ายบริหารอยู่ในอำนาจของ ก.พ.ค.ตร. ในชั้นของตุลาการอยู่ในอำนาจของศาล

สำหรับ ก.ตร. ทั้งหมดมีจำนวน 15 คน ในวันนี้ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ และ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข รรท.รอง ผบ.ตร. ลาประชุม ทำให้ที่ประชุมเหลือเพียง 13 คน ขณะที่พิจารณาวาระดังกล่าว พล.ต.อ.กิตติรัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.ได้เดินออกจากห้องประชุม เนื่องจากเป็นผู้ที่ลงนามในคำสั่งถือว่ามีส่วนได้เสีย ทำให้เหลือ ก.ตร. 12 คน โดยมี 1. นายเศรษฐา ในฐานะประธาน 2. น.ส.อ้อนฟ้า เวชชาชีวะ เลขาธิการ ก.พ.ร. 3. นายปิยะวัฒน์ ศิวะรักษ์ เลขาธิการ ก.พ. 4. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ 5. พล.ต.อ.ธนา ชูวงษ์ รอง ผบ.ตร. 6. พล.ต.อ.สราวุฒิ การพานิช รอง ผบ.ตร. 7. พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จตช. 8. นายประทิต สันติประภพ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ 9. พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ 10. นายศุภชัย ยาวะประภาษ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ 11. พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ 12. พล.ต.อ.วินัย ทองสอง ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ




กำลังโหลดความคิดเห็น