xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลึกปมลับ : ล้ม ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ‘เพื่อไทย’ บอกเลอะเทอะ ใจแอบแซะ ‘ก้าวไกล’

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP สถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจNEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันอังคารที่ 25 มิถุนายน 2567 ตอน ล้ม ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ‘เพื่อไทย’ บอกเลอะเทอะ ใจแอบแซะ ‘ก้าวไกล’



การเมืองทุกวันนี้เห็นแต่วิวาทะของนักการเมืองต่างไซส์ระหว่างรุ่นใหญ่อย่างพรรคเพื่อไทยกับรุ่นใหม่จากพรรคก้าวไกล ซึ่งมีเรื่องให้ฟาดปากกันไม่เว้นแต่ละวัน แต่เวลานี้ได้ปรากฎภาพของใหญ่ชนใหญ่ที่เปิดโดย 'เจ๊หน่อย' คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ที่ออกมาระบุว่าพรรคเพื่อไทยมีแนวความคิดจะแก้ไขรัฐธรรมนูญยกเลิกการเลือกตั้งส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ เพื่อสกัดกั้นพรรคก้าวไกล

การสาวหมัดก่อนเจ๊หน่อยทำให้บรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทย ดาหน้าออกมาตอบโต้อย่างดุเดือด ไม่ว่าจะเป็น 'เศรษฐา ทวีสิน' นายกรัฐมนตรีที่ถึงสบถออกมาด้วยคำว่า 'เลอะเทอะ' หรือแม้แต่ 'ภูมิธรรม เวชยชัย' รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพาณิชย์ ก็ไล่กลับไปดูแลพรรคไทยสร้างไทยให้ดีก่อน และขอให้เลิกแค้นพรรคเพื่อไทยได้แล้ว

จากวิวาทะที่เกิดขึ้นนั้นสามารถมองได้ใน 2 มิติ โดยมิติแรกเป็นเรื่องความหลังระหว่างพรรคเพื่อไทยและคุณหญิงสุดารัตน์ ที่ครั้งหนึ่งทั้งสองฝ่ายต่างมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แต่เมื่อการเมืองมาถึงจุดเปลี่ยนตรงที่การกลับเข้ามามีบทบาทเต็มตัวของ 'หญิงอ้อ' คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมพชร (ชินวัตร) ภรรยา นายทักษิณ ชินวัตร ภายหลังสวมเสื้อเหลืองและการกราบสะเทือนแผ่นดิน ส่งผลให้เข็มทิศของพรรคเพื่อไทยเวลานั้นต้องเปลี่ยนไป

จากที่เคยยืนข้างกลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ก็ค่อยๆถอยออกมาและปล่อยมือลาขาดในที่สุด หรือแม้แต่ท่าทีคนในพรรคเพื่อไทยต่อปัญหาของประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ก็ปิดปากเงียบกลายเป็นเรื่องที่พูดไม่ได้เต็มปากเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นแรงเหวี่ยงมาถึงคุณหญิงสุดารัตน์เช่นกัน

พรรคเพื่อไทยในปีกของบ้านจันทร์ส่องหล้า เดินเกมเซาะกร่อนค่ายการเมืองของสุดารัตน์ไปทีละน้อย โดยเฉพาะการลดบทบาทในการเป็นแม่ทัพของพรรคในสนามการเมืองกรุงเทพมหานคร หรือ การแต่งตั้งกรรมการบริหารพรรคที่ไม่มีคนของเจ๊หน่อยเข้าไปทำหน้าที่ ทุกอย่างสะสมมาเป็นเวลานานจนสุดท้ายก็กลายเป็นสถานการณ์ที่ สองเจ้าแม่ไม่อาจอยู่ร่วมกันได้ และเป็นสุดารัตน์เองที่ต้องออกจากพรรคเพื่อไทยเมื่อปลายปี 2563

ในช่วงที่พรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทยพยายามจะจัดตั้งรัฐบาล ก็เป็นพรรคไทยสร้างไทยที่คอยออกมาดักคอให้พรรคเพื่อไทยแสดงจุดยืนให้ชัดเจนว่าจะกอดคอร่วมกันไปให้สุดทางในฐานะที่ชอบเรียกตัวเองว่าฝ่ายประชาธิปไตย ซึ่งเวลานั้นพรรคเพื่อไทยเองก็ไม่ค่อยพอใจกับท่าทีเช่นกัน ถึงกับครั้งหนึ่งหมอชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยเวลานั้นยังยอมรับว่าไม่สบายใจที่จะร่วมงามด้วย

การทิ้งบอมบ์ของสุดารัตน์ ในมุมของพรรคเพื่อไทยอาจเห็นว่าเป็นเรื่องของความแค้น แต่ในอีกมิติหนึ่งพรรคเพื่อไทยเองก็คงยอมรับตัวเองไม่ได้เช่นกันหากต้องแพ้การเลือกตั้งให้กับพรรคก้าวไกลอีกครั้ง ถ้ามีวิธีการใดที่จะตัดแข้งตัดขาพรรคก้าวไกลก็ต้องเร่งทำ ซึ่งหนึ่งในวิธีการทีว่านั้น คือ การลดหรือยกเลิกส.ส.บัญชีรายชื่อ

ปัจจุบันพรรคก้าวไกลมีส.ส.บัญชีรายชื่อ 39 คน คิดเป็นร้อยละ 38.48 พรรคเพื่อไทย 29 คน คิดเป็นร้อยละ 29.22 เรียกได้ว่ามีตัวเลขที่ขี่คอกันพอสมควร ซึ่งพรรคเพื่อไทยเองคงมองว่าแม้ตัวเองจะมีกระแสความนิยมทางการเมืองเป็นรองพรรคก้าวไกล แต่ถ้าเป็นเรื่องเครือข่ายทางการเมืองโดยเฉพาะ ‘บ้านใหญ่’ ในหลายจังหวัด พรรคเพื่อไทยยังได้เปรียบคู่แข่งพอสมควร

ดังนั้น การแก้ลดจำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อหรือเลิกไปเลยก็น่าจะทำให้พรรคก้าวไกลไม่ยิ่งใหญ่เหมือนที่ผ่านมา

การที่แกนนำพรรคเพื่อไทยต่างออกมาบอกว่าไม่มีทางแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นนี้ เพราะกฎหมายกำหนดเงื่อนไขให้มีส.ส.ฝ่ายค้านออกเสียงสนับสนุนบางส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ด้วย ถึงจะประสบความสำเร็จ แต่อย่าลืมว่ายังมีพรรคประชาธิปัตย์ที่พร้อมจะเป็นอะไหล่ให้กับพรรคเพื่อไทย หรือส.ส.พรคเล็กพรรคน้อยที่ไม่ได้มีตำแหน่งในฝ่ายบริหารที่พร้อมจะลงคะแนนให้

ดังนั้น ตัวเลขร้อยละ 20 จึงไม่ได้เป็นเรื่องที่ไกลตัวมากนัก ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าหากผลประโยชน์ลงตัว

------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore :https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play :https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android


กำลังโหลดความคิดเห็น