ศาลอาญาให้ประกันตัว “ทักษิณ” คดีมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หลังทนายยื่นหลักทรัพย์ประกันตัว 500,000 บาท เจ้าตัวปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ศาลนัดตรวจพยานหลักฐาน 19 ส.ค.นี้
วันนี้ (18 มิ.ย.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลได้พิจารณาคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอประกันตัว คดีหมายเลขคดีดำที่ อ.1860/2567 ที่อัยการสูงสุด สั่งฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร ฐานร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์
และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 112 คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 41 ลงวันที่ 21 ต.ค. 2519 ข้อ 1 พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 3, 14 พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 มาตรา 8
ศาลพิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหาและพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว เห็นว่า จำเลยให้การปฏิเสธมาตลอด อายุมาก ได้รับการปล่อยชั่วคราวในชั้นสอบสวน มีที่พักอาศัยเป็นหลักแหล่งแน่นอน อยู่กับครอบครัว ประกอบกับโจทก์ไม่คัดค้านการปล่อยชั่วคราว มีเหตุสมควรเชื่อว่า หากได้รับการปล่อยชั่วคราวระหว่างพิจารณาจำเลยจะไม่หลบหนี หรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือไปก่อเหตุอันตรายประการอื่นหรือขัดขวาง การพิจารณาของศาลอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยระหว่างพิจารณา โดยให้ตีราคาหลักประกัน 500,000 บาท กับให้จำเลยวางหนังสือเดินทาง ยึดหนังสือเดินทางและหลักประกัน ทำสัญญา ห้ามจำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาลและแจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ทราบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเช้า นายทักษิณ ชินวัตร พร้อมคณะ ที่เดินทางออกจากบ้านจันทร์ส่องหล้า ซอยจรัญสนิทวงศ์ 71 ย่านบางพลัด กรุงเทพฯ ด้วยรถเมอร์เซเดสเบนซ์ สีเทา เพื่อเดินทางไปรายการตัวที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก เพื่อนำตัวส่งฟ้องศาลอาญา รัชดาภิเษก หลังอัยการสูงสุดได้มีคำสั่งฟ้องนายทักษิณ ตาม มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ปรากฏว่า นายทักษิณ ได้เดินทางมาถึงศาลอาญา เวลา 08.50 น. โดยหลบกองทัพสื่อมวลชนไปเข้าด้านหลังศาลอาญา จากนั้นไปรายงานตัวกับอัยการทันที เพื่อนำส่งฟ้องตามข้อกล่าวหา ตามขั้นตอนของกฏหมาย
สำหรับบรรยากาศที่ศาลอาญาในช่วงเช้า มีแกนนำคนเสื้อแดงเดินทางมาให้กำลังใจนายทักษิณด้วย
ล่าสุด เวลา 10.42 น.มีรายงานว่า ศาลอาญาให้ประกันตัวนายทักษิณ หลังทนายยื่นหลักทรัพย์ประกันตัว 500,000 บาท โดยศาลนัดตรวจพยานหลักฐานคดีทั้งสองฝ่าย วันที่ 19 ส.ค.นี้ เวลา 09.00 น.
ขณะที่ นายวรชัย เหมะ เดินทางมาที่ศาลอาญาเพื่อร่วมรับฟังคดีของนายทักษิณ ชินวัตร เปิดเผยว่า เบื้องต้นนายทักษิณ ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ส่วน นายทักษิณ ไม่ได้มีสีหน้าเคร่งเครียด และโบกมือให้กับตนเองกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่เดินทางมาให้กำลังใจในวันนี้
ต่อมาเวลา 12.13 น. ภายหลังเสร็จสิ้นการสอบคำให้การ และได้รับอนุญาตประกันตัวแล้ว นายทักษิณจึงขึ้นรถเบนซ์เดินทางกลับทันที
สำหรับคำฟ้องระบุพฤติการณ์ว่า ขณะเกิดเหตุในคดีนี้และในปัจจุบันประเทศไทยมีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะผู้ใดจะละเมิดหรือจะกล่าวหาหรือจะฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใดๆ มิได้ ตามรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย ขณะเกิดเหตุเมื่อวันที่ 21-22 พ.ค. 2558 เวลากลางวัน, ทั้งเวลากลางวันและเวลากลางคืนต่อเนื่องกันตลอดมา จำเลยกับพวกที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้องได้บังอาจร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น และแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรตามประมวลกฎหมายอาญา ด้วยการร่วมกันใช้อุปกรณ์ที่มีระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งสามารถเชื่อมต่อการทำงานเข้ากับระบบคอมพิวเตอร์อื่นด้วยกันได้และอุปกรณ์ดังกล่าวได้มีการกำหนดคำสั่ง ชุดคำสั่ง และแนวทางปฏิบัติงานให้อุปกรณ์ทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลโดยอัตโนมัติ แล้วโพสต์ข้อมูล ภาพ ข้อความ และตัวอักษร ที่อยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ในสภาพที่ระบบคอมพิวเตอร์อาจประมวลผลได้ซึ่งตั้งค่าเปิดเป็นสาธารณะ ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ ลงในแอปพลิเคชัน YouTube กับแอปพลิเคชัน Facebook ดังกล่าวผ่านระบบสัญญานอินเตอร์เน็ตซึ่งเป็นสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) โดยจำเลยได้พูดให้สัมภาษณ์กับนักข่าวของสำนักข่าว Chosun Media ที่กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี เป็นภาษาไทย เมื่อวันที่ 20 พ.ค.โดยสำนักข่าว Chosun Media มีเว็บไซต์ข่าว Ur:http//www.Chosun เพื่อใช้ในการเผยแพร่ข่าว และจำเลยกับพวกที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้องได้บังอาจร่วมกันนำคลิปวิดีโอถ้อยคำ การพูดให้สัมภาษณ์ของจำเลยในชื่อ “คลิป ทักษิณให้สัมภาษณ์ทิ้งบอมบ์ เบื้องหลัง ยืดอำนาจ อัดสุเทพ บิ๊กทหาร องคมนตรี” เผยแพร่ที่เว็บไซต์ YouTube โดยใช้ชื่อ unthttps:// www.youtube.com/watch?v=tar/yCmbvABgo โดยผู้ที่ใช้ชื่อว่า news_viv ความยาว 1.32 นาที
และเผยแพร่ที่เว็บไซต์ facebook ชื่อบัญชี “หยุดดัดจริตประเทศไทย” ปรากฏตาม ur!: https://www.focebook.com/ stopfakethailand 2fref=ts
อันเป็นการล่วงละเมิด หมิ่นประมาทดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายสถาบันฯ ซึ่งประชาชนหรือบุคคลทั่วไปที่พบเห็นข้อมูล ข้อความ และตัวอักษรที่จำเลยได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวของสำนักข่าว Chosun Media ในกรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี ดังกล่าว เข้าใจว่า สื่อถึงสถาบันฯ และเข้าใจว่า การยึดอำนาจ รัฐประหารเป็นเรื่องที่ทหารได้รับคำสั่งมาจากในวัง พระมหากษัตริย์ออกมาช่วยในการทำรัฐประหาร และอยู่เบื้องหลังการทำรัฐประหาร ทั้งนี้ ราชอาณาจักรไทยมีการปกครองระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข ข้อความดังกล่าวเป็นการมุ่งทำลาย ดูหมิ่นด้วยการใช้ถ้อยคำหยาบคายต่อองค์พระมหากษัตริย์ด้วยความไม่เคารพต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นศูนย์รวมของศรัทธาและเคารพบูชาของประชาชนชาวไทย เป็นการร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธาไม่เคารพต่อองค์พระมหากษัตริย์ ซึ่งอยู่ในฐานะที่ผู้ใดจะละเมิดไม่ได้ และเป็นการกระทำมิบังควรจาบจ้วงล่วงเกินดูหมิ่น โดยประการที่น่าจะทำให้พระมหากษัตริย์ ทรงเสื่อมเสีย พระเกียรติยศ ชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง และทำให้ประชาชนเสื่อมความเคารพศรัทธาต่อพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 9 อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมายเหตุเกิดที่ เมืองกรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี และที่แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม.และทั่วราชอาณาจักร ต่อเนื่องเกี่ยวพันกัน
ในชั้นสอบสวนจำเลยให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาระหว่างสอบสวน จำเลยไม่ถูกควบคุมตัวโดยได้รับอนุญาตให้ประกันตัวตลอดมา หากจำเลยยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวโจทก์ขอให้อยู่ในดุลพินิจของศาล
จำเลยนี้เป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อม 9/2551 ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ให้จำคุก 4 ปี โดยจำเลยจะพ้นโทษคดีดังกล่าว ในวันที่ 31 ส.ค. 2567 ขอศาลนับโทษจำคุกของจำเลยในคดีนี้เรียงติดต่อกันกับโทษจำคุกของจำเลยในคดีอาญาดังกล่าวด้วย