xs
xsm
sm
md
lg

ศาลฎีกาจำคุก 12 ปี อดีตผู้บริหารบริษัทปิคนิค คดียักยอกทรัพย์มูลค่า 700 กว่าล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ศาลฎีกาจำคุก 2 อดีตกรรมการบริษัท ปิคนิค คนละ 12 ปี คดียักยอกทรัพย์ 700 กว่าล้าน ส่วนกรรมการบริษัทที่ปรึกษาและทนายความ ไม่รอดโดนคุก 12 ปี แต่หลบหนี ศาลให้ออกหมายจับมารับโทษ

ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (25 มิ.ย.) ที่ห้องพิจารณาคดี 712 ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา หมายเลขดำ อ.1396/2557 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายสุเทพ อัคควุฒิไกร อดีตกรรมการรับมอบหมายให้จัดการทรัพย์สินของ บมจ.ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น, นายภาณุวรรณ เลิศวิเศษ อดีตกรรมการรับมอบหมายให้จัดการทรัพย์สินของ บมจ.ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น, บริษัท สีลม แอดไวซอรี่ เซอร์วิส จำกัด เป็นที่ปรึกษาด้านการปรับปรุงโครงสร้างหนี้, นายสนธยา น้อยเจริญ อดีตกรรมการบริษัท สีลมฯ, นายธรรมนูญ ทองลือ, หม่อมหลวง ชัยภัทร ชยางกุร, บริษัท แอสเซ็ท มิลเลี่ยน จำกัด และ นางวันดี โตเจริญ เป็นจำเลยที่ 1-8 ในความผิดต่อ พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 มาตรา 307, 308, 311, 313, 315

โดยคดีนี้ เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 2557 พนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องจำเลยทั้ง 8 กับ นายสุริยา ลาภวิสุทธิสิน อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ สรุปว่า เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2549-25 ธ.ค. 2550 จำเลยได้ร่วมกันสนับสนุน ช่วยเหลือ และกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกัน โดยร่วมกันยักยอกหุ้นบริษัท เวิลด์แก๊ส (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นทรัพย์สินของบริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PICNI มูลค่า 711 ล้านบาท และร่วมกันยักยอกเงินของ PICNI จำนวน 50 ล้านบาท เหตุเกิดที่แขวงสวนหลวง และหลายท้องที่ใน กทม.

เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2562 ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้ง 8 คน ส่วน นายสุริยา ลาภวิสุทธิสิน กับพวกอีกหลายคนได้หลบหนีคดีต่อมาพนักงานอัยการได้ยื่นอุทธรณ์ และเมื่อวันที่ 21 ส.ค. 2563 ศาลอุทธรณ์มีพิพากษาแก้เป็นว่า นายสุเทพ อัคควุฒิไกร จำเลยที่ 1 และ นายภาณุวรรณ เลิศวิเศษ จำเลยที่ 2 มีความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 มาตรา 313 ประกอบมาตรา 307, 308, 311 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83
การกระทำเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษฐานเป็นกรรมการ ซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของนิติบุคคลที่มีหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ร่วมกันเบียดบังเอาทรัพย์ของนิติบุคคลโดยทุจริตตามมาตรา 313 ประกอบมาตรา 308 จำคุกคนละ 12 ปี และปรับคนละ 1,522 ล้านบาท

ส่วน บริษัท สีลม แอดไวซอรี่ เซอร์วิส จำกัด จำเลยที่ 3 มีความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 มาตรา 315 ประกอบมาตรา 307, 308, 311, 313 ให้ลงโทษฐานช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่กรรมการ ซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของนิติบุคคลที่มีหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เบียดบังเอาทรัพย์ของนิติบุคคลโดยทุจริต ซึ่งต้องระวางโทษตามมาตรา 313 ประกอบมาตรา 308 เช่นเดียวกับจำเลยที่ 1 และที่ 2 ให้ปรับ 1,422 ล้านบาท

นายสนธยา น้อยเจริญ จำเลยที่ 4 และ บริษัท แอสเซ็ท มิลเลี่ยน จำกัด จำเลยที่ 7 มีความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ มาตรา 315 ประกอบมาตรา 307, 308, 311, 313 ให้ลงโทษฐานร่วมกันช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่กรรมการ ซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของนิติบุคคลที่มีหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เบียดบังเอาทรัพย์ของนิติบุคคลโดยทุจริต ซึ่งต้องระวางโทษตามมาตรา 313 ประกอบมาตรา 308

โดยจำคุก นายสนธยา น้อยเจริญ จำเลยที่ 4  2 กระทง กระทงละ 6 ปี รวมจำคุก 12 ปี ปรับ 1,522 ล้านบาท และให้ลงโทษปรับ บริษัท แอสเซ็ท มิลเลี่ยน จำกัด จำเลยที่ 7 จำนวน 1,522 ล้านบาท นางวันดี โตเจริญ จำเลยที่ 8 ยกฟ้อง สำหรับนายธรรมนูญ ทองลือ จำเลยที่ 5 กับ นายสุริยา ที่หลบหนีให้ออกหมายจับปรับนายประกัน

ต่อมา นายสุเทพ อัคควุฒิไกร จำเลยที่ 1, บริษัท สีลม แอดไวซอรี่ เซอร์วิส จำกัด จำเลยที่ 3 และ นายสนธยา น้อยเจริญ จำเลยที่ 4 ยื่นฎีกา อัยการโจทก์ไม่ฎีกา เมื่อถึงเวลานัด จำเลยที่ 1 และ3 มาศาล ส่วนจำเลยที่ 4 ซึ่งหลบหนี มีนายประกันมาศาล

ศาลฎีกาตรวจสำนวนปรึกษากันแล้ว เห็นว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า นายสุเทพ อัคควุฒิไกร จำเลยที่ 1 และ นายภาณุวรรณ เลิศวิเศษ จำเลยที่ 2 ครอบครองหุ้นตามฟ้องแล้วอาศัยโอกาสเป็นกรรมการบริหารบริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กระทำผิดหน้าที่เบียดบังหุ้นไปจริง โดยกระทำร่วมกันเป็นเหตุลักษณะคดี แม้จำเลยที่ 2 ไม่ฎีกา ก็มีผลถึงจำเลยที่ 2 ด้วย พิพากษาจำคุกยืน คนละ 12 ปี และพิพากษาแก้ปรับบทลงโทษเป็นไม่มีโทษปรับ ส่วนบริษัท สีลม แอดไวซอรี่ เซอร์วิส จำกัด จำเลยที่ 3 ศาลพิพากษาแก้ปรับบทลงโทษคงปรับ 1 ล้านบาท ส่วน นายสนธยา น้อยเจริญ ผู้บริหารบริษัท สีลมฯ และทนายความ จำเลยที่ 4 พิพากษายืนจำคุก 12 ปี และบริษัท แอสเซ็ท มิลเลี่ยน จำกัด จำเลยที่ 7 แม้ไม่ฎีกาแต่เป็นเหตุลักษณะคดีมีผลไปถึงด้วย คงปรับ 2 ล้านบาท

ภายหลังฟังคำพิพากษา นายสุเทพ อัคควุฒิไกร ซึ่งเคยเป็นผู้บริหารบริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มูลค่าระดับพันล้าน แต่วันนี้ได้ประกันตัวชั้นอุทธรณ์ เมื่อรู้ว่าจะเข้าเรือนจำก็ถอดสร้อยนาฬิกาฝากญาติ เพื่อไปเข้าเรือนจำรับโทษทันที
กำลังโหลดความคิดเห็น