“บิ๊กเต่า” คาด เรือของกลางขนน้ำมันเถื่อน 3 ลำ เข้าถึงน่านน้ำฝั่งไทยเย็นวันนี้ ยอมรับน้ำมันของกลางในเรืออยู่ไม่ครบ ส่งเรือเร็วคุมตัวลูกเรือพาเรือของกลางหนีกลับมาสอบปากคำ
วันนี้ (17 มิ.ย.) เมื่อเวลา 14.30 น. ที่ กองกับกับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำ จ.สงขลา พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. พล.ต.ต.พฤธิพงศ์ นุชนารถ ผบก.รน. พ.ต.อ.ศราวุธร ลิจฉวีราช รอง ผบก.รน. พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ, พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย, พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.2 บก.ป. พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป. พ.ต.อ.ปรเมษฐ โพยนอก ผกก.7บก.รน. พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 กรมเจ้าท่า, กรมศุลกากร, กรมสรรพสามิต ร่วมประชุมความคืบหน้ากรณีการนำเรือของกลาง 3 ลำ มาเทียบท่าเรือกองกำกับการ 7 ตำรวจน้ำ จังหวัดสงขลา
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยก่อนการประชุม ว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการลากจูงเรือเข้ามาในพื้นที่น่านน้ำไทย แต่เนื่องจากมีเรือเสียจำนวน 1 ลำ ทำให้การเคลื่อนที่กลับเข้ามายังฝั่งประเทศไทยเป็นไปได้ยาก และช้ากว่ากำหนด คาดว่า จะต้องใช้เวลาอีก 4-5 ชั่วโมง กว่าจะเข้าถึงพื้นที่น่านน้ำไทยได้ ในส่วนของเรื่องรายละเอียดการจับกุม ขณะนี้ยังต้องรอติดต่อกับชุดจับที่อยู่ภายในเรือ เนื่องจากการติดต่อสื่อสารเป็นไปได้ยากลำบาก ต้องใช้โทรศัพท์ผ่านดาวเทียมเท่านั้น ทำให้ยังไม่มีรายละเอียดของตัวผู้ต้องหาหรือเรือของกลางที่เจอมานำเสนอต่อสื่อมวลชน
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่า เมื่อเรือมาถึงฝั่งแล้ว ทางตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน 9 จะเป็นผู้ทำหน้าที่ในการตรวจเรือ และพนักงานสอบสวนก็จะทำหน้าที่สอบปากคำผู้ต้องหาที่อยู่บนเรือ หลังจากนั้น จะนำรายละเอียดทั้งหมดมาประชุมหารือและแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนอีกครั้ง โดยยืนยันว่า ของกลางและลูกเรืออยู่ไม่ครบ ตามจำนวนที่หายไป ทางตำรวจน้ำได้ส่งเรือเข้าไปควบคุมนำทางกลับมายังกองกำกับการตำรวจน้ำ 7 แล้ว และส่งเรือเร็วไปรับผู้ต้องหามาสอบปากคำก่อนที่เรือของกลางจะมาถึง
ด้าน พล.ต.ต.พฤธิพงศ์ กล่าวว่า ส่วนที่มีการเผยแพร่ภาพเรือ 3 ลำ ไปก่อนหน้านี้ ยืนยันว่า ไม่ใช่ภาพปัจจุบัน เนื่องจากการติดต่อสื่อสารและการส่งรายละเอียด รวมถึงรูปภาพยังทำได้ยาก เพราะจับกลางทะเล ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์มือถือแต่อย่างใด