การยาสูบแห่งประเทศไทย เปิดโครงการพัฒนาที่ดินให้เช่าใน 3 แปลง พื้นที่กรุงเทพฯ 2 แห่ง “สุขุมวิท ซอย 10-สนง.ใหญ่การยาสูบ” อีกแห่งในพื้นที่เชียงราย สถานีใบยาเวียงพาน มีคนสนใจเข้าร่วมรับฟังข้อมูลข้อเสนอจำนวนมาก และในอนาคตมีที่ดินใจกลางเมืองอีกหลายแปลงที่รอเปิดให้เช่าระยะยาวเป็นสิบๆปี
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 18 มิ.ย.ที่ห้องเพลินจิต โรงแรมแกรนด์ เซ็นเตอร์ พอยต์ เพลินจิต ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพ ฯ นายภูมิจิตต์ พงษ์พันธุ์งาม ผู้ว่าการยาสูบแห่งประเทศไทย เป็นประธานการประชุมรับฟังความคิดเห็นและทดสอบความสนใจนักลงทุน "มาร์เก็ต ซาวน์ดิ้ง"ในโครงการพัฒนาที่ดินพร้อม ผลตอบแทนการจัดหาประโยชน์ของการยาสูบแห่งประเทศไทย ปีงบประมาณ 2567 โดยมีประชาชนตัวแทนจากภาคธุรกิจ ภาคเอกชน และกลุ่มนักลงทุน เข้าร่วมงาน
โดยภายในงานได้มีการจัดให้รับฟังเสวนาพิเศษ หัวข้อ "Lost World in The City" การเปิดโอกาสในการพัฒนาทรัพย์สินของรัฐวิสาหกิจ ในมุมมองการพัฒนาเมือง โดย รศ.จิตติศักดิ์ ธรรมาภรณ์พิลาศ, ผศ.ดร.ณัฐพงศ์ พันธ์น้อย ผู้เชี่ยวชาญด้านผังเมืองและพัฒนาเมือง จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ผศ.ดร.ชูชาติ เตชะโพธิวรคุณ ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พร้อมกับเปิดให้นักธุรกิจภาคเอกชน และนักลงทุนได้ร่วมแสดงความคิดเห็น เพื่อเป็นข้อเสนอแนะการดำเนินโครงการให้ร่วมลงทุนด้วย
นายภูมิจิตต์ กล่าวว่า เมื่ออดีต 2-3 ปีที่ผ่านมาเคยมีการนำที่ดินของการยาสูบนำออกมาประมูล โดยส่วนใหญ่ที่ดินจะนำไปให้กับเกษตรกรใช้ ซึ่งมีการนำผังใหญ่ที่ดินแต่ละแปลง รวบรวมมาให้ทางผู้เชี่ยวชาญเพื่อดูว่า ที่ดินแปลงใหญ่สามารถนำไปใช้ทำอะไรได้บ้าง โดยแบ่งออกเป็น 3 ประเภท เชิงพาณิชย์ หากเทียบกับพื้นที่ทั้งหมดประมาณร้อยละ 15 ที่สามารถพัฒนาศักยภาพในเชิงพาณิชย์และเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงอยู่ใจกลางเมือง หรือ ทำเลที่ดี สำหรับพื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นเชิงเกษตร ร้อยละ 60-70 % รองมาจะเป็นอุตสาหกรรม ส่วนระยะเวลาการเช่าที่ดินทั้ง 3 ประเภทหากเป็นเชิงพาณิชย์ที่มีศักยภาพการลงทุนสูงจากการวิเคราะห์ของDeveloper หรือที่ปรึกษาควรจะลงทุนในระยะยาว 30 ปี เพื่อให้เป็นโครงสร้างการพัฒนาต่อไป หรือพื้นที่ในเชิงพาณิชย์ เช่นในพื้นที่ของการยาสูบที่ต้องการให้เป็นพื้นที่สีเขียว และยังเป็นพื้นที่สีน้ำเงินซึ่งยังไม่สามารถลงทุนได้ในระยะยาว หรือแปลงเล็กๆ อาจลงทุนได้ระยะ 3-5 ปี อยู่ที่ดุลยพินิจของที่ปรึกษาว่าควรจะพัฒนาอย่างไรให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ส่วนเรื่องอุตสาหกรรมต้องไปตรวจสอบดูว่า จะสามารถดำเนินการอะไรได้บ้าง เช่นโลจิกส์ติกส์ หรือคลังสินค้า ส่วนพื้นที่การเกษตรในอดีตมีชาวนา ชาวไร่มาดำเนินการเช่าที่ปลูกใบยาสูบ ซึ่งขณะนี้มองในเรื่องคาร์บอนเครดิต การปลูกป่า ซึ่งมีการรับนโยบายจากคณะกรรมการในเรื่องเซ็ตซีโร่ คาร์บอนด้วย
นายภูมิจิตต์ กล่าวอีกว่า โดยในอดีตทางการยาสูบมีการพึ่งพาการจำหน่ายยาสูบเป็นหลักมากกว่า 95 % แล้วปัจจุบันมีการส่งออกใบยาในปริมาณสูง และสามารถส่งออกย้อนกลับได้ โดยต้องตรวจสอบได้ว่าปลูกจากที่ไหน ปลูกอย่างไร นอกจากนี้สำหรับพื้นที่อื่นๆของการยาสูบในบางแปลง อยู่ระหว่างการรอให้มีรถไฟความเร็วสูงตัดผ่าน เพื่อนำออกมาให้ได้ประมูลและพัฒนาตามระยะเวลาที่เหมาะสมและมีมูลค่าสูงขึ้นต่อไป
ทั้งนี้สำหรับที่ดินทั้ง 3 แปลงโครงการแรกตั้งอยู่ซอยสุขุมวิท 10 เขตคลองเตย กรุงเทพฯ แปลงที่ดินโฉนดเลขที่ 4744 และ 5215 พื้นที่โครงการรวม 2 ไร่ 2 งาน 93.1 ตารางวา เปิดประมูลให้เช่าระยะยาว 30 ปี ที่ดินอยู่ติดสวนป่าเบญจกิติ ฝั่งเหนือ เป็นพื้นที่ศักยภาพสูงบรรยากาศริมน้ำร่มรื่นและใกล้ชิดธรรมชาติ เหมาะสำหรับการพัฒนาโครงการ ในรูปแบบกิจกรรมการพักผ่อนหย่อนใจ การท่องเที่ยว ที่พักอาศัย และกิจกรรมเชิงพาณิชย์อื่น ๆ
โครงการที่ 2 พื้นที่บางส่วนของสำนักงานใหญ่ การยาสูบแห่งประเทศไทย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ แปลงที่ดินโฉนดเลขที่ 3505 และ 3507 โดยให้เช่าที่ดินเปล่า พร้อมอาคารกีฬาในร่ม สนามแบดมินตัน สนามเทนนิส พื้นที่โครงการรวม 9 ไร่ เหมาะสำหรับการพัฒนาโครงการในรูปแบบกิจกรรมด้านกีฬาสันทนาการ เปิดให้เช่าอายุสัญญา 10 ปี
โครงการที่ 3 แปลงสถานีใบยาเวียงพาน ถนนพหลโยธิน อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย พื้นที่โครงการ รวมกว่า 75ไร่ แปลงที่ดินขนาดใหญ่ติดทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 เข้าถึงได้ง่าย อยู่ในอำเภอแม่สาย ซึ่งเป็นเมืองการค้าขายแดนที่สำคัญและเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ทำเลที่ตั้งอยู่ใกล้กับสถานที่ ราชการ โรงพยาบาล และสวนสาธารณะ ด้วยทำเลที่ตั้งและสิ่งอำนวยความสะดวกทำให้ที่ดินแปลงนี้ มีศักยภาพ สามารถรองรับโครงการขนาดใหญ่ ส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาคได้เป็นอย่างดี
นอกจากที่ดินทั้ง 3 แปลงที่เปิดประมูลในครั้งนี้ การยาสูบ ฯ ยังมีที่ดินอีกหลายทำเลที่จะนำออก ประมูล อาทิ แปลงโรงงานผลิตยาสูบ 1 ด้านหน้าติดถนนเจริญกรุง ด้านหลังแปลงที่ดินติดแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้ กับเอเชียทีค ขนาดพื้นที่ประมาณ 5 ไร่เศษ ในอดีตที่ดินแปลงนี้เป็นโรงงานผลิตยาสูบแห่งแรก ซึงก่อนเก่าในอดีต เป็นอู่ข้าวอู่น้า สร้างรากฐานทางเศรษฐกิจให้กับประเทศชาติมาอย่างยาวนาน อีกแปลงได้แก่ โกดังตะวันออกอยู่ ตรงกันข้ามแปลงโกดังโรงงานผลิตยาสูบ 1 ขนาดพื้นที่ประมาณ 3 ไร่เศษ ก่อนหน้านี้ใช้ประโยชน์เป็นอาคารโกดัง เก็บใบยาสูบเพื่อรอการผลิต กระทั่งย้ายฐานการผลิตไปยังสวนอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หรือในต่างจังหวัดภาคเหนือ อาทิ จังหวัดลำปาง ซึ่งในอดีตการยาสูบฯ มีสำนักงานตั้งอยู่ในจังหวัด ลำปาง ริมถนนบุญวาทย์
ปัจจุบันอาคารสำนักงานฯ ไม่ได้ใช้งานแล้ว อาคารยังคงอยู่ในสภาพดี สามารถใช้ ประโยชน์ได้ มีผู้สนใจสอบถามขอเช่าหลายรายการยาสูบฯ จึงตัดสินใจนำออกประมูลให้เช่าในเฟสต่อไป ยั้งมีที่ดินอีกหลายแปลงทําเลใจกลางเมืองย่านธุรกิจ ในหลายจังหวัด ทั้งภาคเหนือ และภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นที่ตั้งสำนักงาน บางแปลงเคยใช้ประโยชน์เป็นแปลงเพาะปลูกใบยาสูบ กระทั่ง การยาสูบฯ ได้รับผลกระทบจากยอดจำหน่ายบุหรี่ที่ลดลง ที่ดินเพาะปลูกใบยาสูบหลายแปลงจึงถูกคัดสรรนำมา จัดประโยชน์โดยการให้เช่า อาทิ จังหวัดเพชรบูรณ์ หนองคาย ขอนแก่น สุโขทัย แพร่ เชียงใหม่ และเชียงราย
ทั้งนี้สำหรับการเริ่มประมูลจะเริ่มช่วงเดือนกรกฎาคม - สิงหาคม 2567 เปิดขายเอกสารการประมูล และเดือนกันยายน จะมีการประชุมชี้แจงพาชมสถานที่โครงการ และเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม เปิดให้ยื่นข้อเสนอและพิจารณาข้อเสนอโครงการ เมื่อถึงเดือนมีนาคม 2568 จะลงนามเช่าในสัญญา โดยประชาชนที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มหรือปรึกษาได้ที่ สำนักพัฒนาธุรกิจการยาสูบแห่งประเทศไทย